xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจน้ำพังงาลงพื้นที่ตรวจจุดเรือทัวร์พานักท่องเที่ยวยิงปลาในทะเลแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจน้ำลงพื้นที่ตรวจสอบเรือนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวตกปลาในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ขณะที่เจ้าของเรือขึ้นเฟซฯ แจงไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวแม้กัปตันจะพาออกไปทำกิจกรรมที่นอกเขตอุทยานตามคำเรียกร้องของนักท่องเที่ยว พร้อมยื่นยันจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

จากกรณีมีการเผยแพร่ภาพผ่านทางเวปไซต์ของบริษัทแห่งหนึ่ง รวมทั้งเฟซบุ๊ค นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง ซึ่งเช่าเหมาเรือดำน้ำไปดำน้ำดูปะการังที่บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา และมีภาพนักท่องเที่ยวยิงปลามาจำนวนมาก ผ่านทางเวปไซต์ของบริษัทแห่งหนึ่ง รวมทั้งเฟซบุ๊ค จนเป็นที่วิพากวิจารณ์กันไปจำนวนมากถึงความไม่เหมาะสมในการกระทำดังกล่าวของนักท่องเที่ยวและเรือที่ให้บริการ

อย่างไรก็ตามหลังจากมีภาพเผยแพร่ออกไป ทางตำรวจน้ำพังงา นำโดยพ.ต.ท.จักรี เมฆอำพลสุทธิ์ สว.ส.รน.2 กก.8 บก.รน. ร.ต.อ.ภฤศธร อยู่ทอง รอง สว.ส.ทท.2กก.5บก.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ลงพื้นที่ตรวจสอบเรือทัวร์นำเที่ยวของบริษัทที่มีการเผยแพร่ภาพทันทีตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่า เรือทัวร์ ที่มีนักท่องเที่ยวปรากฎ เป็นเรือของบริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ตำบลลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่อุทายานแห่งชาติได้ขึ้นไปตรวจสอบพบลักษณะเรือเหมือนในภาพที่ปรากฏ ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบพบว่ามีเพียงเด็กเฝ้าเรือเพียงคนเดียว ส่วนนักท่องเที่ยวที่ลงไปดำน้ำจับปลาได้กลับขึ้นฝั่งไปเป็นที่เรียบร้อย จากการสอบปากคำเด็กที่อยู่บนเรือให้การว่าเป็นเรือที่นำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำยิงปลาจริง แต่อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันประมาณ 3 กิโลเมตร หลังจากได้ข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ได้นัดหมายกัปตันเรือและเด็กเรือเพื่อเดินทางไปชี้จุดและตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนของกรณีที่เกิดขึ้น

โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 4 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เขต 2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย พ.ต.ท.จักรี เมฆอำพลสุทธิ์ สว.ส.รน.2 กก.8 บก.รน. ( ตำรวจน้ำพังงา) ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดต่างๆที่เรือลำดังกล่าวพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำยิงปลาในทะเลแล้ว โดยจุดแรกที่ไปตรวจสอบอยู่ห่างจากหน้าเกาะ 4 หมู่เกาะสิมิลันประมาณ 4 ไมล์ทะล แต่จะต้องตรวจสอบจุดอื่นๆ ต่อไป

ขณะที่เจ้าของเรื่องได้ขึ้นข้อความชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊คถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า “สำหรับเรื่องที่ทุกคนกำลังตามหาดิงกี้สีเขียว เป็นดิ้งกี้เรือผมเองครับ เรือภาณุนี ผมเห็นโพสต์เรื่องนี้แล้วเมื่อเย็นวันนี้เอง ในขณะที่ผมมาทำงานอยู่ที่ต่างประเทศพอดี ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และมิได้นิ่งนอนใจ รีบทำการติดต่อกลับเพื่อสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ชอบการกระทำดังกล่าวเป็นที่สุดด้วยเช่นกัน ก่อนอื่นผมใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงบางประการ ครับ

1) ผมสอบถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงทราบว่านักดำน้ำชาวจีนฮ่องกงที่จองเหมาลำมาเพื่อดำน้ำตามปกติกลุ่มนี้ เพิ่งมาแจ้งบนเรือว่าต้องการจะตกปลา แต่ทางเรือชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้ เพราะอยู่ในเขตอุทยาน กัปตันห้ามเท่าไหร่ ลูกค้าก็ไม่ยอมฟัง จนสุดท้ายทางลูกค้าจึงต่อรองว่า ให้ช่วยพาไปที่อื่น ที่อยู่นอกเขตอุทยานก็แล้วกัน เนื่องจากกัปตันไม่สามารถติดต่อผมที่อยู่ต่างประเทศได้ และโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กัปตันคิดว่าถ้าอยู่นอกเขตอุทยาน คงจะไม่เป็นไร จึงได้ตัดสินใจนำเรือออกไปนอกเขตอุทยาน และให้ลูกค้าตกปลา ยิงปลาตามภาพที่แชร์กันอยู่

2) ผมสอบถามกับเจ้าของร้านดำน้ำฮ่องกงที่เป็นเอเยนต์ที่จองทริปมา (ตอนนี้ก็มางานนิทรรศการดำน้ำที่ต่างประเทศงานเดียวกัน) ทางเอเย่นต์ก็ไม่ได้ทราบมาก่อนเช่นเดียวกันว่าลูกค้าจะมาตกปลา และยิงปลา และเค้าก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
3) เย็นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยาน และตำรวจท่องเที่ยวได้เข้าไปตรวจเรือและสอบปากคำพนักงานเรือที่อยู่ในเหตุการ์ณนี้แล้ว และกัปตันจะพาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไปชี้จุดเกิดเหตุ ในวันพรุ่งนี้ วันที่ 4 เม.ย.)

4) ผมและเรือภาณุนี ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทุกประการสำหรับการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน 5) ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้รักทะเลทุกคน และผมเองก็เช่นกัน ผมอยู่ในวงการนี้มาหลายสิบปี การดำน้ำได้ให้โอกาส ให้อนาคตผมได้เรียนรู้ ประกอบสัมมาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องมาโดยตลอด ถือเป็นผู้มีพระคุณกับผมเป็นอย่างที่หาที่สุดไม่ได้ ผมไม่มีวันทำร้ายผู้มีพระคุณต่อผมอย่างแน่นอน 6) ทางผมรู้สึกเสียใจและรับผิดในเหตุการณ์ที่ขึ้นมานี้ และขอให้คำมั่นสัญญาว่า เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกบนเรือภาณุนีอย่างแน่นอน ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้โอกาสผมได้ชี้แจงครับ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น