ผู้ใช้ จยย. เดือด คำสั่ง บช.น. ห้ามใช้ 39 สะพาน 6 อุโมงค์ ทั่ว กทม. นัดรวมตัวยื่นหนังสือคัดค้านต่อ สตช. 5 เม.ย.นี้ เวลา 11.00 น.
จากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ออกข้อบังคับให้เจ้าพนักงานจราจรห้ามไม่ให้จักรยานยนต์เดินรถบนสะพานข้ามทางร่วมทางแยก จำนวน 39 สะพาน และอุโมงค์ลอดทางแยก 6 อุโมงค์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. นี้ เป็นต้นไป หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 - 1,000 บาท
เหตุดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลมีเดียจำนวนมาก โดยทางเพจเฟซบุ๊ก “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” ได้โพสต์ว่า จะเป็นแกนนำยื่นหนังสือที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 เมษายน เวลา 11.00 น. โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์มารวมพลังในวันและเวลาดังกล่าว พร้อมทั้งเชิญชวนให้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์คัดค้านคำสั่งฉบับนี้ด้วยการผูกริบบิ้นสีดำที่กระจกรถ หรือแฮนด์รถจักรยานยนต์
มีรายละเอียดดังนี้ “จากการที่มีพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์เรียกร้องกันเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทางทีมงานชมรมฯ จึงเห็นสมควรว่า จะนัดหมายพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ทุกท่าน รวมตัวกันยื่นหนังสือในวันที่ 5 เมษายน เวลา 11.00 น. ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวครับ
เรียนพี่น้องประชาชนและสมาชิกทุกท่าน ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเป็นแกนนำช่วยเหลือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจำนวนมาก ในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งของ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่เป็นคำสั่งที่ขัดต่อพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 9(1) ที่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ สำรวจความเห็นของประชาชน และต้องประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคำสั่งฉบับนี้เป็นคำสั่งฉบับชั่วคราว 90 วัน ก็ยังสงสัยว่าออกคำสั่งฉบับนี้มาเพื่ออะไร หรือว่าต้องการให้ประชาชนเป็นหนูลองยา ? ในการอ้างว่าแก้ปัญหาจราจรในพื้นที่นครบาล
ขอให้พี่น้องประชาชนแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กันนะครับ และจะขอเชิญชวนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกท่าน ร่วมกันคัดค้านด้วยการแสดงสัญลักษณ์ ด้วยการผูกริบบิ้นสีดำที่กระจกรถ หรือแฮนด์รถจักรยานยนต์ของท่าน เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านคำสั่งฉบับนี้
รอการนัดหมายที่จะไปยื่นหนังสือให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ออกคำสั่งฉบับนี้มา สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์จำนวนมาก โดยไม่เหมาะสม”