xs
xsm
sm
md
lg

จอดำทันที! “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” หยุดส่งสัญญาณทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่องผ่านโครงข่ายไทยพีบีเอส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



ASTVผู้จัดการออนไลน์ - (ล่าสุด) ทีวีดิจิตอลของ “ติ๋ม ทีวีพูล” ทั้งสองช่องจอดำ หลังก่อนหน้านี้ กสทช. สั่งให้ชำระค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 แต่ยังเงียบ ด้านฝ่ายวิศวกรรม “ไทยพีบีเอส” ระบุทั้งสองช่องตัดสัญญาณเอง “ไทยทีวี” หยุดส่งจากต้นทาง “เอ็มวีทีวีแฟมิลี่” ส่งคนมาดึงสายสัญญาณออกที่ตึกใบหยก 2 ก่อนหน้านี้กำลังดีล “กึ้ง - เฉลิมชัย” ให้เทกโอเวอร์ต่อ แต่ยังไม่เป็นที่ยุติ

วันนี้ (1 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 00.01 น. สถานีโทรทัศน์ไทยทีวี และสถานีโทรทัศน์เอ็มวีทีวี แฟมิลี่ ของบริษัท ไทยทีวี จำกัด ซึ่งมีนางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย เจ้าของนิตยสารทีวีพูลเป็นเจ้าของ ไม่สามารถรับชมผ่านเครือข่ายทีวีดิจิตอลภาคพื้นดิน รวมทั้งกล่องรับสัญญาณดาวเทียมทั้งทรูวิชั่นส์ และกล่องแอนดรอยด์ทีโอทีไอพีทีวีได้ โดยเมื่อเวลา 00.01 น. ขณะที่ช่องไทยทีวีกำลังออกอากาศสารคดี พบว่า ภาพได้ค้างประมาณ 30 วินาที ก่อนที่จะไม่มีสัญญาณภาพและเสียงเข้ามา ส่วนช่องเอ็มวีทีวี แฟมิลี่ ออกอากาศภาพยนตร์จีน ชุด พิสูจน์รักชนะใจเธอ พบว่าเวลา 00.06 น. ภาพได้ค้างประมาณ 30 วินาที ก่อนที่จะไม่มีสัญญาณภาพเช่นกัน หลังจากนั้น ทั้งสองช่องได้ขึ้นแถบสี หรือ คัลเลอร์บาร์ ที่แสดงให้เห็นว่าไม่มีการออกอากาศอีกต่อไป

จากการตรวจสอบพบว่า องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล (MUX) แก่ผู้ประกอบการดังกล่าว ได้ตัดสัญญาณภาพและเสียงของสถานีโทรทัศน์ทั้งสองช่อง ส่งผลทำให้ผู้ชมผ่านกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล รวมทั้งกล่องรับสัญญาณดาวเทียมที่ผู้ให้บริการดึงสัญญาณจากทีวีดิจิตอลอีกที ไม่สามารถแพร่ภาพออกอากาศได้อีกต่อไป โดยที่ผ่านมาไทยพีบีเอสมีลูกค้าที่เช่าโครงข่ายทีวีดิจิตอลแก่ภาคเอกชน 3 ราย ได้แก่ บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด 2 ช่องความคมชัดปกติ (ช่อง 3 แฟมิลี่ และช่อง 3 เอสดี) และ 1 ช่องความคมชัดสูง (ช่อง 3 เอชดี), บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชัน จำกัด 1 ช่องความคมชัดปกติ (ช่อง 8) และ บริษัท ไทยทีวี จำกัด 2 ช่องความคมชัดปกติ (ช่องไทยทีวี และช่องเอ็มวีทีวี แฟมิลี่)

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 02.45 น. มีรายงานเพิ่มเติมจากฝ่ายข้อมูลและวางแผนวิศวกรรม ไทยพีบีเอส ว่า ช่องไทยทีวี และช่องเอ็มวีทีวีแฟมิลี่ เป็นฝ่ายตัดสัญญาณการออกอากาศเอง โดยที่ไทยพีบีเอสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยในส่วนของช่องไทยทีวีนั้นตัดสัญญาณจากต้นทาง ที่สำนักงานของไทยทีวีในซอยลาดพร้าว 101 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ส่วนช่องเอ็มวีทีวีแฟมิลี่นั้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดึงสายสัญญาณออก ที่ห้องส่งสัญญาณกลาง ไทยพีบีเอส ปัจจุบันตั้งอยู่บนชั้น 84 โรงแรมใบหยกสกาย (อาคารใบหยก 2) ถนนราชปรารภ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติให้บริษัท ไทยทีวี ชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 และค่าธรรมเนียมใบอนุญาต รวม 288 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 ต.ค. หากพ้นกำหนดจะพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน มีผลทำให้ทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่อง ถูกระงับการออกอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป หากยังไม่ยอมชำระเงินประมูลก็จะพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราวไปอีกครั้งละ 30 วัน รวมไม่เกิน 3 ครั้ง ซึ่งหากพักใบอนุญาตครบทั้ง 3 ครั้งแล้วแต่ยังไม่ชำระเงินอีก กสท. จะกำหนดมาตรการที่รุนแรงขั้นต่อไป ขณะเดียวกันจะรายงานมติดังกล่าวไปยังศาลปกครองอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า นางพันธุ์ทิพาได้พยายามหาพันธมิตรทางธุรกิจให้กับทีวีดิจิตอลทั้งสองช่อง โดยที่ผ่านมาได้นายชัยยุทธ ทวีปวรเดช เจ้าของธุรกิจทีวีดาวเทียมภายใต้ชื่อ เอ็มวีทีวี เป็นพันธมิตรทางธุรกิจให้กับช่องรายการเด็ก เยาวชน และครอบครัว โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็นช่อง เอ็มวีทีวี แฟมิลี่ และการนำผู้ร่วมทุนรายใหญ่อย่างกลุ่มกระจกไทยอาซาฮี และกลุ่มโอสถสภา จากนั้นเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนมีกระแสข่าวว่า นางพันธุ์ทิพาได้เจรจากับ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ หรือ กึ้ง เจ้าของบริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเข้าร่วมการประมูลทีวีดิจิตอลแต่ไม่ได้ชนะการประมูล เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจให้กับช่องไทยทีวี แต่ต้องชำระเงินค่าใบอนุญาตและค่าปรับล่าช่าให้กับ กสทช. พร้อมดอกเบี้ยค่าผิดชำระและค่ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ร้อยละ 2 แทนนางพันธุ์ทิพา ซึ่งการเจรจานั้นไม่ชัดเจน เพราะบางข้อยังไม่ยุติ กระทั่งเกิดเหตุการณ์จอดำดังกล่าว

อนึ่ง เมื่อวันที่ 26 พ.ค. บริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอเลิกใบอนุญาตและการประกอบกิจการทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่อง เนื่องจากมิได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ระบบภาคพื้นดินไปยังระบบดิจิตอล ส่งผลทำให้ประชาชนทั้งประเทศไม่สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ และสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย ก่อนที่ในวันต่อมา ตัวแทนบริษัทได้ขอยุติการออกอากาศในระบบทีวีดิจิตอล เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน 320 ล้านบาท โดยจะไปออกอากาศในระบบดาวเทียม เว็บไซต์ และมือถือ รวมทั้งจะผลิตรายการให้กับฟรีทีวี

ต่อมาวันที่ 30 มิ.ย. บริษัท ไทยทีวี ได้ยื่นฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง ไม่ปฎิบัติหน้าที่ให้ไปตามแผนแม่บทที่ได้กำหนดไว้ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล พร้อมยื่นขอให้คุ้มครองชั่วคราวและเรียกร้องให้ กสทช. จ่ายค่าเสียหาย 717 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และขอให้มีคำสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติเป็นโมฆะทั้งหมด จากนั้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ศาลปกครองกลางไกล่เกลี่ยให้ทั้ง กสทช. และบริษัท ไทยทีวี ไปหาทางออกร่วมกันอีกครั้ง โดยให้สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีดำเนินการออกอากาศต่ออีก 3 เดือน ระหว่างปรับแผนธุรกิจหาผู้ร่วมทุนใหม่ เพื่อให้ไทยทีวีเดินหน้าธุรกิจทีวีดิจิตอล.
กำลังโหลดความคิดเห็น