“หลวงปู่พุทธอิสระ” จ่อถกดีเอสไอฟัน “เณรคำ” พ่วงบิ๊กสงฆ์-ซัดอวดอุตริฯ หมดความเป็นพระ

เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เผยแฉหลวงปู่เณรคำมา 4 ปี ไม่มีใครเชื่อ ซัดอวดอุตริชัดๆ ถามเจ้าคณะปกครองหูหนวกตาบอดหรือไง เชื่อไม่ตั้งเป็นวัดเหตุกลัวโดนสอบ ลั่นไม่โกนคิ้วประท้วง กก.ปกครองสงฆ์ จ่อถกดีเอสไอฟัน ยื่นศาลปกครองสอยบิ๊กพระ รับถูกขู่จะไม่แก่ตาย แนะ “พระเกษม” อดใจรอ ขอเคลียร์ 2 เรื่องก่อน ชี้ครองรถหรูก็ส่อผิดธรรมวินัย ปูด “เณรคำ 2” โผล่สมุทรสาครเร็วๆ นี้ รับศาสนาสุดเน่า



วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือหลวงปู่พุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ถึงกรณีหลวงปู่เณรคำ โดยระบุว่า ตนพูดเรื่องดังกล่าวมา 4 ปี แล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อ หรือที่แน่ๆ ก็คือเจ้าคณะปกครองเขายังไม่เชื่อ เห็นเมื่อเช้าออกมาปกป้องให้สัมภาษณ์กันแบบไม่ใช่ใจพระธรรมวินัย เขาจะเน้นย้ำอยู่เพียงแค่รถที่ถวาย กับเงินที่ให้ เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นอะไรที่เรามีความรู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่ธรรม ไม่น่าจะใช่วินัย มันน่าจะกลายเป็นเรื่องการหากินหาอยู่

หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวถึงกรณีที่หลวงปู่เณรคำ อ้างชาติปัจจุบันนี้เป็นชาติสุดท้ายที่เพียงพอต่อการเวียนไหว้ตายเกิด ภพชาติหน้าการเกิดจึงยุติเพียงเท่านี้ว่า คำนี้เหมือนกับอยู่ในพระไตรปิฎกเลย เป็นคำบรรลือสีหนาทของพระอรหันต์ แต่นี่มันเป็นคำสำราก หรือไม่ก็ผายลม ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าพวกบรรดาเจ้าคณะปกครองหูหนวกตาบอดหรือไง นี่มันชัดๆ ว่าอวดอุตริมนุสธรรม ซึ่งธรรมที่ไม่มีในตน การกล่าวอวดอุตริมนุสธรรมอย่างนี้เมื่อมีคนเชื่อ เป็นอาบัติปาราชิก หาสังวาสมิได้ เพราะฉะนั้นความหมายของพระธรรมวินัยบอกไว้ชัด แม้นมีในตน สมมติ แม้นมีในตนก็มีพระบัญญัติ พระพุทธบัญญัติกำหนดเอาไว้ชัดว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตน เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ถ้ามีนะ ถ้ามีแล้วกล่าวอวด ก็เป็นอาบัติปาจิตตีย์ เรียกว่า ปาฏิเทศนีย แล้วถ้ากล่าวอวดโดยไม่มีเจตนา เผลอพูดออกไป ก็เป็นอาบัติทุกกฎ

หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า ปัญหามันอยู่ที่ว่า ในสมัยที่ตนสร้างวัดอ้อน้อย แรกๆ ลองไปเขียนว่าสำนักสงฆ์ สมัยนั้น 30 ปีกว่าปีที่แล้ว นายอำเภอ ศึกษาธิการอำเภอ และเจ้าคณะตำบลมาบอกให้ปลดป้าย มันผิดกฎหมายคำว่าสำนักสงฆ์ แรกๆ ทำขออนุญาตยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้คำว่าที่พักสงฆ์ แต่หลวงปู่เณรคำทำมาตั้งเป็น 10 ปี กล้าใช้ชื่อว่าวัดป่าสันติธรรม ทั้งๆที่ยังไม่ได้รับอนุญาต อนุมัติ ถามว่าพระพวกนี้ระดับเจ้าคณะปกครองเข้าไปได้ยังไง เข้าไปไม่สำนึกหรือไงว่านี่มันเป็นที่เถื่อน เขาบอกว่าที่ไม่อยากไปตั้งวัดเป็นภาระในการที่จะต้องไปตรวจสอบเพราะพระทุกวัดทุกปี ถ้าเป็นวัดจะต้องส่งบัญชี แต่เขาปฏิเสธแต่แรกแล้วว่า ไม่อยากให้เป็นวัดเพราะกลัวการตรวจสอบ นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมตนไม่โกนคิ้ว เพื่อประท้วงกรรมการปกครองคณะสงฆ์

“พระวินัยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208 บัญญัติว่า ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องใช้หมายที่แสดงว่า เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ในพระพุทธศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลเพื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ กรณีที่ภิกษุจับสึกแล้วถูกดำเนินคดีอาญา แต่กลับมาแต่งกายเป็นภิกษุอีกโดยอ้างว่ายินยอมเรื่องจีวรเพื่อต่อสู้คดี ศาลอาญาวินิจฉัยว่า ให้เป็นไปตามคำพิพากษา เพราะฉะนั้นนี่มันหลอกชาวบ้านในขณะที่มันไม่ใช่พระแล้ว มันหลอกมากี่ปีกี่เดือน ฉันจึงได้บอกว่าเดี๋ยวฉันจะไปหาคุณธาริต ไปคุยกับคุณธาริตว่านี่มันเข้าข่ายหลอกลวง คดีพิเศษทำอะไรได้บ้าง อาจจะต้องพึ่งศาลปกครองว่าเจ้าคณะพระสังฆาธิการที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่มีจรรยาพระสังฆาธิการ” หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าว

หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า ตนกำลังมีวิธี ดำเนินการอยู่ แต่ก็มีคนโทรมาบอกว่าระวังจะไม่แก่ตาย

นอกจากนี้ หลวงปู่พุทธอิสระ ยังกล่าวถึงกรณีที่พระเกษม อาจิณฺณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก กล่าวรับคำเชิญชวนร่วมแสดงพระธรรมเทศนาในเรื่องพระธรรมวินัยด้วยว่า จริงๆ แล้ว ตนต้องยอมรับว่าฉันเหนื่อยกับกระบวนการบริหารจัดการของคณะสงฆ์ที่ไม่ค่อยใส่ใจ ตนบอกกับ พระเกษม ด้วยว่ารอให้ตนจัดการ 2 เรื่อง ก็คือเรื่องหลวงปู่เณรคำ กับเรื่องรถหรู เพราะว่าตนรู้ทั้งรู้ว่าไอ้รถหรูวงการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะผู้บริหารคณะสงฆ์ชั้นสูงหลายรูปหรือบางรูป ก็มีรถหรูเหล่านี้ที่ผิดกฎหมาย ผิดพระธรรมวินัย เพราะในพระธรรมวินัย ก็คือ สินค้าตัวนี้ ราคาเท่านี้ 10 บาท หรือเกินกว่า 5 ย้ายมาอยู่ตรงนี้ด้วยเจตนาต้องการให้ย้าย เป็นอาบัติปาราชิก แล้วที่วัดๆ หนึ่ง แถวนครปฐม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เป็นชิ้นๆ แล้วก็ถอดออกมาแล้วก็มาใส่กล่อง แล้วก็ย้าย ตนไม่รู้ว่าเจ้าคณะปกครองได้ฟังอยู่หรือเปล่า

“นี่ฉันบวชมา 30 กว่าปีนะ วันนี้ฉันไม่มีเงินจะรักษาแม่เลย แม่ยังนั่งขายน้ำอยู่ที่วัดอยู่เลย ไม่รู้มันบวชกันท่าไหน มันถึงได้มีปัญญามีตังค์ซื้อ ซื้อรถ ซื้อบ้าน” หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าว

หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวอีกว่า มันเอาความฟุ้งเฟ้อ ร่ำรวย ลุ่มหลงมาเป็นมาตรฐานในการที่จะกำหนดสเปกของคน คุณภาพของคน โดยมากฟุ้งเฟ้อมากๆ มีอะไรที่หะรูหะราเยอะมาก แสดงว่าสเปกสูง แต่ถ้าอยู่หลังคาจากมีพื้นดิน มุงหญ้าแฝกอะไรเนี้ยะ แสดงว่าสเปกต่ำ มันเลยทำให้เกิดก่อกำเนิดเกิดไอ้คำ 1, 2 เดี๋ยวมีอีกนะแถวสมุทรสาครจะตามมา เร็วๆ นี้ โปรดติดตามตอนต่อไป วันนี้เราจะทำยังไงกันกับกระบวนการศาสนาที่มันเน่า มันแย่ มันไม่เป็นที่มุ่งหวังได้ของประชาชน และเป็นที่เอือมระอาของสังคม แต่อยากจะใช้ตรงนี้ในเรื่องแก้วาทกรรมที่มีผู้คนเข้าใจเราว่าตนท้อพระเกษม ดีเบตไมค์ ไม่ใช่ไปทะเลาะกันนะ เพราะอย่างน้อยตนก็มีกติกาบอกกับพระเกษมเขาไป ให้เลขาฯ มูลนิธิทำหนังสือไปว่า เราต้องหาข้อยุติของหลักธรรมและวินัย แล้วก็ต้องปฏิบัติให้ชัด อย่ามาทำลาย เอาความเห็นของตนมาทำลายศรัทธาชาวบ้านและความเชื่อของชาวบ้าน อย่าเอาสัจธรรมปฏิรูปที่ตัวเองคิดเอง มายัดเยียดใส่หัวชาวบ้านแล้วบังคับให้เชื่อตามคุณ ถ้าคุณล้มเลิกสิ่งเหล่านี้ได้ ฉันจะไปคุยกับคุณ ขอให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อนที่จะบวชใหม่ รอให้ตนจัดการเกี่ยวกับหลักธรรมวินัยให้มันชัดเจนก่อน

คำต่อคำ : ตีแสกหน้า 29 มิ.ย. 2556 (หลวงปู่พุทธอิสระ)
ก้องเกียรติ - สวัสดีครับท่านผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการตีแสกหน้า วันนี้เป็นภาคพิเศษที่ผมก้องเกียรติ พุทธรักษ์กิจ รับหน้าที่ดำเนินรายการแทน เพราะว่าเป็นภาคพิเศษ ตรงที่ว่าวันนี้จะพูดคุยในเรื่องของวงการพุทธศาสนาในประเทศ ซึ่งตอนนี้มีข่าวคราว ไม่ว่าจะเป็นข่าวคาว และข่าวคราว ที่จะทำให้เกิดศรัทธาและความมั่นคงต่อพุทธศาสนาในเมืองไทยลดน้อยลง ก็เลยจะมาพูดคุยกันในวันนี้ ซึ่งวิทยากรรับเชิญปกติก็จะมีอยู่ 2 ท่าน คือ อ.ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต สวัสดีครับ

ชัยพันธุ์ - สวัสดีครับ

ก้องเกียรติ - และพี่ชัช ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ชัชวาลย์ - สวัสดีครับคุณก้อง

ก้องเกียรติ - วันนี้ได้รับความกรุณาเมตตาจากหลวงปู่พุทธอิสระแห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ซึ่งหลายๆ คนก็คงอยากจะรับรู้ว่าตอนนี้เรื่องราวของพระพุทธศาสนาในเมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง และในส่วนตัวผมต้องกราบนมัสการหลวงปู่ก่อนนะครับ

หลวงปู่ - เจริญธรรม เจริญสุข ท่านสาธุชน พุทธบริษัท ผู้รับชมรายการตีแสกหน้า คุณก้องเกียรติ พุทธรักษ์กิจ ผู้ดำเนินรายการ คุณชัชวาลย์ กับ อ.ชัยพันธุ์

ก้องเกียรติ - หลวงปู่สบายดีนะครับ

หลวงปู่ - ฉันได้มาเฉพาะกิจหรือเปล่า

ก้องเกียรติ - เฉพาะกิจจริงๆ ครับ เพราะว่ารายการนี้ชื่อรายการตีแสกหน้า

หลวงปู่ - เสร็จกิจนี้แล้วก็ไม่มีแล้วใช่มั้ย

ก้องเกียรติ - คือพระสงฆ์มาตีแสกหน้าบ่อยๆ ไม่เหมาะ

ชัชวาลย์ - คือพอดีเป็นเรื่องของสงฆ์ วงการสงฆ์ วงการพุทธศาสนา

หลวงปู่ - คือสรุปแล้วเมื่อไรที่จะเรียกใช้ก็กดปุ่มเรียกมาได้เลย

ก้องเกียรติ - มิบังอาจครับ

ชัยพันธุ์ - จริงๆ รายการนี้ ถ้าดูแล้ว จากที่สมเด็จพระสังฆราชมีพระราชดำรัสว่าเรื่องของการให้ความจริง ก็ถือว่าเป็นธรรมทาน แล้วยิ่งตีแสกหน้าเป็นรายการธรรมะทุกวัน เพราะให้ความจริงตลอด

ก้องเกียรติ - ท่านผู้ชมอยากจะร่วมแสดงความคิดเห็นกับทางรายการก็ส่ง sms มาทางโทรศัพท์มือถือกันได้นะครับ พิมพ์ N1 เว้นวรรค ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770 หรือโทรศัพท์ 02-6294433 ฝากข้อความไว้ แล้วเดี๋ยวเราจะตอบให้ในรายการ หรือเข้าไปตอบในเฟซบุ๊กของรายการตีแสกหน้า // ว่ากันด้วยเรื่องฉาว เรื่องคาว ในวงการสงฆ์ และหลวงปู่พุทธอิสระเองก็เป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง หรือนำข้อมูลในการเปิดเผยครั้งนี้มานำสู่สาธารณชน ซึ่งจริงๆ เรื่องของหลวงปู่เณรคำ เราเคยคุยกันในรายการประเด็นข่าวประเด็นธรรม เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่มีกระบวนการตรวจสอบหรือการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น

หลวงปู่ - ฉันพูดมา 4 ปีแล้ว

ก้องเกียรติ - 4 ปีแล้วนะครับ ที่ว่ากระชากหน้ากากอรหันต์

หลวงปู่ - คุยมา 4 ปีแล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อไง เกิดจะมาเชื่อ หรือเขายังไม่เชื่อก็ไม่แน่ใจ หรือที่แน่ๆ ก็คือเจ้าคณะปกครองเขายังไม่เชื่อมั้ง เห็นเมื่อเช้าออกมาปกป้องให้สัมภาษณ์กันแบบชนิดที่ปากกัดตีนถีบ เรียกว่าหน้ามืดตามัว หูหนวกตาบอด ไม่ใช่ใจพระธรรมวินัย เขาจะเน้นย้ำอยู่เพียงแค่รถที่ถวาย กับเงินที่ให้ พยายามจะพรีเซนต์เหลือเกินว่าได้เงินมาจำนวนมากๆ ครั้งหนึ่งเยอะๆ มันก็ถือว่าเป็นคุณพิเศษของผู้หา ผู้ให้ เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นอะไรที่เรามีความรู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่ธรรม ไม่น่าจะใช่วินัย มันน่าจะกลายเป็นเรื่องการหากินหาอยู่

หลวงปู่ - มองโดย เราไม่คิดจะนำเอาที่มาที่ไปของการที่ฉันมานั่งตรงนี้

ก้องเกียรติ - หลวงปู่อยากจะฟังใช่ไหม

หลวงปู่ - เอออยากรู้ว่า

ก้องเกียรติ - ที่มาที่ไปของเณรคำ ทำไมหลวงปู่ถึงว่า ทำไมไม่ใช่อรหันต์

จักรพันธุ์ - ทำไมไม่ใช่อรหันต์ใช่พระหรือเปล่าก่อน

ก้องเกียรติ - เพราะว่า ก่อนที่ทีมงานจะเตรียมคลิปขึ้นมาบอก จริงๆ ในหนังสือของหลวงปู่เณรคำ หรือ นายเณรคำว่า จริงๆ แล้วเขาเขียนหนังสือ

หลวงปู่ - เปลี่ยนชื่อหน่อยได้ไหม

จักรพันธุ์ - เปลี่ยนเป็นอะไรหลวงปู่

ก้องเกียรติ - ขัดหูใช่ไหม มันไม่ถูกต้องใช่ไหม

จักรพันธุ์ - หำวรนุชได้ไหม

ก้องเกียรติ - ฝากให้อาจารย์ต่อได้ไหม ผมไม่กล้าต่อเลย

จักรพันธุ์ - ผมอุตส่าห์ใช้คำว่า หลวงปู่เณรคำ คำ ดะ ฉะ ไหล่ หลวงปู่ดักไหล่

หลวงปู่ - หำวรนุชเถอะ อย่าไปเรียกอะไรก็ไม่รู้

จักรพันธุ์ - ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่พระและ แต่อยากรู้ว่าอุตริอะไร

ก้องเกียรติ - เขาออกหนังสืออวดอ้างตัวเองนะครับ พิมพ์หนังสือออกมาจำหน่ายจ่ายแจก เขาบอกว่าตนเองเป็นอดีตของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ซึ่งสามารถปฏิบัติธรรมจนกายเนื้อหล่อดินขึ้นได้ และบอกว่าตอนเป็นเณรปฏิบัติธรรมจนได้เห็นญาณ 4 เพราะฉะนั้นเห็นญาณ 4 คือ เขาพูดด้วยตัวเองหรือเปล่า

ชัยพันธุ์ - คุณไม่มีคลิปหรอ คลิปเปิดหรอ

ก้องเกียรติ - เดี๋ยวๆ มีมาครับ คลิปกำลังมาครับ และพูดถึงว่านั่งตอนเป็นเณรนะอาจารย์ หลวงปู่ครับ เข้าไปปฏิบัติธรรมจนสามารถเห็นกำเนิดของจักรวาล

หลวงปู่ - เอาอย่างนี้ดีกว่าฉันมีของฉัน นี่หนังสือของเขานะ เพชรน้ำหนึ่ง ย้อนรอยทางธรรม เส้นทางแห่งความหลุดพ้น อะไรนะ หำวรนุช อันนี้เป็นหนังสือของเขา และท้ายเล่มจะมีรูปของเขา เชิญร่วมปฏิบัติธรรม และมีคำปรารภ ฉันขีดเส้นเอาไว้ เดี๋ยวอ่านให้ฟัง หลายคนอาจจะอ่านยังไม่ถนัดนัก

ก้องเกียรติ - เดี๋ยวผมอ่านให้ฟังก็ได้ครับ เขาบอกครั้งนี้เรานี้เราได้ทำให้แจ้งแล้ว ซึ่งความหลุดพ้น ได้ทำให้แจ้งแล้ว ซึ่งนิพพาน สงบจากกิเลสแล้ว สงบจากวิบากกรรมอันนี้แล้ว พรหมจรรย์อยู่ จบแล้ว ชาติภูมิการเวียนไหว้ตายเกิดในเราไม่มีอีกแล้ว ชาติปัจจุบันนี้เป็นชาติสุดท้ายที่เพียงพอต่อการเวียนไหว้ตายเกิด ภพชาติหน้าการเกิดจึงยุติเพียงเท่านี้

หลวงปู่ - คำนี้เหมือนกับอยู่ในพระไตรปิฎกเลย เป็นคำบรรลือสีหนาทของพระอรหันต์ แต่นี่มันเป็นคำสำรากของวรนุส

ก้องเกียรติ - สำรากนี่คืออ้วก

หลวงปู่ - หรือไม่ก็ผายลม

ชัชวาลย์ - ผายลมบรรดาเจ้ากำลังภายใน

หลวงปู่ - ผายลมของวรนุส ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจว่าพวกบรรดาเจ้าคณะปกครองหูหนวกตาบอดหรือไง นี่มันชัดๆ ว่าอวดอุตริมนุสธรรม ซึ่งธรรมที่ไม่มีในตน เดี๋ยวฉันยกพระวินัยให้ดูสักข้อ วินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม 1 ภาค 2 หน้าที่ 485 อนุบัญญัติมีกล่าวว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตริมนุสธรรม อันเป็นธรรมอันยิ่ง อวดอุตริมนุสธรรมมีอะไรบ้าง ก็มีได้แก่ ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ ฌาณทัสสนะ มรรคภาวนา การทำให้แจ้ง ระลึกชาติได้ รู้เห็นตามความเป็นจริง การละกิเลส ความเปิดจิต อย่างนี้เป็นต้น ความยินดีในความว่าง อยู่กับความว่างเป็นนิจ เหล่านี้เป็นอุตริมนุสธรรม ซึ่งไม่มีในมนุษย์ธรรมดา

ก้องเกียรติ - ก็คือต้องเป็นคนที่ปฏิบัติ

หลวงปู่ - ต้องเป็นคนปฏิบัติ จะเข้าถึงเท่านั้น การกล่าวอวดอุตริมนุสธรรมอย่างนี้เมื่อมีคนเชื่อ เป็นอาบัติปาราชิก หาสังวาสมิได้ เพราะฉะนั้นความหมายของพระธรรมวินัยบอกไว้ชัด นี่เป็นปาราชิกข้อที่ 4 พระบัญญัติที่ 4 ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเอาไว้ เมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าพระสงฆ์ที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าคณะปกครองทำอะไรอยู่

ก้องเกียรติ - ผมขยายปาราชิกที่หลวงปู่บอกว่ามี 4 อย่าง ก็คือ เรื่องของการเสพเมถุน ต้องปาราชิก ลักของเขา ก็คือปาราชิก ฆ่ามนุษย์ ก็คือปาราชิก และข้อสุดท้าย อวดอุตริมนุสธรรม ที่ไม่มีในตน อันนี้เขามีบอกว่า ไม่มีในตน

หลวงปู่ - แม้นมีในตน สมมุติ แม้นมีในตนก็มีพระบัญญัติ พระพุทธบัญญัติกำหนดเอาไว้ชัดว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตน เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ถ้ามีนะ ถ้ามีแล้วกล่าวอวด ก็เป็นอาบัติปาจิตตีย์ เรียกว่า ปาฏิเทศนีย แล้วถ้ากล่าวอวดโดยไม่มีเจตนา เผลอพูดออกไป ก็เป็นอาบัติทุกกฎ

ก้องเกียรติ - ยิ่งถ้าเกิดไม่มีแล้วไปกล่าว แล้วหวังเพื่อทรัพย์สิน

หลวงปู่ - เป็นอาบัติทุกคำกล่าว ที่จริงการกล่าวโดยไม่มี มันเป็นอาบัติ มันขาดไปแล้ว ไม่ต้องเป็นอาบัติแล้ว แต่ถ้ามีแล้วก็กล่าว เป็นอาบัติทุกคำกล่าว นั่นหมายถึงอาบัติปาจิตตีย์

ก้องเกียรติ - คำว่าปาราชิก คือการขาดความจากเป็นภิกษุ

หลวงปู่ - มันก็เหมือนตาลยอดด้วน เหมือนกับต้นไม้โดนตัดรากทิ้ง เหลือแต่ลำต้น มันงอกไม่ได้ มันไม่เป็นประโยชน์

ชัชวาลย์ - ตาลยอดด้วน

ก้องเกียรติ - จัดอยู่ในหมวดมนุษย์ก็ไม่ได้ เป็นภิกษุก็ไม่ได้

หลวงปู่ - เป็นภิกษุก็ไม่ได้ เป็นมนุษย์ก็ไม่ได้ เขาก็บอกแล้วไง เขาเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย เป็นมนุษย์ชาติสุดท้าย แต่ชาติต่อไปจะเป็นเดรัจฉาน

ชัยพันธุ์ - ผมว่าน่าจะเป็นวรนุส หรืออะไร ที่ว่า

หลวงปู่ - แต่ฉันไม่เข้าใจ มันไม่ใช่มีขบวนการอย่างนี้อย่างเดียวนะที่เกิดขึ้น นายคำ มันเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง พระบ้านนอก หรือเณรบ้านนอก ซึ่งโนเนม ไม่มีที่มาที่ไป ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครกล้ามายืนยันว่าเขาสังกัดอยู่วัดไหน

ก้องเกียรติ - ตอนนี้คลิปพร้อมแล้ว เราไปลองชมก่อนนะครับว่าเขาเอ่ยอ้างตนเองว่ามีความสามารถ หรือมีฌานในระดับไหน ลองไปติดตามชมกันครับ

(VTR : หลวงปู่เณรคำ)

ก้องเกียรติ - ก็พูดถึงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ของตัวเองที่สามารถไปเจอพระอินทร์ และมีนิมิตร วิเศษที่จะสามารถเหาะเหินเดินอากาศหรือทะลุกำแพงเดินทะลุเสาได้

หลวงปู่ - นั่นสิ มันพูดถึงขั้นนี้แล้ว พวกพระเจ้าคณะ พวกสังฆาธิการ วันนี้เรามาพูดไม่ได้พูดเพราะต้องการจะไปแช่งชักหักกระดูกในคำหรอก แต่เรามาพูดเมื่อแช่งชักหักกระดูกเจ้าคณะพระสังฆาธิการ เจ้าคณะพระสังฆาธิการ เมื่อเช้านี้ออกมาให้สัมภาณ์น่ารังเกียจมากเลยเป็นถึงเจ้าคุณชั้นธรรม เป็นเจ้าคณะภาค สิ่งที่พูดออกมามันเหมือนกับการยอมรับลาภสักการะ แล้วที่มาของลาภสักการะนั้นมันมาจากการแสดงคุณพิเศษ แล้วก็ยอมรับในการแสดงคุณพิเศษด้วยความคิดว่าคุณวิเศษเหล่านั้นเป็นเครื่องให้ได้มาซึ่งรถ ลา ม้าช้าง หรือว่าเงินทอง ขนาดอวดอ้างว่าเดือนหนึ่งไปบิณฑบาตครั้งหนึ่งก็ได้เงินใส่ถุงอย่างเดียว 6- 7 หมื่นบาท ก็เลยไม่ใส่ใจว่า ใครก็ตามที่นำมาซึ่งลาภสักการะเหล่านี้แล้วมันจะเบียดเบียนทำร้ายทำลายพระธรรมวินัยหรือพระพุทธศาสนาอย่างไร ฉันถึงบอกว่าน่ารังเกียจ และน่าละอายมาก ถ้ามีโอกาสอยากจะนิมนต์หลวงพ่อหลวงพี่ หลวงน้า หลวงอา หลวงลุงทั้งหลายหัดเปิดพระไตรปิฎกดูบ้าง แล้วก็สำรวมสังวรณ์ระวัง สำนึกถึง สมณสารูป และตระกูลศากยวงศ์บ้าง อย่าเห็นแก่ลาภสักการะ พระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ทรงสุบินนิมิต แปลว่ามีหมู่หนอนหัวดำหัวขาวไต่มาจากกองมูตรคูถ มาเกาะชายจีวร แล้วพระองค์ก็ทรงชี้ว่า หมู่หนอนหัวดำหัวขาวที่ไต่ออกมาจากกองมูตรคูถ คือ ภิกษุที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้วปฏิเสธลาภสักการะ แต่เวลานี้ถ้าท่านยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ท่านก็คงจะเห็นหมู่หนอนหัวดำหัวขาวบางจำพวกไต่ลงจากจีวร และเข้าไปอยู่ในหลุมขี้ แล้วเวลานี้พวกนั้นก็ออกมาโชว์พลังในการปกป้องอลัชชีของพระศาสนา ไม่งั้นหมู่หนอนขี้ทั้งหลายที่ออกมาโชว์พลังปกป้องอลัชชีในพระพุทธศาสนา อยากให้มีสำนึกว่ าอย่าคิดว่าท่านจะรอดจากกระบวนการตรวจสอบและอย่าคิดว่าท่านใช้ธรรมวินัย และคำว่าเป็นพระธรรมเป็นเจ้าคุณ เป็นพระครู เป็นพระอุปชาอาจารย์ หรือเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดแล้วจะรอดได้ ก็กฎหมายบ้านเมืองมันยังมีปกครองท่านอีก ถ้าท่านละเว้น ละเลย เพิกเฉยและไม่ยอมกระทำหน้าที่ อาจจะมีพลเมืองดีที่รักพระศาสนาไปฟ้องศาลปกครองก็ได้ และถ้าเป็นอย่างนั้นผมคนหนึ่งจะร่วมฟ้องด้วย

ก้องเกียรติ - พี่ชัชครับ มองในมุมมองของฆราวาสในกลไกการปกครองของสงฆ์มี พศ. และมีมหาเถร เป็นกำกับดูแล

หลวงปู่ - พศ.ก็คือมหาเถรนั่นแหล่ะ แล้วก็เถรสมาคมก็ทำหน้าที่ปกครอง เวลานี้เถรสมาคมบางรูปก็โดนคดีรถหรู จะไปทำอะไร หรือกรรมการเถรสมาคมคุณลองดู กรรมการเถรสมาคมบางรูปยังได้รับนิมนต์ไปร่วมกิจกรรมงานวันเกิดของอรหอยเลย หรือวันเกิดวรนุสเลย นี่มีรายชื่อ พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา เจ้าคุณ

ก้องเกียรติ - คือจริงๆก็มีกระบวนการเข้าไปเกี่ยวข้องกับ

หลวงปู่ - พระผู้ใหญ่ทั้งนั้นที่เข้าไป และปัญหามันอยู่ที่ว่า เวลาฉันสร้างวัดอ้อน้อยนะ แรกๆ ลองไปเขียนว่าสำนักสงฆ์ สมัยนั้น 30 ปีกว่าปีที่แล้ว นายอำเภอ ศึกษาธิการอำเภอ และเจ้าคณะตำบลมาบอกให้ปลดป้าย ถามว่าทำไม มันผิดกฎหมายคำว่าสำนักสงฆ์ แรกๆ ทำขออนุญาตยังไม่ได้รับอนุญาตเลย ให้ใช้คำว่าที่พักสงฆ์ แต่ไอ้วรนุสเนี้ยมันทำมาตั้งกี่ปีเป็น 10 ปีแล้ว มันกล้าใช้ชื่อว่าวัดป่าสันติธรรม ทั้งๆที่ยังไม่ได้รับอนุญาต อนุมัติ ถามว่าพระพวกนี้ระดับเจ้าคณะปกครองเข้าไปได้ยังไง เข้าไปไม่สำนึกหรือไงว่านี่มันเป็นที่เถื่อน แล้วเมื่อมันเถื่อนแล้วยอมรับกันยกย่องกันก็แสดงว่าพระคุณเจ้าเห็นแก่ลาภโดยไม่สนใจว่าถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือเสีย เอาเป็นว่าถ้ากูได้รถกลับมา ได้ตังค์ใส่ย่ามก็พอแล้ว

ก้องเกียรติ - ข้ออ้างของเขาบอกว่า เขาไม่อยากไปตั้งวัดเพราะว่าจะเป็นภาระสำหรับคนที่ไปดูแลภายหลัง

หลวงปู่ - ไม่ใช่ เขาบอกว่าเป็นภาระในการที่จะต้องไปตรวจสอบ และที่มาของเงินมันก็กลายเป็นว่ามันจะต้องอยู่ในการดูแล พระทุกวัดทุกปี ถ้าเป็นวัดจะต้องส่งบัญชี ต้องมีงบดุล ต้องดูว่าขาดดุล สมดุลอะไรอย่างไร ได้บริจาคเท่าไหร่ เงินเหลือเท่าไหร่ รายปีทบยอดเท่าไหร่ แต่ไอ้นี่มันปฏิเสธแต่แรกแล้วว่า ไม่อยากให้เป็นวัดเพราะกลัวการตรวจสอบ

ก้องเกียรติ - คือเห็นบอกว่าเขาตั้งเป็นบริษัทเลยนะครับ ก็แปลกใจเหมือนกันชื่อบริษัทขันติธรรมก้าวหน้าออกใบเสร็จ

หลวงปู่ - ที่วัดฉันก็มีบริษัท ทำสมุนไพรแต่อยู่ในการกำกับดูแลของคณะสงฆ์โดยมีฆราวาสเป็นผู้บริหารจัดการ มีชื่อจดทะเบียน ไม่ได้ผิดกฎหมายก็ขออนุญาตเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สตางค์ได้มาทุกบาททุกสตางค์ก็เป็นค่าน้ำค่าไฟค่าอาหารพระ เสียหายอะไร แต่ไอ้นี่มันไม่ใช่ นี่รูป คณะพระผู้ใหญ่และกรรมการมหาเถรมีเมตตาเสด็จมาเยือนวัดป่าขันติธรรม ไปในที่มันต้องถือว่าเป็นที่เถื่อนๆรู้อยู่ว่ามันเถื่อน แต่ก็ยอมรับความเถื่อน

ก้องเกียรติ - อาจจะไม่รู้ อาจจะไปเพราะว่า

หลวงปู่ - ไม่จริงหรอก

ชัยพันธุ์ - ต้องรู้ ถามได้ไม่รู้ถามได้

ก้องเกียรติ - แต่คือพฤติกรรม

หลวงปู่ - เพราะว่า วัดสัญลักษณ์มันต้องมีโบสถ์ มีวิสุงคามสีมา เข้าไปกินนอนแล้วได้รถมาคนละคัน มองไม่เห็นโบสถ์เหรอ แล้วยังต้องถามต่อไปว่าเมื่อมันไม่ใช่วัดไม่มีวิสุงคามสีมา ไม่มีพัทธสีมา บวชพระได้ไง

ก้องเกียรติ - แล้วที่บวชๆกันไม่ใช่พระ

หลวงปู่ - นี่ไงตัวเขาเองก็บอกว่าเขาเป็นอุปชา มันบวชพระได้ไง แล้วต้องรอมันกลับมาอีกเหรอ ประกาศว่ามันไม่ใช่พระได้แล้ว และถ้าไม่รีบประกาศไม่รีบทำอะไรเดี๋ยวจะเข้าข่าย ละเว้นเลือกปฏิบัติและละเลยหน้าที่นะจ๊ะ

ก้องเกียรติ - ทางด้านฝ่ายปกครองของสงฆ์เขาเพิ่งออกมาเมื่อวาน เจ้าคณะศรีสะเกษมีคำสั่งให้พระวิรพลหรือเณรคำ ปฏิบัติตามคำสั่ง 3 ข้อ ก็คือ 1.ให้พระวิรพล แจ้งให้จังหวัดทราบวันที่จะเดินทางกลับมาให้การสอบสวนชัดเจนแน่นอนให้สังกัดของตัวเองว่าสังกัดวัดไหน คือตัวเองก็ไม่มีสังกัดที่ชัดเจน

หลวงปู่ - อ้าว ก็ไหนเมื่อเช้าออกมาให้สัมภาษณ์ว่ารู้ สังกัดของตัวเองไง แสดงว่าได้ไปหลายล้าน

ก้องเกียรติ -ทางมหาเถรยังไม่ทราบ และก็ให้พระวิรพลกลับมาสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยตนเองให้เร็วที่สุดโดยไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายนนี้นะครับ ข้อ 2 คือให้พระวิรพลสั่งให้ศิษย์ฆราวาสงดการโต้ข่าวเกี่ยวกับพระธรรมวินัยสงฆ์ซึ่งไม่ใช่วิสัยของฆราวาสจะเป็นเหตุให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อนในหลักพระธรรมวินัย และข้อ 3 ให้พระวิรพลสั่งให้ศิษย์นำข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปมอบให้กับเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุติเพื่อจะประมวลข้อมูลในการสอบหาข้อเท็จจริงให้เกิดความกระจ่างต่อพุทธศาสนิกชนให้ทราบต่อไป

หลวงปู่ -คุณเชื่อไหม พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา พระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 พระเทพวงศาจารย์ พระเทพปริยัติวิมล พระญาณวิเศษ พระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุบล พระราชปริยัติวิมล เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด พระเทพกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ พระปริยัติสุธีรวงศ์ วัดบึงพระลานชัย เจ้าคณะอำเภอจังหวัดร้อยเอ็ด พระครูศรีวิริยะโสภณ เจ้าคณะอำเภอร้อยเอ็ด พระครูปลัดสุวัฒนพุทธคุณ (พระมหา ดร.วิเชียร) พระครูสุนทร หลวงปู่ ดร.แอ๊ว หลวงปู่ทองสุข วัดป่า ทั้งหมดนี้เป็นมหาเถระแล้วไม่รู้หรือไงว่าที่ตรงนั้นมันเถื่อน ถึงได้บอกไงว่าความผิดปกติในความปกติมันมีอยู่เหลือเฟือมากจึงเป็นที่มาว่าทำไมไม่โกนคิ้วไง

ก้องเกียรติ - ผมก็ยังแปลกใจ

ชัยพันธุ์ - รู้สึกว่าปกติหลวงปู่ถ้าโกนศีรษะจะต้องโกนคิ้วตามหลักของทางพระวินัย

หลวงปู่ - ประท้วงกรรมการปกครองคณะสงฆ์ คือคิ้วไม่ยากหรอกโกนแว้บเดียวก็หาย แต่ไอ้ตัวกาลีที่มาเกาะกินศาสนาใช้เวลานานมาก เวลานี้มันบอบช้ำ คุณมีคลิปไอ้การ์ตูนล้อเลียนไหม โชว์ออกมาให้ชาวบ้านเขาดูอีกสักรอบสิ ว่าต่างประเทศมันล้อเลียนพระไทย

ชัยพันธ์ - คือว่า มีวัดๆหนึ่งมีนักการเมืองเป็นโยมอุปฐาก นามสกุลชินวัตร วัดก็อย่างนี้ เป็นวัดเถื่อน อยู่ในเขตอุทยาน ชื่อวัดป่าธรรมชาติ แล้วก็มีหลวงพ่อชื่อหลวงพ่อฉิม มีปัญหาสึกไปแล้ว มีเรื่องสีกา ก็กลับไปบวชใหม่ ในที่สุดคนที่เป็นประธานพระ ชื่อทักษิณ ชินวัตร กระบวนการแบบนี้มัน ตอนนี้ก็ทิ้งไว้ ไปสร้างวัดใหม่ที่อเมริกา ตอนนี้ไปที่อินเดียอีก เพราะฉะนั้นตรงนี้นักการเมืองเข้าไปมีส่วนสมรู้ร่วมคิด นี่คือลักษณะหนึ่งที่เกิดขึ้น

ชัชวาลย์ -เมื่อไม่เป็นวัดทำไมถึงปล่อยให้อยู่ได้ แล้วพระเหล่านี้ไม่ได้เป็นพระก็ขาดกันไป ปาราชิกไปแล้วอย่างนี้ ก็ไปบวชใหม่ที่ไหนก็ไม่รู้ ก็ดูที่หายไปจิ้งเขียว จิ้งหรีดอะไรทั้งหลายแหล่ แบบเดียวกัน ฉะนั้นตรงนี้เราปล่อยกันมานานแล้ว ขนาดแค่ป้ายสำนักสงฆ์ยังบอกว่าไปเอาลง นี่เพิ่งเอาลงนะ เพิ่งปลดป้าย เปลี่ยนเป็นสำนักสงฆ์แล้ว

หลวงปู่ - ที่ไปเอาลงก็เพระฉันด่าไง

ก้องเกียรติ - ไล่ไปทีประเด็นแล้วก็ลดปัจจัยในการกล่าวหาออก

หลวงปู่ - พยายามลดความผิดของตนให้น้อยลงไปเรื่อยๆแต่ในที่สุดคำว่าวินัยอุตริมนุษยธรรมมันลดไม่ได้ เพราะกล่าวเมื่อไหร่ก็ขาดเมื่อนั้นเมื่อมีคนเชื่อ แล้วก็ต้องถามกลับไปว่าเมื่อขาดเดือนไหนปีไหนก็ต้องไล่กันไปว่ามันขาดกล่าวเมื่อไหร่ ปีไหน เดือนไหน ที่เหลือนอกนั้นเป็นอะไร ในนี้เขาเขียนไว้ชัด พระวินัยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208 บัญญัติว่า ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องใช้หมายที่แสดงว่า เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ในพระพุทธศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลเพื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ กรณีที่ภิกษุจับสึกแล้วถูกดำเนินคดีอาญา แต่กลับมาแต่งกายเป็นภิกษุอีกโดยอ้างว่ายินยอมเรื่องจีวรเพื่อต่อสู้คดี ศาลอาญาวินิจฉัยว่า ให้เป็นไปตามคำพิพากษา เพราะฉะนั้นนี่มันหลอกชาวบ้านในขณะทื่มันไม่ใช่พระแล้ว มันหลอกมากี่ปีกี่เดือน ฉันจึงได้บอกว่าเดี๋ยวฉันจะไปหาคุณธาริต ไปคุยกับคุณธาริตว่านี่มันเข้าข่ายหลอกลวง คดีพิเศษทำอะไรได้บ้าง อาจจะต้องพึ่งศาลปกครองว่าเจ้าคณะพระสังฆาธิการที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่มีจรรยาพระสังฆาธิการ เดี๋ยวฉันอ่านให้พวกคุณฟัง เป็นจรรยาบรรณของพระสงฆ์เป็นหลักของพระสงฆ์ เป็นหลักที่พระสงฆ์ต้องปฏิบัติ จริยาวัตร ข้อที่ 44 พระสังฆาธิการต้องเคารพเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช สังวรณ์และปฏิบัติตามพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด ข้อที่ 46 (ฉันเอาย่อๆ นะ) พระสังฆาธิการต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง มิให้เกิดความเสียหายแก่คณะสงฆ์และการศาสนา และห้ามมิให้ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหุอันควร เขาผิดอยู่แล้วเจ้าคณะปกครอง
ข้อต่อมาข้อที่ 51 พระสังฆาธิการต้องรักษาข้อความอันเกี่ยวกับคณะสงฆ์ อันไม่ควรเปิดเผย ทั้ง 8 ข้อนี้เป็นตัวจริยาอันพระสังฆาธิการต้องประพฤติตามโดยเคร่งครัด หากละเมิดย่อมได้รับโทษฐานละเมิดจรรยาพระสังฆาธิการ และข้อที่ 52 ถ้าผู้บังคับบัญชารู้อยู่ว่า ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาละเมิดจริยา ต้องพิจารณาว่าความละเมิดของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชานั้นอยู่ในอำนาจที่ตนจะสั่งลงโทษได้หรือไม่ ถ้าอยู่ในอำนาจที่ตนสั่งลงโทษได้ ก็ให้สั่งลงโทษแล้วรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาเหนือตน ถ้าเห็นว่าความละเมิดนั้นควรจะลงโทษหนักกว่าที่ตนมีอำนาจที่จะสั่งลงโทษได้ ก็ให้รายงานผู้บังคับบัญชาเหนือตนขึ้นไป เพื่อพิจารณาสั่งลงโทษตามสมควร ผู้บังคับบัญชารูปใดไม่จัดการลงโทษผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ฐานละเมิดจริยา จัดการลงโทษโดยไม่สุจริต ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชารูปนั้นละเมิดจรรยาเสียเอง โทษฐานละเมิดเขามีกำหนดเอาไว้ว่า พระสังฆาธิการรูปใดเมื่อมีการละเมิด ให้ทำโทษดั่งนี้ ถอดออกจากตำแหน่ง ปลดออกจากตำแหน่ง ตำหนิโทษ และภาคทัณฑ์
ข้อที่ 55 การถอดออกจากตำแหน่งหน้าที่นั้นจะทำได้ต่อเมื่อพระสังฆาธิการละเมิดจรรยาอย่างร้ายแรง แม้นข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ .. ต่อไปนี้ก็คือมีตั้งแต่ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ประมาทเลินเล่อ ขัดคำสั่ง ละทิ้งหน้าที่ และทุจริตต่อหน้าที่ เข้าขั้นข้อที่ 1 ทุจริตต่อหน้าที่ และมีประมวลกฎหมายอาญา มาตราที่ 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ก้องเกียรติ - หลวงปู่กำลังเชื่อมโยงว่ามาตรการทางกฎหมาย หรือกฎทางสงฆ์มีอยู่

หลวงปู่ - มีอยู่ด้วย และก็มีกฎหมายบังคับบัญชาด้วย และกฎหมายอาญาดูแลอยู่ด้วย มันเข้าข่ายการปกครอง

ก้องเกียรติ - จริงๆ ถ้ามองสายปกครอง ก็คือเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษกำลังเริ่มดำเนินการ ที่จะเรียกตัว

หลวงปู่ - คุณเชื่อมั้ยล่ะ ก็เมื่อเช้าเจ้าคณะภาคเอง ซึ่งเป็นหัวหน้าเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ออกมายืนยันว่าในกรณีของเณรคำนี่โดนกลั่นแกล้ง แล้วคุณเชื่อมั้ยว่าลูกน้องเขาจะกล้าทำอะไร แล้วเจ้าคณะจังหวัดนี่ก็ไปเอารถเขามาด้วย

ก้องเกียรติ - ก็นี่ไปร่วมงานวันเกิด คลิปพร้อมแล้วครับที่ล้อเลียน ไปดูว่าทางโซเชียลเน็ตเวิร์กเขาทำอะไรกันออกมา

(คลิป)

ก้องเกียรติ - ศาสนกิจ หรือว่าศาสนธรรม ของโลก หรือของไทยเอง ถูกนำออกมาอย่างนี้ก็ถือว่าเสียหายเยอะนะครับ

ชัชวาลย์ - นี่ฝรั่งทำนะ

หลวงปู่ - ไม่ เขาอย่างหนาไง

ก้องเกียรติ - แล้วหลวงปู่ ในทิศทางของหลวงปู่

หลวงปู่ - ฉันไม่หนาไง

ก้องเกียรติ - การออกมาเปิดโปงครั้งนี้ หลวงปู่มองเป้าหมายเพื่อะไรครับ ตอนนี้ ตอนนี้ปฏิบัติตัวเองด้วยการประท้วงก็คือไม่โกนคิ้วแล้ว หลังจากนี้คิดว่าจะทำอะไรต่อ

หลวงปู่ - ฉันคิดว่าฉันตายคนเดียว แต่ก่อนจะตายนี่ พวกมันต้องตายร้อยศพ

ชัชวาลย์ - ทำยังไงมันถึงจะตาย หลวงปู่

หลวงปู่ - มันมีวิธี กำลังดำเนินการอยู่

ก้องเกียรติ - ตายจากทางโลกนะ ไม่ใช่ตายจากโลกนี้ไป ตายจากสังคมนี้ไป ความชั่วเท่านั้น

หลวงปู่ - ก็เขามีคนโทรมาบอกว่าระวังจะไม่แก่ตาย

ก้องเกียรติ - อย่างหลวงปู่ ต้องยอมรับว่ามีศึกหลายด้าน จากรณีเรื่องของเณรคำ เรื่องของพระเกษม

หลวงปู่ - รถหรูอีก

ก้องเกียรติ - แล้วก็รถหรู ที่ดีเอสไอกำลังตรวจสอบ

หลวงปู่ - หลวงเฮียเกษม

ก้องเกียรติ - หลวงเฮียเกษม ที่ตอนนี้ก็รอหลวงปู่จะไปดีเบต

ชัยพันธุ์ - ถ้าที่ไม่พอ สวนลุมฯ ก็สนามม้าก็ได้

ก้องเกียรติ - ตอนนี้รู้สึกหลายคนอยากเป็นเจ้าภาพ สภาวัฒนธรรมก็อยากจะเป็นเจ้าภาพ

หลวงปู่ - เป็นเจ้าภาพแล้วช่วยจ่ายตังค์ค่าเช่าสถานที่ด้วยหรือเปล่า

ชัยพันธุ์ - เดี๋ยวให้พี่อ้ายจัดเลย ไม่ต้องเสียค่าเช่า

หลวงปู่ - กำลังจะถามว่าเสียตังค์ค่าเช่าสถานที่ด้วยหรือเปล่า เสียตังค์ค่าน้ำ ค่าไฟ บริหารจัดการ กำลังจะบอกตั่วเฮียว่ามาแบ่งกันคนละครึ่งมั้ย ค่าใช้จ่ายน่ะ ไหนๆ ก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ที่ฉันทำนี่ ฉันไม่ได้ทำเพราะฉันอยากได้ เพราะวิธีทำให้ฉันดังมีหลายวิธี ฉันมีปัญญาคิด แต่ฉันรับไม่ได้กับภาพที่เห็น รับไม่ได้ มันมีความรู้สึกว่า คำว่าพระไทย มันรวมไปถึงรากเหง้า และที่แย่กว่านั้นก็คือ เขาอวดตัวเองว่าเป็นอรหอย คำว่า อรหอย นี่มันคือสุดยอดของพระศาสนาแล้ว แล้วถ้าสุดยอดของพระศาสนา ยังไปทำแบบภาพการ์ตูนนี่อยู่ มันไม่มีอะไรเหลือแล้วศาสนานี้

ก้องเกียรติ - คืออันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสังคมที่มี แล้วหลังจากนี้เราจะเห็นว่าเป็นภาพข่าวปรากฏ เช่น พระไปรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ต่างประเทศ หรือว่ารับกิจนิมนต์ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่ต่างๆ ตอนนี้เริ่มออกมาเยอะ ตอนนี้ในฐานะหัวใจของคนที่อยู่ในวงการพระพุทธศาสนา หรือเป็นผู้เผยแพร่ธรรม หลวงปู่มองยังไง

หลวงปู่ - คือฉันเหนื่อยนะ ชั่วชีวิต 30 กว่าปีนี้ ฉันแสดงธรรมมาตลอดอย่างที่คุณรู้ มันทำให้เราเห็นภาพในผลกระทบที่เราได้รับฟีดแบ็กจากชาวบ้านที่เขาตั้งข้อกังขา ตั้งปัญหา ตั้งเรื่องถาม เราเหนื่อยที่จะตอบ เราเหนื่อยที่จะทำอารมณ์กับขบวนการที่ดูถูกดูแคลน

ก้องเกียรติ - คือสิ่งกลับมากลายเป็นอย่างนี้

หลวงปู่ - เออ มันจะเจอแบบนี้ ขนาดเกิดเรื่องใหม่ๆ ฉันกลับมาจากปลูกป่าเชียงใหม่ เดินสนามบิน มันมองฉันตั้งแต่หัวจดปลายตีนเลย คนไทยนะ ฝรั่งก็เหมือนกัน มันมองด้วยความรู้สึกเหมือนกับขยะแขยง เราก็มีความรู้สึกว่า เอ๊ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วพวกมหาเถรทำอะไร ก็มหาเถรไม่ได้ออกไปเทศน์แบบนี้ไง ไม่ได้ไปสัมพันธ์สัมผัสกับชาวบ้าน ไม่ได้รับรู้ถึงอารมณ์ที่ชาวบ้านมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่มันเลวร้ายออกมา

ชัยพันธุ์ - ไปกันไม่ไหวแล้วครับ บางทีต้องนั่งรถเข็น ต้องอะไร

หลวงปู่ - อ๋อ เพราะว่ามันไม่ไหวแล้ว ก็เลยต้องใช้รถ มายบัค รถเบนต์ รถโรลส์รอยซ์ อะไร มหาเถรบางท่านมีรถหรูไม่ต่ำกว่า 20-30 คัน สะสม เพราะฉะนั้นจะมามีเวลาทำอะไรกับพวกนี้ แค่เอาผ้าเดินปัดหน้าปัดหลังรถก็หมดวันหนึ่งแล้ว

ก้องเกียรติ - พี่ชัช ในมุมมองทางโลก พี่ชัชได้สัมผัสมั้ย

ชัชวาลย์ - ผมเคยเป็นที่ปรึกษา พศ.ด้วย สมัยลูก อ.สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็น ผอ. แล้วผมก็รู้จักเถระบางรูปในเถรสมาคม นักการเมืองนี่หากินง่าย ก็คือเข้ามาในวงการเมืองแล้วโกง ซื้อเสียงเลือกตั้ง คนที่หาเงินอีกอันหนึ่งง่าย คือเข้ามาในวงการศาสนา เอาผ้าเหลืองใส่ แล้วจากนั้นก็เป็น 1 มงกุฎหลอกคน คนนี่นะ เงินตรงศาสนานี่ง่ายนะ ง่ายมากเลย เพราะว่าผู้คนยังหลงกับสิ่งที่มันไม่จริง คุณดูนะ พระองค์นี้ที่เขาเรียกพระ ซึ่งไม่ใช่พระ คือไอ้เณรคำ มันบอกเลยมันได้รถโรลส์รอยซ์มา ไม่ใช่นั่งสบายนะ ร้อยกว่าล้าน เป็นร้อยล้าน ฉันนั่งมากรุงเทพฯ นี่เมื่อยนะ เพราะงั้นไอ้โรลส์รอยซ์นี่ ฝรั่งมันทำหลอก แต่ .. แล้วมึงเอาไว้ทำไมล่ะ มึงนั่งทำไมล่ะ

หลวงปู่ - ไอ้ที่บอกว่านั่งไม่สบายเพราะต้องการจะเปลี่ยนเป็นเครื่องบินไง

ชัชวาลย์ - อ๋อ อยากได้เจ็ต นะ อันที่หนึ่ง อันที่สอง บอกไปเฝ้า เป็นมานพหนุ่ม เกิดในสมัยพระพุทธเจ้า ได้สนทนากับพระพุทธเจ้า แล้วพระพุทธเจ้าบอกว่าชาตินี้จะมาพาคนไปนิพพาน มึงจะบ้าหรือเปล่า นี่พระที่ไหน แต่ที่สำคัญตรงนี้ การเมืองกับการศาสนาไม่ต่างกัน ของเขา เพราะมีรัฐบาลชั่ว ไม่ต่างกัน ถ้าพระมีผู้ปกครองชั่ว คุณว่าคุณจะทำให้วงการศาสนาสะอาดมั้ย ไม่ต่างกัน วันนี้ใครอยากจะมีตำแหน่งพระ วิ่งไปหาเถรสมาคม พวกใครพวกมัน

ก้องเกียรติ - คือผมเห็นภาพปรากฏข่าว ก็คือแม้แต่ ...

ชัยพันธุ์ - บวช 7 วันก็เป็นพระครูได้แล้ว

ก้องเกียรติ - คือ เณรคำนี่ เดินสายแจกรถเลยนะครับ คัมรี ลีมูซีน รถตู้ โดยอ้างว่าเพื่อศาสนกิจ

ชัชวาลย์ - เอาอย่างนี้ ไอ้คำนี่มันกระจอก มันแค่ 1 ใน 18 มงกุฎ ในวงการศาสนา มีเยอะ คุณว่าจานบินใช่หรือเปล่าล่ะ ไอ้จานบินนี่จนกระทั่งขึ้นศาลแล้วด้วย สมเด็จพระสังฆราชบอกปาราชิกแล้วด้วย ทำไมมันอยู่ได้ ก็เพราะว่ามันเคยให้เงินระดับพระผู้ใหญ่ในเถรสมาคม มันดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นการทางด้านโลกธรรม ก็คือรัฐบาลชั่ว ทางด้านศาสนา คุณว่าผู้ปกครองพระชั่วมั้ยล่ะ ถ้าผู้ปกครองศาสนาไม่ชั่วนะ ศาสนาจะไม่เสื่อมแบบนี้ พระ 18 มงกุฎ หรือคนที่เป็น 18 มงกุฎ สวมผ้าเหลือง เป็นจิ้งเหลน มันไม่มีมากมายหรอก เยอะนะ วันนี้พุทธพาณิชย์ตัดกรรมได้ด้วยถ้าไปหาเจ้าอาวาสที่หัวหิน ขึ้นเป็นไฟวิ่งเลย บอกใครทำอะไรมาก็ตาม ขอให้มีเงินเท่านั้นล่ะ มาตัดกรรมได้ เพราะงั้นทั้งหมดนี้มันบ้าไปแล้ว เข้าใจเลยหลวงปู่ทำไมถึงเหนื่อยกับมัน พวกผมก็เหนื่อยนะ สู้กับทักษิณ เหมือนกันเลย ทางวงการสงฆ์ก็ต้องสู้ในวงการสงฆ์ ในวงการมนุษย์อย่างพวกเราก็ต้องสู้กับไอ้รัฐบาลชั่ว เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องสังคายนาอย่างหนักเลย

หลวงปู่ - เราไปอย่างนั้นเดี๋ยวโดนอีก

ชัชวาลย์ - 8 คัน หลวงปู่ ไม่เป็นไร เพิ่มอีก 4 คัน

หลวงปู่ - จริงๆ แล้วฉันต้องยอมรับว่าฉันเหนื่อยกับกระบวนการบริหารจัดการของคณะสงฆ์ที่ไม่ค่อยใส่ใจ ฉันบอกกับเฮียเกษมด้วยว่ารอให้ฉันจัดการ2 เรื่อง อย่างที่พูดไปเมื่อครู่ ก็คือเรื่องนายคำ กับเรื่องรถหรู เพราะว่าฉันรู้ทั้งรู้ว่าไอ้รถหรูเนี่ย วงการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะผู้บริหารคณะสงฆ์ชั้นสูงหลายรูปหรือบางรูป ก็มีรถหรูเหล่านี้ที่ผิดกฎหมาย ผิดพระธรรมวินัย เพราะในพระธรรมวินัย ปาราชิกข้อที่ว่าด้วยเรื่องลักทรัพย์มันมีอวหารที่ว่าด้วยเรื่องตระบัดสัตย์ ไอ้คำว่าตระบัดสัตย์ก็คือ สินค้าตัวนี้ ราคาเท่านี้ 10 บาท หรือเกินกว่า 5 ย้ายมาอยู่ตรงนี้ด้วยเจตนาต้องการให้ย้าย เป็นอาบัติปาราชิก แล้วที่เขาออกมาให้สัมภาษณ์ ที่วัดๆ หนึ่ง แถวนครปฐม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เป็นชิ้นๆ แล้วก็ถอดออกมาแล้วก็มาใส่กล่อง แล้วก็ย้าย ฉันไม่รู้ว่าเจ้าคณะปกครองได้ฟังอยู่หรือเปล่า

ก้องเกียรติ - อยากฟังมั้ยครับ เดี๋ยวเปิดให้

หลวงปู่ - เอ้า ลองดูหน่อยซิ แล้วเจ้าคณะปกครองได้ฟังอยู่มั้ย ถ้าฟังแล้ว รู้มั้ยว่านี่มันถูกวินัยหรือผิดวินัย

ก้องเกียรติ - ลองเปิดเสียงดูครับ

(คลิป : เรื่องรถหรู)

ก้องเกียรติ - ครับนี่เป็นคำชี้แจงของหลวงพี่น้ำฝน

หลวงปู่ - มีคนให้รถแล้วคุณอยากจะถอดรถเป็นชิ้นๆ และข้ามใส่เรือมาไหม

ชัชวาลย์ - คือทำไมต้องถอดอันที่ 1 อันที่ 2 เอ้ยทำไมรถหรู พระมีความจำเป็นอะไร

หลวงปู่ - ไม่ฉันว่า รู้ทั้งรู้ไง ว่าเข้ามาแล้วมันจะเสียภาษีในอัตราที่สูง

ชัยพันธุ์ - สูงกว่าเท่าไหร่

หลวงปู่ - สูงกว่าหลายร้อยเท่า

ชัชวาลย์ - 200%

หลวงปู่ - เขาอ้างว่าเขาเสียตั้งล้านกว่าบาท

ชัชวาลย์ - ล้านกว่าบาทมันถึงที่ไหนมันต้องมากกว่านั้น

หลวงปู่ - อ่อหรอ

ชัชวาลย์ - เอ้า หลวงปู่ก็ที่เขาซื้อ

ก้องเกียรติ - คือถ้าทั้งคันเสีย 200 เท่า ถ้าเป็นจดประกอบเสียค่า 30%

หลวงปู่ - ก็นี่ไง เป็นที่มาว่าคิ้วทำไมยังอยู่

ชัชวาลย์ - เณรคำยิ่งร้ายกว่านั้น มันบอกว่า ไอ้โรลส์รอยซ์นั่งไม่สบาย แต่ที่มันรับเพราะว่าโยมให้

ก้องเกียรติ - คือมันจะเป็นข้ออ้างแบบนี้ครับหลวงปู่

ชัชวาลย์ - แม่สอนบอกว่า ของฟรีเอาเถอะ

หลวงปู่ - นี่ฉันบวชมา 30 กว่าปีนะก้อง วันนี้ฉันไม่มีเงินจะรักษาแม่เลย แม่ยังนั่งขายน้ำอยู่ที่วัดอยู่เลย ไม่รู้มันบวชกันท่าไหน มันถึงได้มีปัญญามีตังค์ซื้อ ซื้อรถ ซื้อบ้าน

ก้องเกียรติ - บ้านหรู หรือบ้านเมียทั้งหลายที่มีลูกมีเต้าที่เป็นข่าว

ชัยพันธุ์ - เออ นั้้นมันบวชกันท่าไหน น้องเขาครับน้องหน้าตาคล้าย แต่น้องมีไปทำผู้หญิงเขาท้องอะไรต่ออะไร พี่เป็นพระพี่ต้องมีเมตตา มีต้องควักสตังค์ไปปลูกบ้านหรู

หลงปู่ - เอาตังค์ใครมาควัก

ชัยพันธุ์ - นี่สงสัยอยู่เหมือนกัน ตังค์ท่านมั้ง เขาคงให้ใส่กระเป๋า ใส่ย่าม

หลวงปู่ - ก็รู้มาว่า ก่อนมันมาบวชนี่ บ้านมันยังต้องเช่า นาเขาทำเลย แล้วเวลานี้มันมาบวชแล้ว ทำไมมันมีคฤหาสน์หลังเบ้อเริ่มอยู่ในที่ 3 ไร่เต็ม

ชัยพันธุ์ - เวลาโยมถวายโยมไม่ได้บอกว่า อันนี้ให้วัด อันนี้ให้อาตมา อาตมาก็ใส่ย่ามอาตมา

ชัชวาลย์ - ไม่หรอกจริงๆ พระพุทธศาสนา ผมคิดว่านะ เขาไม่ให้คุณทำแบบนี้หรอก ไอ้ที่ทำอยู่มันผิด แต่คุณอย่าลืมสิ เถรบางองค์อย่างที่ท่านอาจารย์บอก รถหรูยังมี วัดคุณเข้าไปดูในวัด เถรสมาคมแต่ละวัดของมีค่าเต็มไปหมดเลย และที่สำคัญที่สุด นักการเมือง หรือทหารใหญ่ไปกราบไปไหว้ไง เลยไปกันใหญ่เลยคราวนี้ เละงทางโลกและทางธรรม

หลวงปู่ - มันเอาความฟุ้งเฟ้อ ร่ำรวย ลุ่มหลงมาเป็นมาตรฐานในการที่จะกำหนดสเปกของคน คุณภาพของคน โดยมากฟุ้งเฟ้อมากๆ มีอะไรที่หะรูหะราเยอะมาก แสดงว่าสเปกสูง

ชัชวาลย์ - นี่พระดีเลย

หลวงปู่ - แต่ถ้าอยู่หลังคาจากมีพื้นดิน มุงหญ้าแฝกอะไรเนี้ยะ แสดงว่าสเปกต่ำ

ก้องเกียรติ - นี่แสดงว่าอยู่ที่ค่านิยมของพุทธศาสนิกชน

หลวงปู่ - ใช่ มันเลยทำให้เกิดก่อกำเนิดเกิดไอ้คำ 1, 2 เดี๋ยวมีอีกนะแถวสมุทรสาครจะตามมา

ก้องเกียรติ - เร็วๆ นี้ใช่ไหมครับ

หลวงปู่ - เร็วๆ นี้ โปรดติดตามตอนต่อไป

ก้องเกียรติ - เรียกว่าเปิดรายการนี้ก่อนได้ไหมครับ

หลวงปู่ - ได้ ก็พูดแล้ว พูดนี่เลยว่าเดี๋ยวสมุทรสาครตามมา

ชัชวาลย์ - ทั้งหมดมันมาถึงสู่ยุคที่เรียกว่า มันเป็นกลียุคนะครับ พูดชัดๆ ผมไม่ได้ว่ากับใคร ไม่เกี่ยวกับคำว่า กะหร่ง กะหรี่อะไรเลย ไม่เกี่ยวกัน อันนี้มาพูดถึงกลียุค คือยุคที่มันหมดแล้ว มันไม่ใช่แค่การเมือง มันลามไปจนถึงพระสงฆ์องค์เจ้า มันแตกกันไปหมดเลยนะ ทุกวงการ แล้วข้าราชการแทนที่ พศ.หรืออะไร แทนที่จะไปเข้าไปเป็นสำนักเลขาฯ ไปรับใช้ ก็เข้าไปเพื่อเงิน ที่ไหนมีเงิน อย่างนั้นก็กลายเป็นแหล่งเงินแหล่งอำนาจ

หลวงปู่ - ที่จริงฉันรู้สึกเห็นใจ เจ้าพระคุณสมเด็จ เพราะว่านี้เขาอ้างว่าเขาเป็นธรรมยุตนะ

ชัยพันธุ์ - อ่อหรอ

หลวงปู่ - แล้วเฮียเกษมแกบอก แกก็เป็นธรรมยุต

ชัยพันธุ์ - แกมีด้วยหรอครับ

หลวงปู่ - ก็ไม่รู้เห็นใครๆ ก็บอก

ชัยพันธุ์ - ได้พระพุทธรูป

หลวงปู่ - แกก็บอกว่า แกเป็นธรรมยุต เพราะฉะนั้นฉันถึงได้รู้สึกสงสาร หรือว่าเห็นใจเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เพราะว่าท่านไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย และเจ้าคณะปกครองลำดับชั้นของฝ่ายธรรมยุตได้ขึ้นชื่อว่า เป็นที่เคารพศรัทธา เพราะว่าเป็นที่เคร่งครัด เงินทองไม่จับ ไม่ยินดีในลาภสักการะ แต่เมื่อเช้าเจ้าคณะปกครองลำดับชั้นธรรมเป็นเจ้าคณะภาค เขาถาม เจ้านักข่าวเขาถามว่า ไอ้รถนี่เป็นชื่อของใคร ชื่ออาตมาเอง อย่างนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว มีหน้าที่เพียงใส่กางเกงแล้วเตรียมตัวสึกได้แล้วหลวงพ่อ เพราะว่าถ้ามันเป็นอย่างนี้มันก็ผิดหลักของคำว่า ธรรมยุตแล้ว เพราะว่าธรรมยุตเขาไม่จับตังค์ ไม่มีสมบัติ เป็นอะไรที่มันไม่มีทรัพย์สินเงินทอง แล้วทำไมอยู่ดีๆ มาบอกว่า ชื่อรถเป็นของอาตมาเอง อ้าว เขาถวายอาตมา หรือว่าถวายวัดล่ะ ฉันนี่มีคนถวาย คุณสนธิให้นั่งรถอยู่ทุกวันนี้ ยังไม่รู้เลยเป็นชื่อใครเลย นั่งพังมา 2คันแล้ว

ก้องเกียรติ - เดินทางแสดงธรรม

ชัยพันธุ์ - ก็มีปัญหานี่ครับ เจ้าคณะบางรูปแถวอีสาน มรณภาพไปค้นเงินมีตั้ง 300-400 ญาติโยมก็มะรุมมะตุ้มบอกนี่เงินพระจะขอมาแบ่ง

ก้องเกียรติ - สำหรับองค์นี่นะครับ มีการเปิดเผยบอกว่า ในการสร้างพระแก้วมรกต ตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 54-53 ปรากฏว่าได้ทองคำมาจำนวน 8,000 กิโลกรัม

ชัชวาลย์ - ตอนนี้จะได้เกือบ 9,000 และอีกนิดเดียว แต่ที่สำคัญคือ สร้างพระแก้วก็ผิดกฎหมาย ไม่ได้ขอ อันที่ 2 บอกพระอินทร์เป็นคนบอกให้สร้างพระแก้ว และจะต้องทำวิหารใหญ่ 600 x 600 เมตร ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วพระอินทร์กับแกสนทนาธรรมกันตลอดนะ

ชัยพันธุ์- ท่านเป็นเพื่อนกันนะ

ชัชวาลย์ - นิมนต์ไปคุยด้วย คือโกหกตอแหล เอาอย่างนี้ดีกว่า คือพระแบบนี้เข้าใจหรือว่า เป็นพระไปคุยกับพระพุทธเจ้าได้ ระลึกชาติได้หมด บ้า มันคนบ้า คนโกหก

หลวงปู่ - ดีไม่ดีพระอินทร์อาจจนิมนต์ไปนอนที่บนวิมานด้วยก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ที่ฉันรู้ก็คือว่า วันนี้เราจะทำยังไงกันกับกระบวนการศาสนาที่มันเน่า มันแย่ มันไม่เป็นที่มุ่งหวังได้ของประชาชน และเป็นที่เอือมระอาของสังคม แต่อยากจะใช้ตรงนี้ในเรื่องแก้วาทกรรมที่มีผู้คนเข้าใจเราว่าฉันท้อหลวงเฮียเกษม ตั่วเฮียเกษม ดีเบตไมค์ ไม่ใช่ไปทะเลาะกันนะ เพราะอย่างน้อยฉันก็มีกติกาบอกกับตั่วเฮียเกษมเขาไป ให้เลขาฯ มูลนิธิทำหนังสือไปว่า เราต้องหาข้อยุติของหลักธรรมและวินัย แล้วก็ต้องปฏิบัติให้ชัด อย่ามาทำลาย เอาความเห็นของตนมาทำลายศรัทธาชาวบ้าและความเชื่อของชาวบ้าน อย่าเอาสัจธรรมปฏิรูปที่ตัวเองคิดเอง มายัดเยียดใส่หัวชาวบ้านแล้วบังคับให้เชื่อตามคุณ ถ้าคุณล้มเลิกสิ่งเหล่านี้ได้ ฉันจะไปคุยกับคุณ แล้วก็อยากใช้รายการนี้ฝากบอกหลวงเฮียว่า ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อนที่จะบวชใหม่ รอให้หลวงน้องจัดการเกี่ยวกับหลักธรรมวินัยให้มันชัดเจน ไอ้คนที่มันเกาะกินหลักธรรมวินัยน่ะ กำจัดมันเสียก่อน หลวงเฮียไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวก็ถึงคิวหลวงเฮียเอง แล้วไอ้ที่บอกว่าเรียกหลวงเฮียน่ะไม่โกรธ แต่เรียกวรนุชน่ะ น่าเกลียด ก็ถ้าหลวงเฮียไม่อยากให้เรียกวรนุส หลวงเฮียก็ต้องเข้าใจว่าอะไรสำคัญกว่าเฮีย แล้วสิ่งที่หลวงน้องกำลังทำ เป็นเรื่องธรรม เรื่องวินัย มันสำคัญกว่าการไปดีเบตกับเฮียอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเฮียใจเย็นๆ อย่าเพิ่งกระสัน แล้วเฮียช่วยออกค่าใช้จ่ายคนละครึ่งด้วย

ก้องเกียรติ - เห็นบอกสภาวัฒนธรรมจะเป็นเจ้าภาพ ผมว่างานนี้คนรอดูเยอะ

ชัยพันธุ์ - อาจจะมีถ่ายทอดสดหลายช่องนะ

ชัชวาลย์ - ผมอยากฝากเถรสมาคมและพระผู้ใหญ่ วันนี้ไหว้พระ ผมไม่รู้จะไหว้พระองค์ไหนเลย แม้กระทั่งพระเถรผู้ใหญ่บางคนที่ผมสนิท ผมยังไม่ไปพบเลยนะ เพราะไหว้ไม่ลง สิ่งที่ไหว้ไม่ลงเพราะว่าพระจมอยู่ในกิเลสหมดเลย จมอยู่ในกิเลสด้วยว่า คุณมีหน้าที่เหมือนกับเป็นหน้าที่ปกครองคอยดูแล ทำให้ศาสนามันสะอาด เสือกไปสนับสนุนไอ้พวก 18 มงกุฎที่สวมผ้าเหลือง ไอ้นี่น่ากลัว ไม่เช่นนั้นนะ คุณเห็นมั้ยวงการศาสนานี่ เวลาไปหลอกโยมเขา โยมเขาเชื่อ เขาบริจาคกันฉิบหายเลยนะ เห็นมั้ยเซ็นซื้อเฮลิคอปเตอร์ก็เซ็น ได้กันเป็นหมื่นล้าน หลายหมื่นล้าน เพราะฉะนั้นเงินในวงการศาสนา ถ้าเถรสมาคมยังไม่สำเหนียกนะ คนจะไม่ไหว้ ไหว้ไม่ลงนะ ไม่รู้พระจริง /พระปลอม

ก้องเกียรติ - แล้วปล่อยให้เละเทะ

ชัชวาลย์ - ถ้าพูดภาษาแบบชาวบ้านคือเลวสิ้นดี เพราะสถาบันพระเป็นแบบนี้แล้วมึงจะไปพึ่งใครล่ะ เราหวังศาสนาเป็นที่พึ่ง แล้วศาสนามันเลวอย่างนี้ ใครจะไปไหว้พระ

ก้องเกียรติ - หลวงปู่ครับทีมงานมีอีกคลิปหนึ่งที่อยากจะถามหลวงปู่ อย่างนี้ถือว่าเรียกพระได้หรือเปล่า เป็นการสอนภาษาเทพ ลองไปดูกันครับ

หลวงปู่ - อ๋อ ขำๆ น่ะเหรอ ฉันเป็นคนมาบอกให้นักข่าวเมื่อวาน สรยุทธเลยเอามาออกไง

(คลิป สอนภาษาเทพ)

หลวงปู่ - สงสัยต่อไปข้างหน้าฉันจะเปลี่ยนทรงผม โมฮอว์ก

ก้องเกียรติ - ยังพอให้ลูกศิษย์ได้กราบบ้างนะครับ เป็นโมฮอว์ก

หลวงปู่ - ทำไมล่ะ ก็มันยังทำได้เลย

ชัชวาลย์ - คือทำอะไรก็ได้หมดแล้วไง

ชัยพันธุ์ - ไม่มีใครทำอะไร

ก้องเกียรติ - จะหมดเวลา ให้หลวงปู่สรุปแนวทางที่หลวงปู่กำลังทำ ผมว่ามันเป็นโจทย์ใหญ่ของคนในวงการพระพุทศาสนา ทั้งภาครัฐ ภาคของพระสงฆ์ และประชาชน

หลวงปู่ - ภาครัฐไม่ต้องพึ่ง เพราะตัวเองจะเอารอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ภาคพระสงฆ์นี่แน่นอนว่าไม่รอดแน่ ถ้าตราบใดที่คณะสงฆ์และมหาเถรสมาคมยังมีแผลเหวอะหวะกันทั้งนั้น เกือบทั้งนั้น และก็ไม่สำเหนียก ไม่สำนึก ไม่ระลึกถึงหน้าที่ของสัตยวงศ์ และสมณสารูป และไม่ทำหน้าที่ของเจ้าคณะฝ่ายปกครองที่เที่ยงธรรม สิ่งที่จะได้รับก็คือความเน่าอย่างที่เห็นนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นจึงอยากวิงวอน เมื่อเราพึ่งพระสงฆ์ไม่ได้ ก็ใช้หลักพระพุทธเจ้าที่สอนสั่งเรามาว่า ให้ใช้ภิกษุบริษัท 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ช่วยกันดูแลรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ให้ได้ และเที่ยงธรรม สุจริต ยุติธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องสุจริตธรรม เพราะฉะนั้นเมื่อเราทำอย่างนี้ ฉันเชื่อว่าพระศาสนาจะอยู่ได้ เอาล่ะ เราพึ่งพระสงฆ์ไม่ได้ ก็พึ่งตัวเอง ใช้หลักอัตตาหิ อัตโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตนอย่างมีคุณธรรม คุณธรรม คุณภาพ คุณประโยชน์ และสร้างชีวิตให้มีคุณค่า เจริญธรรม

ก้องเกียรติ - กราบนมัสการ ขอบพระคุณหลวงปู่ที่เมตตามาออกรายการตีแสกหน้าวันนี้ จริงๆ ผมมีวิธีการมองพระที่ปฏิบัติดี ที่เราควรเคารพบูชา พระพุทธเจ้า มีอยู่ 5 ประเภทด้วยกัน ที่เขาเรียกว่าเป็นมหาโจร ขออนุญาตเติมให้กับผู้ชมแล้วกัน เขาบอกว่า พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบโจร 5 ประเภท หรือว่าภิกษุที่มาเป็นโจรในคราบของภิกษุ โจรผู้ปรารถนาในลาภสักการะ รวบรวมผู้คน ปล้นเผาบ้านเรือนเพื่อลาภสักการะ ทำอุบายต่างๆ จนสมประสงค์ นี่คือประเภทที่ 1 ประเภทที่ 2 ก็คือภิกษุชั่วบางรูป เรียนรู้ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า แล้วอ้างธรรมวินัยว่าธรรมนั้นเป็นของตนเอง หรือกล่าวหาว่าพระพุทธเจ้าสอนผิด อันที่ 3 ก็คือภิกษุบางพวกใส่ความภิกษุที่ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์ว่าไม่บริสุทธิ์ โดยไม่มีมูล ประเภทที่ 4 ก็คือภิกษุที่เอาของสงฆ์ คุรุภัณฑ์ มาแจกจ่ายให้กับคฤหัสถ์ ประจบคฤหัสถ์ เพื่อลาภสักการะ และประเภทสุดท้ายก็คือ ภิกษุพวกอวดอุตริ คุณวิเศษที่ไม่มีจริง และมีจริง คือมหาโจรที่เลวที่สุด นี่ก็เป็นหลัก 5 ประการที่เราจะไปดูว่าพระไหนกราบได้ หรือกราบไม่ได้