- ไนท์แฟรงค์ เผยคอนโดฯ ซูเปอร์ไพรม์ กทม.คึกคัก เชื่อดูดนักลงทุนต่อเนื่อง เหตุที่ดินในไพรม์แอเรียเริ่มหายาก ดีดราคาขายพุ่ง จับตาย่านศูนย์กลางทางธุรกิจ สุขุมวิท รัชดาภิเษก และพหลโยธิน ราคากระฉูด ระบุปี 58 ตลาดวิลล่า ภูเก็ตยังซบ
นายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพรม์ในกรุงเทพฯ ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยในปี 2558 ที่ผ่านมา มียอดขายรวม 1,350 ยูนิต จากจำนวนซัปพลายรวม 1,814 ยูนิต หรือมีการระบายออกสูงถึง 74.4% ทั้งนี้ คอนโดฯ ซูเปอร์ไพรม์ เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย ชาวไต้หวัน ชาวจีนสิงคโปร์ และชาวจีนฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มซื้อเพื่อลงทุน
ทั้งนี้ ในปี 2559 นี้คาดการณ์ว่า ราคาของคอนโดฯ ระดับซูเปอร์ไพรม์จะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 10-15% นอกจากนี้ ด้านทำเลของตลาดคอนโดฯ ในภาพรวมนั้นย่านที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ เช่น รัชดา-พระราม 9 เพชรบุรี พหลโยธิน และลาดพร้าว ซึ่งระบบขนส่งมวลชนเข้าถึงอย่างสะดวก และรวดเร็ว เป็นทำเลที่น่าจับตา เนื่องจากอัตราการขยายตัวจะยังคงเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
“อนาคตคาดการณ์ว่าจะมีคอนโดฯ ประเภทที่สร้างบนที่ดินแบบให้เช่า (leasehold) ในย่านใจกลางเมืองเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เนื่องจากที่ดินที่เหลืออยู่ในศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และการท่าเรือแห่งประเทศไทย และอื่นๆ”
นายข่าน กล่าวว่า ตลาดคอนโดฯ ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ รวมทั้งย่านถนนสุขุมวิท รัชดาภิเษก และพหลโยธิน จะเติบโตขึ้นในปีนี้ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า เช่น โครงการบางแห่งที่ขยายตัวตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง จะเผชิญการแข่งขันสูง เนื่องจากมีจำนวนซัปพลายมาก ดังนั้น ผู้พัฒนาโครงการควรให้ความสำคัญในเรื่องการเลือกทำเลที่ตั้ง ในทางกลับกัน โครงการที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สีเขียว และสีส้ม มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากยังมีจำนวนซัปพลายไม่มาก ดังนั้น คอนโดฯ ย่านนี้น่าจะมีอนาคตที่สดใส หากเลือกทำเลที่ตั้ง และกำหนดรูปแบบคอนโดฯ ที่เหมาะสม และตรงใจลูกค้า รวมถึงราคาที่เหมาะสมด้วย ส่วนย่านรามคำแหง ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีส้มจะวิ่งผ่านนั้นจะเป็นย่านที่ขาดแคลนที่ดินผืนใหญ่ที่เหมาะสมในการสร้างโครงการคอนโด
ไนท์แฟรงค์ คาดการณ์ต่ออีกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวหินปีนี้จะยังคงทรงตัวเท่ากับปี 2558 โดยจำนวนอุปทานยังคงมีมากกว่าดีมานด์ ในขณะที่พัทยานั้นจะการเติบโตดีเพราะผู้ซื้อชาวจีน และชาวรัสเซียเริ่มกลับมา “เราจะเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวในพัทยาช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2559”
นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการบริหาร บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า ตลาดภูเก็ตอาจจะไม่ค่อยสดใสนัก เนื่องจากในปี 2558 มีจำนวนซัปพลายรวมทั้งหมด 11,177 หน่วย โดย 1,654 หน่วย เป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ ยอดขายสะสมของตลาดคอนโดฯ อยู่ที่ 7,393 ยูนิต นับตั้งแต่ช่วงปี 2551-2558 คิดเป็นอัตราขายที่ 64.89% โดยการลดลงของดีมานด์มีสาเหตุมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการอ่อนตัวของค่าเงินรูเบิล ส่งผลทำให้ผู้ซื้อชาวรัสเซียมีจำนวนลดลง และสะท้อนให้เห็นว่าตลาดวิลล่าในภูเก็ตยังชะลอตัว โดยมีวิลล่าเพียง 176 หลังที่ขายออกไปในปี 2015 เมื่อเทียบกับจำนวน 220-250 หลัง ที่ขายได้ในแต่ละปีในช่วง 2552-2557 อย่างไรก็ตาม ราคาขายเฉลี่ยของวิลล่าระดับซูเปอร์ไพรม์ที่เพิ่งเปิดตัวนั้นมีราคาพุ่งขึ้นสูงถึง 7-10 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อหลัง ทั้งนี้ วิลล่าที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ตั้งราคาขายอยู่ที่ 3-5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อหลัง
“อนึ่ง วิลล่าระดับซูเปอร์ไพรม์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเป็นวิลล่าที่ติดวิวทะเล โดยมีจำนวนห้องนอน 4-8 ห้อง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ หรือมากกว่า และมักบริหารจัดการโดยเครือโรงแรมจากต่างประเทศ ภูเก็ตเริ่มขาดแคลนที่ดินในการพัฒนาโครงการวิลล่าติดทะเล หรือเห็นวิวทะเล ดังนั้น บริษัทผู้พัฒนาโครงการพัฒนาควรเลือกหาทำเลที่ดี พร้อมกับสร้างจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ให้แก่โครงการใหม่ๆ ต่อไป”