xs
xsm
sm
md
lg

กดไลค์กันให้ลึ่ม! “ไมตรี จิตตินันทน์” ย้ายหน้าคนมาไว้บนหนังศีรษะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แปลก-แตกต่าง อย่างมีความคิด เปิดใจ “ไมตรี จิตตินันท์” นักรังสีวิทยาผู้ให้ช่างหั่นเส้นผมเป็นรูปใบหน้าของบุคคลต่างๆ ไล่ตั้งแต่โค้ชซิโก้ มาจนถึง “ปอ-ทฤษฎี” ซึ่งเป็นที่ถูกใจ กดไลค์และแชร์กันอย่างล้นหลาม

โดยสถานะ “ไมค์-ไมตรี จิตตินันท์” คือนักรังสีวิทยา แห่งโรงพยาบาลคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และด้วยโปรไฟล์แบบนี้ หลายคนคงแปลกใจว่าเพราะเหตุอันใด เขาจึงทำอะไรที่ดูแปลกแหวกแนวได้ขนาดนั้น เขาบอกกับเราเพียงสั้นๆ ในเบื้องต้นว่า มันไม่ใช่เพื่อความเท่ เพื่อสร้างจุดสนใจ หรือเกาะกระแส หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในความรักความชอบมาโดยตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี อย่างไรก็ดี มันยังมีเหตุผลมากกว่านั้น ในการนำ “ใบหน้าของคนอื่น” มาสถิตไว้บนหนังศีรษะ

• การตัดผมแนวแปลกๆ แบบนี้ มีที่มาที่ไปยังไงครับ

เป็นความชอบส่วนตัวและก็มีใจรักในทางนี้ด้วยครับ เริ่มทำทรงผมลักษณะนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2541 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มทำงานที่นี่เลย ผมไปตัดผมที่ร้านแถวอนุสาวรีย์ชัยฯ แล้วบังเอิญมีคนไข้แนะนำว่าถ้าคุณชอบตัดผมลักษณะนี้ ให้ไปลองตัดผมที่ร้านอาจารย์หนุ่มตรงบริเวณ เพชรเกษม 79 ตั้งแต่ตอนนั้นมา ก็มีชื่อเสียงตลอดมาเลย มีกี่งานต่อกี่งาน เราก็ถูกพูดถึงมาตลอด

ผมชอบทำอะไรที่ไม่เหมือนใครมี และไม่มีใครเหมือน เพราะว่าเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร สมมุติว่าพอมีคนไข้ไม่สบาย แล้วมาเห็นทรงผมของเรา เขาก็จะได้คลายเครียด อันนี้ผมว่าเป็นจุดหนึ่ง แล้วก็เป็นมิติใหม่ด้วย ที่ยังไม่มีใครเคยทำ

• ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกจากที่เห็น พอทำให้นึกถึง พญ. พรทิพย์ โรจนสุนันท์ เลย

ใช่ครับ เพราะว่าผมก็เรียนจบมาจากที่เดียวกันกับคุณหญิงหมอ (โรงพยาบาลรามาธิบดี) อาจจะเรียกว่าเป็นบุคคลต้นแบบสำหรับผมเลยก็ได้ คืออย่ามองแค่ทรงผมและการแต่งตัว ให้มองที่การกระทำและจิตใจ ถามว่ามีผลกับการทำงานแบบนี้มั้ย ในส่วนผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้ว่าอะไร และไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน แต่อาจจะมีบ้างเล็กน้อยตรงที่ยังมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับภาพลักษณ์ของเรา อย่างเช่น เป็นนักรังสีการแพทย์ ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นเสียงชื่นชม ซึ่งเขาจะบอกว่าเป็นสีสัน เวลาคนไข้มาตรวจและเห็นทรงผมที่แปลกตาไปจากเดิม เขาก็จะยิ้มๆ ทำให้ผู้ป่วยหายเครียดได้ด้วย ตัวอย่างเช่น มีคนไข้อยู่รายหนึ่ง เขามาเอ็กซเรย์ที่นี่ แล้วมาเจอผม เขาก็บอกกับผมว่า “หนูนี่แปลกดีนะ ทำไมตัดทรงแบบนี้ ป้าดูแล้วก็มีความสุขนะ”

• คุณกำลังจะบอกว่าการที่เป็นตัวตนแบบนี้ มันเหมือนกับได้แหกกฎหน่อยๆ

(นิ่งคิด) ผมว่ามันเป็นสีสันในการแหกกฎมากกว่า มันเป็นสีสันในเทศกาล โดยเฉพาะคนไข้ที่เข้ามาชื่นชม บางทีก็มาขอถ่ายรูป เช่น ในช่วงวันวาเลนไทน์ หรือวันคริสต์มาส ผมก็ตัดผมตามเทศกาล คนไข้เห็นก็จะมาขอถ่ายรูปด้วย แม้กระทั่งเวลาที่ผมโดยสารรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดิน ยังมีคนเข้ามาทักเราเลยว่า ใช่เรามั้ย ที่เคยไปออกรายการนู่นนี่ เราตอบว่าใช่ครับ ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่ว่าเขาจำเราได้ด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนคนอื่น

• คิดว่ามันมีผลในเชิงจิตวิทยารักษาคนไข้ด้วยหรือเปล่า

ใช่ครับ อย่างที่บอกว่าเป็นสีสัน ทำให้คนไข้หายเครียด เพราะจุดประสงค์ของการมาโรงพยาบาล แน่นอนคือเขาไม่สบาย เขาเจ็บป่วยมา แล้วเขาก็มาดูอะไรใหม่ๆ ทำให้อารมณ์ดี อย่างบางครั้ง คนไข้มาเอ็กซเรย์แล้วไม่ให้ความร่วมมือ เราก็มีจิตวิทยา ต้องพูดกับเขาว่าต้องนิ่งๆ นะ หรือหาสิ่งของมาหลอกล่อ โดยเฉพาะเด็ก เพราะว่าธรรมชาติของเขาจะซุกซน อยู่ไม่นิ่งเสมอ จะชอบขยับซ้ายทีขวาที เราก็อาจจะหาของเล่นให้เขาสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นทรงผมของเรา เราก็จะหลอกล่อว่า ดูทรงผมน้าสิ ซึ่งเด็กบางคนเขาก็มองและหยุดร้องไห้เลยก็มี แต่ถ้ามองหน้า เขาอาจจะกลัวและร้องไห้หนักกว่าเดิม (หัวเราะ)

• การดูแลทรงผมล่ะครับ มีวิธีการอย่างไร

ก็ปกติธรรมดา คือมีคำถามมากมายเลยนะว่า ทำไมผมถึงได้ขึ้นไว ทำไมจึงสามารถตัดได้ทุกเทศกาล ก็ไม่มีอะไรมาก สระผมทุกวัน เช้าเย็น ใช้ชีวิตปกติ คนมองก็มองไป เพราะผมชินแล้ว ณ จุดนี้ แต่ตอนแรกๆ ก็มีเขินๆ นิดๆ นะ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย เพราะอย่างที่บอก เราทำไปแล้ว เราต้องมีความมั่นใจ อย่างบางคนอาจจะมีหมั่นไส้บ้าง (หัวเราะ) หรือไม่แน่ว่า วันดีคืนดี อาจจะเอาไม้หน้าสามมาตีหัวเราก็ได้ (หัวเราะอีกครั้ง) ซึ่งก็มีคนเตือนเรามาเหมือนกัน แต่บอกได้เลยว่าไม่กลัว ถ้ามันจะโชคร้าย ก็ถือว่าช่วยไม่ได้จริงๆ แล้วผมก็ทำมาตั้งนานแล้วด้วย

• มองว่ามันเป็นศิลปะด้วยมั้ยครับ

ทำนองนั้นครับ และการทำอะไรแบบนี้ก็ซบเซากันไปนาน แต่ตอนนี้ ร้านที่ตัดผมแบบนี้ กำลังกลับมาแล้ว มีการแกะลายต่างๆ และส่งมาให้ผมดู แม้กระทั่งร้านตัดผมต่างจังหวัดก็ยังมีส่งมาเลยนะ บางคนอาจจะคิดว่าเป็นคู่แข่งกัน แต่ผมคิดว่าดี มันเป็นการสร้างสีสันมากกว่า ไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่งอะไรกัน

• ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว การตัดผมแบบนี้ เป็นเรื่องที่ใหม่มาก

ใช่ครับ โดยเฉพาะการแกะลายหน้าเหมือน ผมว่ามีน้อยคนนักที่จะทำได้ ซึ่งแตกต่างจากลายปกติ ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ เพราะลายหน้าคนมันต้องมิติ มองในเรื่องเงาด้วยว่ามันจะได้มั้ย หรือองค์ประกอบทั้งหลาย เช่น ความหนา ความบาง แถมทำแล้วต้องมีความมั่นใจอีก เพราะทำไปก็ต้องมีคนมองอยู่แล้ว แต่สำหรับเราก็เฉยๆ นะ คนมองก็มองไป คนมองผมก็ยิ้ม โดยเฉพาะฝรั่งนะ บางคนยกนิ้วโป้งและบอกว่า Good Idea เลยก็มี

• ในส่วนของทรงผมใบหน้า ปอ-ทฤษฎี เพราะอะไรถึงได้ทำทรงนี้ครับ

เขาเป็นคนดีและมีคุณธรรม แล้วก็สื่อว่าคนที่เป็นไข้เลือดออก แค่ยุงกัดตัวเดียว มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว เราต้องรณรงค์เกี่ยวกับไข้เลือดออก ให้ประชาชนเขารับรู้ว่า ไข้ประเภทนี้ มันสามารถทำให้คนตายได้นะ บางคนยังคงคิดอยู่ว่าไม่เป็นไร แถมยังมีคิดอีกว่าเหมือนไข้หวัดปกติ กินยา แป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย แต่ถ้าเกิดเชื้อมันดื้อ บางทีอาจจะไม่หายก็ได้ เพราะฉะนั้น เราต้องรณรงค์ในเรื่องนี้ ให้คนไทยได้รับรู้ว่ามันทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ผมว่าคนไทยน้อยคนนะที่จะรู้ว่าโรคไข้เลือดออก เป็นแล้วอาจจะเสียชีวิต ผมก็เลยเอากรณีของคุณปอเป็นตัวอย่างและจุดประสงค์ในการรณรงค์เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก ไม่ได้ไปเกาะกระแสอะไรอย่างที่เขาว่ากัน แล้วเราอยู่ในสายทางการแพทย์ด้วย ตรงนี้แหละสำคัญ แต่ก็มีเสียงคอมเมนต์มาบ้างเหมือนกันว่า ทำตามกระแสบ้าง แต่ผมก็เฉยๆ ถ้าจะมาจุดนี้แล้ว ก็ต้องมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา ซึ่งเราก็ทำใจไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปตอบโต้อะไร มันขึ้นอยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่าจะมองยังไง คิดยังไง

• กล่าวโดยสรุปก็คือ บุคคลที่จะมาอยู่บนหัวคุณนั้น ต้องเป็นคนดีและมีคุณธรรม

(พยักหน้า) แล้วก็ให้กำลังใจเขาในการทำงาน และย้ำเลยว่า ไม่ได้เกาะกระแสอะไร ไม่ได้อยากดังทั้งนั้น เราต้องเชิดชู ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างตอน Bike For Dad ที่ผ่านมา ผมทำรูป ภปร.เพราะว่าเป็นการเชิดชูจากที่กล่าวมา แต่ที่มันดัง เพราะมีคนเอาไปแชร์

• เคยตัดผมแบบเรียบร้อยตามแบบคนทำงานหรือเปล่าครับ

เคยครับ จะเป็นช่วงที่ทำฟันฟรีในโครงการของสมเด็จย่า ในทุกปี ผมก็จะตัดผมเป็นรูปฟัน ซึ่งมันก็เป็นการสื่อสารด้วย เพราะทำให้คนที่เห็นทรงผมของผมได้รู้ข่าวว่า ที่โรงพยาบาลจะมีกิจกรรมนี้ อย่างที่บอกว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ ผมจะเอาไปทำ ซึ่งปกติไม่มีใครเขาทำหรอก ที่เอารูปฟันไปไว้บนศีรษะ

• คิดว่าอนาคตข้างหน้าก็ยังจะตัดผมแบบนี้ต่อไป

ก็จะทำไปเรื่อยๆ ครับ มันเป็นสีสันของตัวผมและคนรอบข้าง ทำแล้วดูไม่เครียด เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่อย่างที่บอก เวลาทำ เช่น ถ้าเราจะทำหน้าของใครสักคน เราต้องให้ความเคารพกับบุคคลนั้นด้วย ไม่ใช่ว่าทำแล้วไปแสดงอะไรที่มันไม่ดี เพราะว่ามันมีรูปของคนนั้นๆ อยู่บนหนังศีรษะของเราด้วย เราต้องให้เกียรติเขา เช่น ทำทรงผมหน้ารูปซิโก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) เราคิดว่า เมื่อก่อนบอลไทย เราแทบจะไม่ได้แชมป์เลย แต่โค้ชซิโก้เป็นคนปลุกกระแสให้วงการฟุตบอลตื่นขึ้นมา แล้วเป็นที่นิยม ตอนนี้ก็เป็นแชมป์อะไรมากมาย การทำทรงผมรูปหน้าซิโก้ก็เป็นการให้เกียรติเขา ให้กำลังใจเขา ผมเคยไปเชียร์ฟุตบอลแล้วได้เจอโค้ชซิโก้ เขาตบไหล่ผมหนึ่งครั้ง แล้วบอกกับเราว่า “ขอบใจมากนะน้องที่ให้กำลังใจ” ผมคิดว่าเขาก็คงจะงงๆ เหมือนกันนะ คือไม่คิดว่าจะมีคนทำอย่างนี้ (ยิ้ม)




เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : วชิร สายจำปา และร้าน อ.หนุ่ม (ศิลปะแกะลายผม) ซอยเพชรเกษม 79


กำลังโหลดความคิดเห็น