ASTVผู้จัดการ - รู้จักเส้นทางชีวิตนายตำรวจเงาตามตัว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เจ้าของฉายา “เทวดา” ในแวดวงตำรวจ “พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย” ผู้ช่วยนายเวรรอง ผบ.ตร. จูดี้ กับภาพลักษณ์ กิตติศัพท์ และข้อเท็จจริงที่ประชาชนต้องตั้งคำถาม
ข่าวการเดินทางออกนอกประเทศไปร่วมงานวันเกิดของพี่ชาย ที่ประเทศฝรั่งเศส ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่สนใจของประชาชนอย่างยิ่งว่าเธอจะกลับมาเมืองไทยอีกเมื่อไหร่ หลังจากเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตจำนำข้าว อีกไม่กี่วันถัดมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้เดินทางไปพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่จำนวน 15 ใบ โดยแบ่งเป็นส่วนที่โหลดเข้าเครื่องจำนวน 12 ใบ และนำขึ้นเครื่องด้วยตัวเองจำนวน 3 ใบ ทั้งนี้ มี พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย หรือ หนุ่ย ผู้ช่วยนายเวรรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ) เป็นผู้ควบคุมการขนย้ายอย่างใกล้ชิด และเป็นที่น่าสังเกตว่า พ.ต.อ.วทัญญู พยายามเลี่ยงจากกลุ่มสื่อมวลชน ทั้งที่โดยปกติจะเข้ามาทักทายอย่างสนิทสนม
ทั้งนี้ คณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยสารเครื่องของสายการบินไทย เที่ยวบิน TG930 ปลายทางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยเพื่อน 2 คน และผู้ติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีก 3 คน รวมถึง พ.ต.อ.วทัญญู เดินทางไปด้วยเท่านั้น แม้กระทั่งคนในตระกูลชินวัตรที่มีกระแสข่าวว่าจะเดินทางไปพร้อมกันนั้น ไม่ได้โดยสารเที่ยวบินนี้แต่อย่างใด ขณะที่กระแสของโลกโซเชียลยังได้เผยแพร่แชร์รูปภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และผู้ติดตามคือ พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย กันอย่างกว้างขวาง
สำหรับ พ.ต.อ.วทัญญู ผู้ช่วยนายเวร (ผู้ช่วย นว.) ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. มีฉายาที่เรียกกันในวงการว่า “เทวดาหนุ่ย” พ.ต.อ.วทัญญู ถือเป็นตำรวจหน้าตารูปหล่อ มีหน้าที่คือยืนอยู่ด้านหลังคอยติดตามรักษาความปลอดภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปทุกแห่งทุกหน และก็เป็นคนเดียวกับที่เคยเป็นตำรวจชุดรักษาความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งครอบครัวตระกูลชินวัตร
การเรียก พ.ต.อ.วทัญญู เป็น “เทวดา” ไม่ใช่เป็นเรื่องอุปโลกน์กันเล่นๆ หรือเรียกเอาสนุกปาก แต่เพราะเส้นทางการเติบโตชีวิตราชการสีกากีของ พ.ต.อ.วทัญญู หรือที่คุ้นๆ กันในชื่อสารวัตรหนุ่ย นับตั้งแต่ออกมาจากสำนักงาน พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผบ.ตร. มาอยู่ในทีมอารักขา พ.ต.ท.ทักษิณ สมัยที่ พล.ต.ต.อรรถกฤษ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการกองสลากฯคนปัจจุบัน เป็นหัวหน้าทีมอารักษานายกฯทักษิณ ก้าวขยับดุจเทวดา
แม้ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจหลังปี 2549 เส้นทางชีวิตราชการ พ.ต.ท.วทัญญู จะตกฮวบตามเจ้านาย ถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. สมัยนั้น เซ็นคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 91/2551 ลงวันที่ 6 ก.พ. 2551 ให้ไปเป็น สว.สป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา แต่ก็ไม่ลงไปทำงานอย่างจริงจัง เพราะมีคำสั่งให้มาช่วยราชการสำนักงาน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ช่วงที่เป็น รอง ผบ.ตร. และมาอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า
จนพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็มีคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.อ.วทัญญู กลับมาอยู่สันติบาล เป็น สว.ฝขว.10 บก.ส.1 (บก.น.7) มีหน้าที่ดูแลเขตบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่คุณหญิงอ้ออยู่ จากนั้นก็ขยับโยกย้ายอีกครั้งไปเป็น สว. (ร้อยเอ็ด) กก.2 บก.ส.1 ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว
จากนั้นที่สร้างความฮือฮาและตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็ช่วงขยับขึ้น รอง ผกก. ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.พงศพัศ หลังจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.อ.วทัญญู จาก สว. (ร้อยเอ็ด) กก.2 บก.ส.1 เป็น ผู้ช่วยนายเวร โดยให้คำสั่งมีผลวันที่ 8 ก.พ. ในปีนั้น
ทั้งๆ ที่ในปีนั้น ตำรวจระดับ รอง ผกก.- สว. ทั่วประเทศต่างตั้งหน้าตั้งตารอการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ยืดเวลาจากวาระปกติออกไปถึงสิ้นเดือน มี.ค. แต่จู่ๆ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กลับเซ็นคำสั่งตั้งนายเวร และผู้ช่วยนายเวร ให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ เพียงแค่ 2 ราย ทั้งๆ ที่อีกเพียงเดือนกว่าก็แต่งตั้งระดับ รอง ผกก.3 สว. แล้ว กลับรอไม่ได้
ส่วนหนึ่งก็เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า การแต่งตั้งก่อนคนอื่นก็จะได้เปรียบเมื่อนับอายุราชการในลักษณะวันชนวัน เพราะกินอาวุโสเพื่อนในปีเดียวกันมาเกือบ 2 เดือน โดยการแต่งตั้งครั้งนั้น พล.ต.อ.พงศพัศ อ้างเหตุผลที่เสนอให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ อนุมัติแต่งตั้งลูกน้องให้มาจากเรื่องของการบริหารราชการว่าต้องการแต่งตั้งนายเวรและผู้ช่วยนายเวร มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยงาน และการแต่งตั้งก็เป็นไปด้วยความรวบรัดรีบเร่ง เพียงแค่ไม่กี่วันก็เสร็จสิ้น เมื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเมื่อวันจันทร์ที่ 6 ก.พ. 2555 และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้ลงนามคำสั่งวันที่ 7 ก.พ. 2555 มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 2555
แม้ พ.ต.อ.วทัญญู ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.พงศพัศ ก็ไม่ได้เข้ามาทำงานในหน้าที่ผู้ช่วยนายเวร ตามที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยมีเรื่องเล่าติดตลกว่าถึงขนาดสำนักงาน พล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ชั้นใด ห้องไหน ถาม “สารวัตรหนุ่ย” อาจจะไม่รู้ เพราะการทำหน้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นหัวหน้าทีม รปภ. นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ติดตามไปทุกหนทุกแห่งมากกว่า
อย่างไรก็ดี ทุกเรื่องราวที่ผ่านมา คงไม่เพียงพอที่จะเรียก “เทวดาหนุ่ย” หากไม่ใช่เกิดกรณีล่าสุด ที่แวดวงสีกากีถึงขนาด “ตาค้าง” หลังจากเห็นรายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร ผกก.รุ่น 92 ที่มีกำหนดเรียนตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 2556 เป็นต้นมา และสิ้นสุดหลักสูตรวันที่ 7 มิถุนายน 2556 ที่วิทยาลัยการตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ประกาศออกมาปรากฏมีชื่อ “พ.ต.ท.วทัญญู วิทยผโลทัย” (ตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นนักเรียนเข้าอบรมโรงเรียน ผกก. ลำดับที่ 108 อยู่ด้วย
การที่ พ.ต.ท.วทัญญู เข้าอบรมโรงเรียน ผกก. ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกและสร้างความฉงนสนเท่ห์ให้กับตำรวจ โดยเฉพาะบรรดารอง ผกก. ทั่วประเทศ ก็ตรงคุณสมบัติการเข้าเรียนของ “สารวัตรหนุ่ย” ครบตามกฎตามระเบียบ ตามกติกาแล้วหรือ เพราะตามกฎกติกาผู้ที่มีสิทธิเข้าเรียนอบรมโรงเรียน ผกก. ต้องครองตำแหน่ง รอง ผกก. มาไม่น้อยกว่า 2 ปี บวกคะแนน 21 แต้ม (เป็นอย่างน้อย) คะแนนมาจากความประพฤติ 10 แต้ม วุฒิ ป.ตรี 6 แต้ม ป.โท 7 แต้ม 2 ขั้น 1 แต้ม ครึ่งขั้น ครึ่งแต้ม
แค่คุณสมบัติแรก พ.ต.ท.วทัญญู ก็ไม่เข้าข่ายได้สิทธิเข้าเรียนแล้ว เพราะเพิ่งครองตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร หรือเทียบเท่ารอง ผกก. เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2555 นับถึงวันที่เริ่มเรียนวันที่ 18 ก.พ. 2556 ก็ดำรงตำแหน่งไปเพียง 1 ปี 10 วัน ไม่ถึง 2 ปี ตามกฎ ระเบียบ กติกา ที่กำหนดไว้
การแหกกฎ แหกระเบียบ แหกกติกา ที่กำหนดไว้ คงไม่ต้องบอกว่าทำเพื่ออะไร เพราะในแวดวงตำรวจต่างก็รู้อยู่ว่าการจะขึ้น ผกก. หรือตำแหน่งเทียบเท่าได้ เช่น นายเวร รอง ผบ.ตร. หรือ ผู้ช่วยนายเวร ผบ.ตร. ต้องแต่งตัวให้ครบก่อน การแต่งตั้งให้ครบขึ้น ผกก. ก็ต้องผ่านการอบรมโรงเรียน ผกก.
• ฝืนคำสั่ง คสช. ผิดระเบียบ สตช.
ก่อนหน้านี้ นายสมชาย แสวงการ อดีต ส.ว.สรรหา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “สตช. ว่าไงดีครับ? เห็นชาวเน็ตวิจารณ์กันขรมเลย พ.ต.อ.วทัญญู ตำรวจติดตามนายกรัฐมนตรี เป็นการปฏิบัติหน้าที่อารักขาตามตำแหน่งนายก เมื่อพ้นเก้าอี้เป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนธรรมดา ไปเดินชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้า ไม่ใช่เรื่อง พ.ต.อ. คนนี้ยังไปคอยตามหิ้วกระเป๋าอยู่อีก ถ้าภาพข่าวนี้เป็นจริง และยังคงทำเกินหน้าที่อยู่ สตช. ต้องเรียกตัวกลับเข้ากรมกองทำงานใน สตช. ได้แล้ว ภาษีประชาชนนะครับ ไม่ใช่เป็นตำรวจรับใช้ใครส่วนตัว”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ โลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก มีการแชร์ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นผู้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ หัวหน้า คสช. มีคำสั่งฉบับที่ 2/2557 ให้ไปรายงานตัว และได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา ขณะเดินชอปปิ้งในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก คือ ในภาพดังกล่าวปรากฏว่า มี พ.ต.อ.วทัญญู วัชรผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร (สบ4) ผบ.ตร. ซึ่งเคยเป็นนายตำรวจติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รวมอยู่ด้วย
ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากการกระทำดังกล่าวของ พ.ต.อ.วทัญญู น่าจะเข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ 0001 (ศปก.ตร.)/282 ที่ห้ามมิให้กำลังพลทุกนายเข้าพบปะสังสรรค์ และ/หรือร่วมกิจกรรมกับบุคคลที่ถูกเชิญตัว ภายหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว ตลอดจนนักการเมือง ผู้มีอิทธิพล และกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ
อย่างไรก็ดี วานนี้ (25 ก.ค.) พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง จตร.(สบ7) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (รรท.ผบช.ส.) ก็ออกมาให้สัมภาษณ์แก้ต่างให้ว่า หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ หมดวาระไปได้มีการเรียกตัวตำรวจที่ไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 20 นาย กลับต้นสังกัดหมดแล้ว นอกจากนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาลก็ได้เรียกตัวตำรวจที่ไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญอื่นๆ ทั้งรัฐมนตรี นักการเมือง อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาทั้งหมด เพื่อให้เป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน หลังจากนี้ ก็จะทำตามระเบียบที่มีอยู่ ใครประสานขอกำลังตำรวจไปติดตามก็จะพิจารณาไปตามระเบียบให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบแล้วอดีตนายกรัฐมนตรีทุกคนสามารถขอตำรวจดูแลความปลอดภัยได้ เพราะหากเกิดเหตุไม่ดีมาก็จะเกิดผลเสียหายได้
ส่วนกรณีสำหรับ พ.ต.อ.วทัญญู วัชรผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ที่ไปปรากฏภาพติดตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ติดตามดูแลความปลอดภัยตามคำสั่งของสันติบาลแล้ว ถ้าไปก็คงไปในฐานะส่วนตัว
ขณะที่ พล.ต.อ.พงศพัศ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร ก็ออกมารับลูกเรื่องดังกล่าวราวกับกระเดือกและคอหอย ก็กล่าวเช่นกันว่า สำหรับ พ.ต.อ.วทัญญู ได้ยื่นขอลาพักร้อนกับตน ซึ่งตามระเบียบสามารถลาได้ 30 วัน ส่วนการลาไปต่างประเทศจะต้องทำเรื่องขออนุมัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมี พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ และทราบว่าได้อนุมัติให้ พ.ต.อ.วทัญญู ลาไปต่างประเทศได้ก่อนเดินทาง 1 วัน!