ASTVผู้จัดการ - สื่อเยอรมนีรวบรวมสถิติสายการบินที่บินเฉียดเส้นทางของ เที่ยวบิน MH17 บ่อยที่สุด 7 วันก่อนเกิดโศกนาฏกรรม พบ “แอโรฟลอต - สิงคโปร์ - ยูเครน” ติด 3 อันดับแรก ส่วนมาเลเซียอยู่อันดับ 5 การบินไทยติดอันดับ 7 โดยหลังเกิดเหตุทางการยูเครนปิดน่านฟ้า ทุกสายการบินขยาดเปลี่ยนเส้นทางหมด
หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรม เครื่องบินโบอิ้ง 777 สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ เอ็มเอช 17 ต้นทางกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งบินผ่านน่านฟ้าของยูเครนทางตะวันออก ใกล้กับพรมแดนรัสเซีย และถูกขีปนาวุธยิงตก ทำให้ผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่บนเครื่อง จำนวน 298 คน เสียชีวิตทั้งหมดเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา สื่อมวลชนตะวันตกหลายแขนงได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างมานำเสนอ
เว็บไซต์ www.spiegel.de สื่อจากเยอรมนีรวบรวมสถิติจากเว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์อ้างว่า ช่วง 7 วันก่อนหน้าที่ เที่ยวบินเอ็มเอช 17 จะถูกสอยร่วง มีเครื่องบินจากสายการบินใดใช้เส้นทางดังกล่าวบ้าง ผลปรากฏว่า 3 อันดับแรก คือ สายการบินแอโรฟลอต ของรัสเซีย บินผ่านเส้นทางนี้มากที่สุดถึง 86 เที่ยวบิน รองลงมาคือ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส 75 เที่ยวบิน และ สายการบินยูเครนอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ จำนวน 62 เที่ยวบิน ขณะที่ สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ใช้เส้นทางดังกล่าวบ่อยเป็นอันดับที่ 5 คือ 48 เที่ยวบิน ส่วน การบินไทย สายการบินแห่งชาติของไทยเราติดในอันดับที่ 7 จำนวน 34 เที่ยวบิน
10 อันดับของสายการบินที่เฉียดเส้นทางของ เอ็มเอช 17 ของสายการบินมาเลเซียบ่อยที่สุดก่อนเกิดเหตุโศกนาฏกรรม ประกอบไปด้วย
1. แอโรฟลอต (รัสเซีย) 86 เที่ยวบิน
2. สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (สิงคโปร์) 75 เที่ยวบิน
3. ยูเครนอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ (ยูเครน) 62 เที่ยวบิน
4. ลุฟท์ฮันซา (เยอรมนี) 56 เที่ยวบิน
5. มาเลเซีย แอร์ไลน์ส (มาเลเซีย) 48 เที่ยวบิน
6. เบลาเวีย (เบลารุส) 46 เที่ยวบิน
7. การบินไทย (ไทย) 34 เที่ยวบิน
8. แอร์ อินเดีย (อินเดีย) 33 เที่ยวบิน
8. ปากีสถานอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์ไลน์ส (ปากีสถาน) 33 เที่ยวบิน
10. เจ็ท แอร์เวย์ส (อินเดีย) และ ยามาล แอร์ไลน์ส (รัสเซีย) 31 เที่ยวบิน
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทุกสายการบิน รวมถึงการบินไทยก็ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเพื่อสร้างความมั่นใจกับผู้โดยสารว่า ขณะนี้ทุกเที่ยวบินของตนไม่ได้บินผ่านน่านฟ้าประเทศยูเครนแล้ว ขณะที่ทางการยูเครนประกาศปิดน่านฟ้าของตนเองเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย ขณะที่ผู้บริหารบริษัท การบินไทย และวิทยุการบิน ก็ออกมายืนยันว่า เที่ยวบินที่เดินทางออกจากประเทศไทยทั้งหมดจะไม่ใช้เส้นทางดังกล่าวอีก
อีกทางหนึ่ง หลังเกิดเหตุเอ็มเอช 17 ทางการสหรัฐฯ ก็มีการปรับเปลี่ยนแผนที่น่านฟ้าที่สุ่มเสี่ยงว่าเครื่องบินอาจเกิดอุบัติเหตุถูกยิงตกได้ โดยหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า ในวันที่ 18 ก.ค. สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ เอฟเอเอ ได้ขยายขอบเขตพื้นที่ห้ามบินสำหรับอากาศยานของสหรัฐฯ ทั่วโลก (ตามแผนที่ด้านล่าง)
พื้นที่ซึ่งถูกล้อมด้วย เส้นสีแดง คือ พื้นที่ห้ามบินผ่าน (Flight prohibition) เช่น ลิเบีย อิรัก เกาหลีเหนือ โซมาเลีย รวมถึงยูเครน และ คริเมีย ขณะที่พื้นที่ซึ่งล้อมด้วย เส้นสีเหลือง คือ พื้นที่ซึ่งอาจเกิดการจี้เครื่องบิน (Potentially hostile region) ได้ เช่น ซีเรีย อิหร่าน อัฟกานิสถาน เยเมน คองโก เคนยา มาลี
