xs
xsm
sm
md
lg

“กษิต” หลุด! มัดตัวเองจัดฉาก “ราตรี” ติดคุกเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ
“จิตตนาถ” จับพิรุธ “กษิต” หลุดปากมัดตัวเอง จัดฉากตั้งใจให้ “วีระ-ราตรี” ยอมรับว่า ล้ำแดนจนติดคุกเขมร อนาถบังคับคนกรุงต้องเลือกผู้ว่าฯ กทม.ระหว่างพรรคขายชาติ กับพรรคเผาเมือง

จากกรณี นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณี นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ถูกเขมรจับติดคุกกว่าสองปีโดยที่รายหลังเพิ่งจะได้รับอิสรภาพเมื่อไม่นานมานี้ โดยอดีต รมว.ต่างประเทศ ได้บอกปัดว่าไม่เคยทอดทิ้ง แต่ทั้งสองคนยืนยันจะสู้คดีเอง (อ่านรายละเอียดจากข่าว “กษิต” ลั่นไม่เคยทิ้ง “วีระ-ราตรี” ......)

นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือ ASTVผู้จัดการ กล่าวให้ความเห็นว่า อยากให้อ่านคำพูดที่นายกษิตให้ดี เพราะถือเป็นหลักฐานสำคัญ ว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการจัดฉากของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นรัฐบาลขณะนั้น โดยตั้งใจที่จะให้นายวีระ และ น.ส.ราตรียอมรับว่า ล้ำแดนเขมรให้ได้ นอกจากนี้ นายกษิตยังบอกราวกับเป็นบุญเป็นคุณว่าได้เป็นธุระช่วยเหลือคนไทยที่โดนจับตัวไปหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องอาหารการกิน แต่ที่ทั้งสองคนต้องถูกจำคุกไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์เขมร เพราะทั้งสองคนปฏิเสธแนวทางที่รัฐบาลพยายามช่วยแต่ยืนยันจะสู้คดีเอง

“งั้นนายกษิตช่วยพูดออกมาชัดๆ ให้สังคมรู้ได้ไหมว่า ไอ้แนวทางที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปูเอาไว้ให้น่ะคือ ให้ยอมรับว่าโดนจับในแผ่นดินเขมร เพื่อจะได้ขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์เขมรอย่างที่ให้ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปด้วยกันนำร่องเป็นคนแรกใช่ไหม” นายจิตตนาถ กล่าว

เขายังบอกอีกว่า นี่คือ ใบเสร็จที่มัดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหลักฐานว่าทำไมเราสมควรจะยกย่อง น.ส.ราตรี เป็นวีรสตรี และนายวีระ เป็นวีรบุรุษ เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าทั้งสองยืนยันถึงอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่ที่โดนทหารเขมรจับ แม้จะต้องแลกด้วยอิสรภาพในคุกเขมรกว่าสองปีก็ตาม

ขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่เคยแสดงหลักฐานเอกสารแย้งกับเขมร อาทิ โฉนดที่ดิน รวมถึงบ่อน้ำค่ายอพยพเขมรเก่าที่ภาคประชาชนนำมายืนยัน นายกษิต ในฐานะ รมต. ต่างประเทศขณะนั้น และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ไม่เคยกล่าวถึง มีเพียงการแถลงข่าวยืนยันว่าเป็นพื้นที่ที่สองคนไทยถูกจับเป็นของเขมรถ่ายเดียว

“ผมจะด่าภาษาไทยเลยว่าไอ้พวกนี้คือพวกขายชาติ อ้อแล้วที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ความมั่นคงขณะนั้น เวลาบินไปเขมรไปคุยกับฮุนเซน เรื่องเขตแดนตามกำหนดการประชุมน่ะ ตอบหน่อยได้ไหมว่าไอ้หมีควายหน้าดำตัวไหนมันบินไปคุยนอกรอบกับ พล.อ.เตียบัน ที่โรงแรมเพนนินซูลา ฮ่องกง น่ะ มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แล้วไปคุยกันเรื่องอะไร? นี่ไงฮุนเซนมันถึงมาแฉว่า มีความพยายามจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเข้ามาสวมตอผลประโยชน์แหล่งน้ำมันทางทะเลที่ ทักษิณ ชินวัตร ได้ไปตกลงไว้ พอฮุนเซนพูดเรื่องนี้ทีไรนายสุเทพ ก็จะต้องใบ้กินไปทุกที” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASTVผู้จัดการ กล่าว

เขากล่าวว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์เดือดร้อนเรื่องนี้มาก พยายามตั้งวอร์รูมแก้ข่าวอย่างเต็มที่ แต่แทนที่จะเป็นผลบวกกลับยิ่งมีแต่ผลลบ เพราะว่ายิ่งชี้แจงก็ยิ่งเข้าตัวจากกรณีนี้เป็นต้น เป็นใบเสร็จมัดเลยว่าปูทางให้เขาสารภาพว่าล้ำแดนอย่างเดียว ขณะเดียวกัน บรรดาแฟนคลับของพรรคจะคอยโพสต์ความเห็นในโลกออนไลน์ซ้ำเติมถากถาง น.ส.ราตรี ว่า โง่ หาเรื่องเดินให้เขาเข้าไปจับในแผ่นดินเขมร ซึ่งคนเหล่านี้ลืมไปว่า ทั้ง นายวีระ และ น.ส.ราตรี ได้ไปกับนายพนิช ส.ส.พรรคของตนที่นายอภิสิทธ์ส่งไปด้วย

“ไอ้พรรคการเมืองเฮงซวยพรรคนี้ นักการเมืองเฮงซวยพรรคนี้ และสาวกที่งมงายพรรคนี้ มันบ้าแต่เรื่องเลือกตั้ง คิดอยู่แต่เรื่องนี้เรื่องเดียว ถามหน่อยมีแมลงสาบตัวไหนกล้าที่จะยืนหยัดยืนหยัดเพื่ออธิปไตยไทยยอมติดคุกอย่างคุณราตรี-คุณวีระไหม” นายจิตตนาถ กล่าว

นอกจากจะมาซ้ำเติม น.ส.ราตรี อย่างน่าไม่อายแล้ว นายจิตตนาถ ยังบอกว่า คนเหล่านี้อะไรๆ ก็มาโจมตีเอเอสทีวี ว่า รับเงินทักษิณมาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่เคยตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเลยว่าตัวเองเลวอย่างที่เขาประณามหรือเปล่า ทุกอย่างคนพวกนี้มองว่าเป็นเรื่องเลือกตั้งหมด ไม่ว่านางสาวราตรีจะได้รับการปล่อยตัวมาเวลาไหน พรรคประชาธิปัตย์ก็หนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น ถ้าจะเอาเรื่องเขตแดนมาโจมตี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จริง สู้ชูเรื่อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นี่แหละที่เป็นคนไปลงนามรองรับแผนที่เขมรไม่ใช้แผนที่ไทยในเอ็มโอยู 43 สมัยเป็น รมว.ต่างประเทศ มาตีข่าวโจมตีให้หนักๆ ไม่ดีกว่าหรือ แล้วนี่มีใครในเอเอสทีวี หรือนางสาวราตรี เขาชูประเด็นนี้มาโจมตีพรรคแมลงสาบนี่แล้วหรือไม่ ก็ยังไม่มี

“วันนี้สิ่งที่ผมตกใจมาก คือ สาวกพรรคเพื่อไทย และสาวกพรรคแมลงสาบ มีจุดยืนร่วมกันหนึ่งเรื่องคือ เรื่องเขตแดนไทย เรื่องที่คุณราตรี และคณะ โดนจับว่าเป็นพื้นที่เขมร กลายเป็นประชาชนคนรักชาติไปหาเรื่องเขมรเสียแบบนั้น นี่สะท้อนถึงอะไร สะท้อนถึงว่าสำหรับคนพวกนี้ผิดชอบชั่วดีความเป็นคนไทยไม่มีแล้ว ขอพวกมาก่อน ขอพรรคกูมาก่อน ชาติอธิปไตยไม่สำคัญเท่าพรรคการเมืองเฮงซวยของพวกมัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าอดสู แบบนี้เขาเรียกพวกคลั่งพรรค ซึ่งอาการนี้พวกแมลงสาบจะเป็นกันหนักมาก” นายจิตตนาถ กล่าวและว่า เรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตนไม่สนหรอกว่าใครจะเลือกใคร ไม่สนด้วยว่าไม่เลือกเราเขามาแน่ ไม่สนใจเรื่องที่มั่นสุดท้ายอะไรบ้าบอด้วย เพราะไม่ได้ติดอยู่กับกับดักที่ทั้งสองพรรคขีดให้คนไทยว่ามีแค่สองทางเลือกเท่านั้น และทั้งสองพรรคก็ไม่ได้ส่งใครที่โดดเด่นออกมา จนทำให้คนเทคะแนนให้เหมือนผู้สมัครอิสระหลายๆ คนที่เคยได้คะแนนคนกรุงเทพฯไปอย่างในสมัยพลตรีจำลอง ศรีเมือง หรือแม้แต่ นายสมัคร สุนทรเวช สมัยนั้นก็ยังดูมีภาษีกว่าผู้สมัครจากสองพรรคใหญ่ในตอนนี้

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์พอคะแนนนิยมไม่ดี เนื่องจากไม่ได้ตัดสินใจเอาคนที่สดกว่าที่ตัวเองจะส่งลงตั้งแต่แรกอย่าง นายกรณ์ จาติกวณิช เพราะกลัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะสมัครอิสระมาตัดคะแนนกันเอง ก็มาพาลโทษว่าคนที่วิจารณ์พรรคตนไปรับเงินทักษิณมาตัดคะแนน แต่ไม่เคยย้อนกลับไปดูตัวเองว่าหวังแค่ผลเฉพาะหน้า คิดว่าขายความกลัวทักษิณให้ยังไงคนกรุงเทพฯ ก็เลือก และไม่เคยมองว่าแต่ละเรื่องที่โดนโจมตีอยู่เป็นกรรมเก่าที่ตัวเองทำไว้ไหม

ขนาดนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค ยังต้องหลอกตัวเองมาทำท่าสนับสนุนเต็มที่ทั้งๆ ที่รู้กันอยู่ว่าไม่เอา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่แรก แบบนี้เรียกว่าหลอกตัวเองตั้งแต่หัวหน้าพรรค และสาวกพรรค แสดงว่า พรรคนี้ไม่ได้มีความจริงใจกับคน กทม.ใช่หรือไม่ ส่วนผู้สมัครจากเพื่อไทยก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าสร้างภาพทุกอย่าง เก็บขยะ ขับรถเมล์ ขาดอยู่อย่างคือดูดส้วม และยังมีหน้าเอาแกนนำเผาเมืองมาช่วยหาเสียงอีก สรุปสองพรรคนี้อุบาทว์พอกัน

“ผมมีแค่ความคิดเห็นส่วนตัวว่า เลือกเผาไทยก็เท่ากับเอาพวกเผาเมืองมาโกงแบบไร้รอยต่อ เลือกแมลงสาบก็เท่ากับยอมรับพวกขายชาติมาจับคนกรุงเป็นตัวประกัน ซึ่งทั้งสองทางเป็นทางเลือกที่เลวร้ายเกินทนสำหรับผม มันไม่มีหรอกครับไม่เลือกเราเขามาแน่ มันมีแต่จะให้คนไทยเลือกระหว่างพรรคขายชาติ กับพรรคเผาเมือง ก็เท่านั้น ชีวิตทุกคนมีทางเลือกตลอดไม่ใช่หรือ ทำไมต้องติดอยู่กับกับดักอันนี้ อันที่จริงผู้ว่าฯ กทม.เขาเน้นกันที่ตัวบุคคลมิใช่หรือ และผู้ว่าฯที่โดดเด่นในอดีตที่ผ่านมาก ก็เด่นที่ตัวบุคคลนั้นๆ ผมไม่เข้าใจมันกลายเป็นเรื่องของสองพรรคเฮงซวยนี้ไปได้อย่างไร?”
นายวีระ สมความคิด
น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น