ASTVผู้จัดการ - ยืนยันไม่มีเที่ยวบินจากไทยไปยุโรปบินผ่านยูเครน เส้นเดียวกับ MH17 วิทยุการบินฯ ระบุทุกวันนี้มีประมาณ 20 เที่ยวบิน ครึ่งหนึ่งเป็นของการบินไทย ขอให้ผู้โดยสารวางใจ ชี้เปลี่ยนเส้นใช้เวลาบินเพิ่มแค่ 15 - 20 นาที
วานนี้ (18 ก.ค.) หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรม เครื่องบินโบอิ้ง 777 สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ MH17 ต้นทางกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งบินผ่านน่านฟ้าของยูเครนทางตะวันออก ใกล้กับพรมแดนรัสเซีย และถูกขีปนาวุธยิงตก ทำให้ผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่บนเครื่อง จำนวน 298 คน เสียชีวิตทั้งหมด นางสาริณี แสงประสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีดังกล่าว ว่า ในธุรกิจการบินประเทศแต่ละประเทศจะต้องออกสิ่งที่เรียกว่า ข่าวประกาศนักบิน (Notices to Airmen : NOTAM) เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการบินได้รับทราบ เพื่อจะได้ทำแผนการบินได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทางมาเลเซีย แอร์ไลน์l เลือกที่จะใช้เส้นทางบินผ่านพื้นที่ของประเทศยูเครน ซึ่งกำลังเกิดสงครามอยู่นั้นต้องไปดูเอกสารหลักฐานอีกครั้งว่าเพราะเหตุใด
ส่วนกรณีเที่ยวบินของบริษัท การบินไทย ที่ต้องผ่านพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะเส้นทางไปทวีปยุโรปจะมีผลกระทบหรือการปรับเปลี่ยนใดๆ หรือไม่นั้น นางสาริณี กล่าวว่า เท่าที่ตนได้พบกับผู้บริหารของ บ.การบินไทย นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บ.การบินไทย ก็ได้รับทราบว่าเที่ยวบินของ บ.การบินไทย ได้ปรับการบินมิให้ผ่านเส้นทางดังกล่าวอยู่แล้ว
“การไปยุโรป จากประเทศไทยไปยังยุโรป ไม่นับบินผ่าน คือ เที่ยวบินที่ออกไปจากไทยมีประมาณ 20 เที่ยวบินต่อวัน โดยครึ่งหนึ่งเป็นของการบินไทย อีกครึ่งหนึ่งเป็นของสายการบินต่างๆ ที่มาจอดพัก หรือมาออกจากประเทศไทย ก็ทุกสายการบินนะขณะนี้ก็อยากให้ความมั่นใจต่อผู้โดยสารนะคะ ว่า ไม่มีเส้นทางการบินของสายการบินใดที่บินไปยุโรปผ่านเส้นทางนั้นแน่นอน” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ระบุ
ทั้งนี้ การเลี่ยงเส้นทางที่เกิดเหตุกับเที่ยวบินของสายการบินมาเลเซียดังกล่าว นางสาริณี ระบุว่า อาจทำให้เที่ยวบินต่างๆ ต้องใช้เวลาในการทำการบินเพิ่มจากปกติประมาณ 15 - 20 นาที ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ผู้โดยสารยอมรับได้ ส่วนสายการบินก็น่าจะสามารถบริหารจัดการได้แม้จะมีต้นทุนเพิ่มเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน หลังจากเกิดเหตุ วานนี้ (18 ก.ค.) ทางการของยูเครนได้ปิดน่านฟ้าของตนเองแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีสายการบินใดที่จัดทำแผนการบินผ่านไปยังน่านฟ้าดังกล่าว
