เอเอฟพี – สหรัฐฯ เชื่อว่ามอสโกเป็นผู้จัดหาเครื่องยิงขีปนาวุธให้กับกบฏชาวยูเครน ใช้สอยเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส (Malaysia Airlines) เที่ยวบิน MH17 และเคลื่อนย้ายกลับไปในรัสเซียหลังเครื่องบินถูกยิงร่วงแล้ว หนังสือพิมพ์ชื่อดังของสหรัฐฯ รายงานเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (19)
แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่เปิดเผยนามบอกกับทาง วอชิงตัน โพสต์ ว่า ฝ่ายกิจการข่าวกรองเริ่มได้รับสัญญาณดังกล่าวเมื่อกว่า 1 สัปดาห์ที่แล้ว ว่ามีการเคลื่อนย้ายเครื่องยิงขีปนาวุธของรัสเซียเข้ามาในยูเครน
วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า วิตาลี นาดา หัวหน้าหน่วยต่อต้านข่าวกรองยูเครน มีภาพถ่ายและหลักฐานที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งชี้ว่าระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน บุค เอ็ม-1 (Buk M-1) 3 เครื่องเคลื่อนจากอาณาเขตยึดครองของกบฏเข้าสู่รัสเซียเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ (18) หลังจากเครื่องบินพาณิชย์แดนเสือเหลืองถูกยิงตกไม่ถึง 12 ชั่วโมง
“เราเชื่ออย่างยิ่งว่า พวกเขากำลังพยายามเคลื่อนย้ายระบบยิงขีปนาวุธ บุค อย่างน้อย 3 เครื่องกลับเข้าสู่รัสเซีย” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกกับ วอชิงตัน โพสต์
รัฐบาลยูเครน ได้กล่าวหากลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่มอสโกว่า เป็นผู้ใช้ระบบบุคที่รัสเซียจัดหาให้ยิงเครื่องบินมาเลเซีย หลังไม่อาจแยกแยะเครื่องบินลำนี้กับเครื่องบินลำเลียงทหารของยูเครนได้
อ้างจากการเปิดเผยของ นาดา ระบุว่า มีการพบเห็นระบบต่อต้านอากาศยาน 2 เครื่องกำลังเข้าสู่รัสเซีย ณ เวลา 02.00 น. (หรือราว 7 โมงเช้าตามเวลาไทย) ของวันศุกร์ (18) โดยเครื่องหนึ่งยังมีขีปนาวุธอยู่ครบ 4 หัว แต่อีกเครื่องหนึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าไม่มีขีปนาวุธ
หลังจากนั้น 2 ชั่วโมง ณ เวลาตี 4 นาดา ระบุว่า ขบวนพาหนะที่ประกอบด้วยเครื่องยิง 1 เครื่องก็ได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่รัสเซีย
ระบบ บุค (Buk) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า เอสเอ-11 แกดฟลาย (SA-11 Gadfly) เป็นพาหนะตีนตะขาบขับเคลื่อนตัวเองที่บรรทุกขีปนาวุธที่ยิงจากภาคพื้นดินสู่อากาศ
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และบรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจ เชื่อว่าเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สถูกสอยร่วงกลางเวหาที่ความสูง 33,000 ฟุต ด้วยขีปนาวุธจากพื้นดินสูอากาศที่ใช้กันมาเนิ่นนาน โดยยิงมาจากอาณาเขตยึดครองของกลุ่มกบฏ โดยการโจมตีดังกล่าวสังหารคนบนเครื่องรวดเดียว 298 ราย
ยูเครน กล่าวหาว่ารัสเซียช่วยกลุ่มติดอาวุธซุกซ่อนและทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่สามารถใช้พิสูจน์ความเกี่ยวพันตามที่พวกเขากล่าวหาได้
“ข้อสันนิษฐานคือพวกเขากำลังลบล้างหลักฐานของสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไป” เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ ซึ่งไม่เผยนามบอกต่อ วอลสตรีทเจอร์นัล
วอลสตรีทเจอร์นัล ยังได้อ้างอิงถึงคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่รายนี้ ที่ระบุว่า การประเมินด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่มอสโกจะจัดหาระบบต่อต้านขีปนาวุธที่ใช้กรำศึกมายาวนานนี้ให้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียเมื่อไม่กี่วันมานี้ ซึ่งสอดรับกับหลักฐานที่ยูเครนหยิบยกขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ว่าจะเรื่องการจัดสรรเงินทุน หรือการสนับสนุนทางทหารต่อกบฏนิยมรัสเซีย พร้อมกล่าวโทษว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นความผิดของทางการยูเครน
ขณะที่เหล่าผู้บัญชาการกลุ่มกบฏก็ต่างออกมาปฏิเสธการถือครองระบบบุคไม่ว่าเครื่องใดก็ตามที่มีการใช้งานอยู่ขณะนี้
