นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ชี้ กรณี “สรยุทธ” ถูกจำคุก 13 ปี เป็นบทเรียนให้คนทำสื่อโปร่งใส ชี้เจ้าตัวต้องแสดงความรับผิดชอบ สมควรหยุดจัดรายการ เช่นเดียวกับคณบดีนิเทศศาสตร์ ม.หอการค้า แนะควรพักหน้าจอ ถ้าศาลตัดสินบริสุทธิ์ค่อยกลับมา
วันนี้ (29 ก.พ.) นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวทางไทยทีวีสีช่อง 3 โดยไม่รอลงอาญา ในกรณียักยอกเงินค่าโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าว ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9 อสมท) ว่า ถือเป็นบทเรียนสำหรับคนทำสื่อ ที่เตือนให้รู้ว่าต้องมีความโปร่งใส ครอบคลุมในทุกเวที หากต้องการให้ข้าราชการ นักการเมือง มีมาตรฐาน สื่อก็ต้องมีมาตรฐานด้วย
ส่วน นายสรยุทธ จะสมควรที่จะยุติการจัดรายการหรือไม่ นายเทพชัย มองว่า ชัดเจนอยู่แล้วหลังศาลมีคำตัดสิน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องสปิริต แต่เป็นเรื่องที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ สมควรที่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่
ด้าน นายมานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า โดยภาพรวมคดีในลักษณะนี้ควรจะแสดงสปิริตด้วยการยุติทำหน้าที่หน้าจอเอาไว้ก่อน เพราะในบทบาท ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว หรือสื่อมวลชน ประชาชนคาดหวังและให้เครดิตค่อนข้างมาก เวลาที่เชิญแขกรับเชิญมาซักถาม ไม่ว่าจะเป็นประเด็นอะไรก็ตาม จะได้มีความโปร่งใสด้วย ขณะเดียวกัน ยังเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชน เป็นสปิริตอันหนึ่งที่สื่อมวลชนน่าจะได้กระทำออกมา
ส่วนต้นสังกัดอย่างไทยทีวีสีช่อง 3 ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของช่องรายการและสื่อมวลชน เพราะบทบาทไม่ใช่แค่เสนอข่าวสารเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นแบบอย่างต่าง ๆ ด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนในด้านจริยธรรม ในสังคมก็คงจะตั้งคำถามต่อบทบาทของพิธีกรและผู้ประกาศข่าว ถ้ามีคดีที่ยาวนาน และศาลตัดสินเช่นนี้ ก็ควรพักหน้าจอไว้ก่อน แล้วหลังจากนั้น ถ้าอีกสองศาลตัดสินว่าบริสุทธิ์ค่อยทำหน้าที่เหมือนเดิมก็ยังไม่เป็นไร
“ในเรื่องจริยธรรมมีการตั้งคำถามกันเยอะในแวดวงว่าควร ไม่ควรอย่างไร โดยเฉพาะหลังจากที่ ป.ป.ช. มีการชี้มูลต่าง ๆ แต่วันนี้เมื่อศาลตัดสินชัดเจนแล้ว เป็นบทบาทที่ดีที่ตัวพิธีกรควรจะแสดงสปิริตออกมาอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ช่องเองก็แสดงบทบาทชัดเจนออกมาด้วย มันเป็นจริยธรรม มันไม่ได้เป็นเรื่องของกฎหมาย” นายมานะ กล่าว
นายมานะ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องที่สื่อมวลชนทุกคนควรจะตระหนักถึง จริยธรรมหลายอย่างที่มีอยู่ควรที่จะพิจารณาและให้ความสำคัญ แม้จะไม่ได้มีโทษอย่างรุนแรงเหมือนทางกฎหมายก็จริง แต่สื่อมวลชนมีบทบาทที่จะเป็นแบบอย่าง และมีผลกระทบทางสังคมค่อนข้างมาก ในเรื่องราวต่าง ๆ ที่นำเสนอ คนที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนทั้งหน้าจอและหลังจอต้องตระหนักถึงจรรยาบรรณทางวิชาชีพ