ASTVผู้จัดการออนไลน์ -ปูด “อสมท-NBT” ยังไม่คืบหาอุปกรณ์ส่งสัญญาณ ทั้งที่กำหนดออนแอร์ 1 เม.ย.นี้ พบพิรุธขบวนการเหลือบจ้องหาประโยชน์ มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง ตั้งราคาเครื่องส่งฯ สูงปรึ๊ด แถมถ่วงเวลาหวังจัดซื้อเข้าวิธีพิเศษ งาบเงินทอนบานเบอะ เผยแม่ข่ายรายอื่น “ช่อง 5-TPBS” จัดหาเสร็จแล้ว ได้ของถูกต่ำกว่าราคากลางกว่าครึ่ง สตง.เคยท้วงนายกฯ ทบทวนโครงการ จนกรมประชาฯ ไม่กล้าสานต่อ-อธิบดีฯ ไม่กล้าเซ็น
ความคืบหน้าในการดำเนินโครงการทีวีดิจิตอล ซึ่งมีกำหนดทดลองออกแพร่ภาพออกอากาศ 24 ช่อง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ในวันที่ 1 เม.ย.57 และกำหนดออกอากาศจริงในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ หลังจากที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประมูล และได้รายชื่อผู้ประกอบการในส่วนของช่องธุรกิจ 24 ช่องไปตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปีก่อน รวมทั้ง กสทช.ยังได้ออกใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลให้กับ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ ททบ.5 ไทยพีบีเอส อสมท และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ในการทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลดังกล่าว
แหล่งข่าวในวงการทีวีดิจิตอล เปิดเผยว่า ขณะนี้ 4 หน่วยงานหลักที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายนั้น มีเพียงไทยพีบีเอส กับ ททบ.5 เท่านั้นที่ได้จัดหาอุปกรณ์ส่งสัญญาณเพื่อติดตั้งในสถานีเครือข่ายทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่อีก 2 ราย คือ อสมท และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ นั้นยังไม่มีความคืบหน้าในการจัดหา ทั้งที่ใกล้เวลาที่จะต้องทดลองออกอาการในวันที่ 1 เม.ย.นี้แล้ว โดยมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า มีความพยายามประวิงเวลาทำให้การจัดหาอุปกรณ์ส่งสัญญาณ เพื่อทำให้เข้าเงื่อนไขการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ โดยมีฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง
แหล่งข่าวอธิบายต่อว่า 4 หน่วยงานที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายนั้น จำเป็นต้องดำเนินการจัดหาอุปกรณ์ส่งสัญญาณมาเพื่อรองรับการออกอากาศในวันที่ 1 เม.ย.นี้ แต่ กสทช.ในฐานะผู้ควบคุมโครงการกลับไม่กำหนดเงื่อนเวลาว่า แต่ละรายต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเมื่อใดเพื่อให้การออกอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ อสมท และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ใช่ช่องโหว่ตรงนี้ดึงเวลาการจัดหาอุปกรณ์ โดยจะใช้เครื่องทดสอบการส่งสัญญาณที่ใช้อยู่ในตอนนี้ให้บริการออกอากาศไปก่อนในช่วงแรก ซึ่งในความเป็นจริงสามารถทำได้ แต่ก็ถือว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการที่ต้องมาใช้โครงข่าย เนื่องจากต้องชำระค่าบริการตามที่ตกลง ทั้งที่ผู้ให้บริการโครงข่ายยังไม่มีความพร้อม
แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตอีกว่า สาเหตุที่กระบวนการจัดหาของ อสมท และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ไม่คืบหน้านั้น ก็เนื่องจากมีความพยายามในการแสวงหาผลประโยชน์ เพราะในขณะที่ไทยพีบีเอส และ ททบ.5 ได้จัดการแล้วเสร็จ โดยได้อุปกรณ์ในราคาที่ถูกมาก ต่ำกว่าราคากลางถึง 40-50 เปอร์เซ็นต์ แต่อีก 2 หน่วยงานยังแทบไม่ได้เริ่มต้นกระบวนการเลย ทั้งๆ ที่สามารถใช้รูปแบบการจัดหาที่เหมือนๆ กันได้ โดยขณะนี้ในส่วนของ อสมท นั้น อยู่ในระหว่างการแก้ไขร่างข้อกำหนดหรือทีโออาร์ที่จะใช้ประกาศให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมเสนอราคาของอุปกรณ์ส่งสัญญาณ
“แต่เดิม อสมท ได้กำหนดโครงการอุปกรณ์ส่งสัญญาณ โดยตั้งงบประมาณไว้ถึง 1,500 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะจัดหาเป็นโครงการใหญ่เฟสเดียวไปเลย แต่เนื่องจากจัดเป็นงบลงทุนที่ต้องผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อน แต่เมื่อรัฐบาลได้ประกาศยุบสภาไปแล้ว ทำให้เรื่องนี้ไม่ได้ถูกนำเข้าที่ประชุม ครม.จึงได้มีการปรับลดขนาดโครงการลงเป็นหลายเฟส โดยเฟสแรกตั้งงบประมาณไว้ที่ 440 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมากหากเทียบกับไทยพีบีเอส และ ททบ.5 ที่จัดหาเสร็จไปแล้ว ส่วนทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ โครงการก็หยุดชะงักไป เพราะทาง สตง.ได้ทักท้วงไปทางนายกฯ เมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ตรวจสอบแล้วพบว่าตั้งงบประมาณไว้สูงผิดปกติถึง 980 ล้านบาท เพราะได้มีการนำเรื่องการก่อสร้างอาคารเข้าไปรวมด้วย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น พอ สตง.ทักท้วงมาทำให้ตอนนี้ผู้ใหญ่ในกรมประชาฯ ไม่กล้าที่จะนำเรื่องนี้มาทำต่อ ถึงขนาดมีข่าวว่าอธิบดีกรมประชาฯหนีไม่กล้าเซ็นเอกสารเลย”
แหล่งข่าวอธิบายต่อไปอีกว่า การกำหนดราคากลางของ อสมท และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ทราบผลการจัดซื้อของ ไทยพีบีเอส และ ททบ.5 เสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งผลปรากฏว่าทั้งสองหน่วยงานได้อุปกรณ์ในราคาที่ถูก แต่ อสมท และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ก็ยังพยายามกำหนดราคากลางไว้สูง โดยไม่ได้สนใจที่จะนำผลการจัดหาหรือข้อมูลของ ไทยพีบีเอส และ ททบ.5 ไปประกอบการพิจารณาเพื่อประโยชน์ขององค์กรแต่อย่างใด อีกทั้งจำนวนสถานีที่ต้องติดตั้งน้อยกว่าของ ไทยพีบีเอส และ ททบ.5 ด้วยซ้ำ ทำให้ถูกมองว่ามีขบวนการพยายามแสวงหาผลประโยชน์อยู่ โดยเฉพาะภายใน อสมท ที่เมื่อข้อมูลไปถึงระดับพนักงานฝ่ายปฏิบัติการ ก็ทำให้ทางสหภาพแรงงาน อสมท ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องผลประโยชน์ขององค์กร
(ติดตาม “แฉมหกรรมงาบเครื่องส่งฯ ทีวีดิจิตอล” ตอนต่อไปได้ในวันพรุ่งนี้)