xs
xsm
sm
md
lg

“จิตตนาถ” สมเพช “ม็อบทหาร” ย้อน “ผบ.ทบ.พ่อคนที่สอง”ทำไมปล่อยในหลวงถูกจาบจ้วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซีอีโอเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ชี้ทหารตบเท้าบุก “ผู้จัดการ” โดดป้อง “บิ๊กตู่” คุกคามสื่อชัด สมเพชไม่เคยอ่านข่าวแล้วมาว่าถ่อย ชี้เคยต่อสู้ให้ทหารเจ็บ-ตายม็อบเผาเมือง แต่เจ้านายลอยตัว ถามกลับเคยคิดจะช่วยบ้างไหม ย้อนที่เปรียบเป็นพ่อคนที่สอง ทำไมไม่ปกป้องในหลวงถูกจาบจ้วง แถม นช.แม้วแอบอ้างถ้วยพระราชทาน เตือนประชาชนไม่ใช่ “ไอ้เณร” ในกรมอย่าประจานให้ปลาเน่าแล้วเหม็นทั้งข้อง

นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือ ASTVผู้จัดการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีทหารชั้นประทวนกว่า 50 นายชุมนุมที่บ้านพระอาทิตย์ แสดงความไม่พอใจกรณีที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการออกแถลงการณ์ตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก หลังกล่าวหาสื่อในเครือผู้จัดการเขียนข่าวห่วย โดยกล่าวว่าในฐานะที่ตนเป็นซีอีโอของหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ก็มีความคิดเห็นในกรณีที่กลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งได้ตบเท้ามาที่หน้าสำนักงาน บริเวณถนนพระอาทิตย์ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตนอยากจะบอกว่า ตรรกะของการตบเท้าครั้งนี้มันไม่มีอะไรเลย มันเป็นแค่การแสดงพลังเพื่อเอาใจนาย และตนเห็นว่ามีผู้ใหญ่ในกองทัพส่งสัญญาณอยู่เบื้องหลัง เพราะกองทัพมีระเบียบวินัยเข้มงวดมาก เขาประกาศเลยว่าขนาดทหารจะไปร่วมชุมนุมในเรื่องของการพิทักษ์สถาบัน หรือว่าการชุมนุมปกป้องอธิปไตย ก็คาดโทษไว้เลยว่าห้าม แต่อย่างนี้มากันและอ้างว่าเป็นสิทธิ์ของทหาร สิทธิ์ส่วนบุคคล แต่เอาเวลาราชการมา เอาน้ำมันราชการมา ใส่ชุดราชการมา แบบนี้มันมีคนส่งสัญญาณอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว

“เรื่องที่น่าขำก็คือว่า ทหารกลุ่มนี้บอกว่าผู้จัดการไปด่า พล.อ.ประยุทธ์ เท่ากับว่าไปบั่นทอนกำลังใจของทหารทั้งหมดที่ตั้งใจทำงาน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของพวกตน หนังสือพิมพ์ผู้จัดการเป็นหนังสือพิมพ์ถ่อย เป็นตรรกะที่เรียกว่า 'ตรรกะหัวแม่ตีน' ถ้าจะให้ผมวิเคราะห์ ผมรู้ทั้งที่มาที่ไปของทหารกลุ่มนี้ และผมเข้าใจทหารพวกนี้ด้วย ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกสมเพชเขาเป็นอย่างยิ่งด้วย” นายจิตตนาถ กล่าว

นายจิตตนาถ กล่าวต่อว่า ที่มาที่ไปของทหารกลุ่มนี้ว่าทำไมวันนี้ถึงต้องมาแสดงพลัง เพราะจากผลที่เราออกแถลงการณ์ที่เราเขียนตอบโต้ที่ พล.อ.ประยุทธ์มาว่าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเขียนห่วย เราได้บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์โดยเบื้องลึกไม่ได้เป็นที่รักหรือปลาบปลื้มของลูกน้องสักเท่าไหร่ เพราะจากพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องกรณีที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากกรณีที่โดนอาวุธของม็อบติดอาวุธตอนเผาบ้านเผาเมืองและล้มตาย ในขณะที่คนเผาบ้านเผาเมืองกลายเป็นวีรชน ได้ไป 7 ล้านกว่าบาท ทำให้ขวัญและกำลังใจของทหารและครอบครัวตกต่ำลงอย่างมาก ทหารต้องกลายเป็นจำเลยของสังคม แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับลอยตัว ก็ทำให้ไม่ได้ใจลูกน้อง ยกเว้นทหารคนสนิทที่ห้อมล้อม พล.อ.ประยุทธ์จะรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองไม่ได้เป็นที่เคารพและเป็นที่ปลาบปลื้มของลูกน้อง นี่ก็คือข้อหาที่แทงใจดำเขามาก เป็นที่มาของการพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นที่รักของทหารทุกคน

“กรณีนี้ไม่ต่างอะไรเลย จากเมื่อครั้งที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็น ผบ.ทบ.อยู่แล้วมีการทดสอบว่าเครื่องสแกนระเบิด จีที 200 มันไม่มีประสิทธิภาพเลยทางวิทยาศาสตร์ แต่ทหารเดือดร้อนกันเป็นแถวเลย ต้องตบเท้าออกมาบอกว่าเชื่อมั่นในเครื่องมืออันนี้ สังคมมันต้องอดสู อย่างนี้เรียกว่า หลับหูหลับตาเอาใจนาย เป็นทหารที่ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ขึ้นมา ส่วนที่ผมบอกว่าผมเข้าใจพวกเขา เพราะนี่เป็นธรรมชาติของทหารบางส่วนที่ต้องการเอาใจนาย จะเป็นทางการหรือว่าไม่เป็นทางการอย่างน้อยได้ใจนายแล้ว ได้ใจนายอย่างเดียว แต่ไม่ได้ใจประชาชน แนะนำว่าถ้าอยากจะให้กำลังใจก็เอาดอกไม้ไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่าจะดูเหมาะสมกว่า” นายจิตตนาถ กล่าว

นายจิตตนาถ กล่าวต่อว่า การตบเท้ามาที่นี่ไม่ต่างอะไรกับการคุกคามสื่อ และตนถือว่าข้อนี้เป็นข้อที่รู้สึกสมเพชพวกเขา ทหารพวกนี้แสดงว่าไม่เคยอ่านเนื้อหาข่าวของผู้จัดการเลย มาหาว่าเราเป็นหนังสือพิมพ์ถ่อย ทั้งๆ ที่ผู้จัดการเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวด้วยซ้ำ ที่ยืนหยัดเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอาวุธสงคราม ของกองกำลังติดอาวุธตอนที่เผาเมือง แล้วโดนส่งไปเป็นจำเลย ที่นายลอยตัวผู้จัดการก็สู้ให้ทหารเหล่านี้ตลอด ทหารพวกนี้ควรจะไปแสดงพลังกับสื่อในเครือมติชน หรือพวกเอเชียอัพเดท วอยซ์ทีวีมากกว่าที่ยัดเยียดให้ทหารที่เขาปกป้องให้บ้านเมืองสงบกลายเป็นฆาตกรไปแทน สื่อแบบนั้นบั่นทอนกำลังใจในการทำหน้าที่ของทหารอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ คำถามที่อยากจะฝากกลับไปก็คือว่า ในทหาร 50 กว่าคนนี้ เคยออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพวกพ้องที่ต้องบาดเจ็บล้มตายฟรีบ้างหรือเปล่า เคยเรียกร้องหาความปลอดภัยในอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ไหม เคยห่วงบ้างไหมว่าเพื่อนทหารด้วยกันเองจะไปเจอระเบิดจากเครื่องสแกนที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือตกเรือเหาะตาย เคยห่วงบ้างไหม นสพ.ผู้จัดการต่างหากเป็นสื่อที่เรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของพวกคุณอย่าทิ้งลูกน้อง อย่าลอยตัว และที่น่าสมเพชก็คือ ถ้าจะเอาเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นพ่อคนที่สอง ตนบอกได้เลยว่า ถ้าเขาเป็นพ่อคุณจริง เค้าไม่ทิ้งลูกกันอย่างนี้หรอก

“ถ้าจะเอากรณีเรื่องพ่อ ทีพ่อของแผ่นดินของพวกเรา คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดนจาบจ้วง โดนหมิ่น ไม่ว่าจะเป็นกรณีรัฐมีคำสั่งห้ามจุดพลุเฉลิมพระเกียรติ หรือเรื่องนักโทษชายทักษิณมาเป็นประธานพิธีในการแอบอ้างถ้วยพระราชทานด้วย ในการชกมวยที่มาเก๊า ทหารพวกนี้ไม่เคยจะไปแสดงพลังอะไรเลย นสพ.ผู้จัดการก็เป็นสื่อเดียวอีกกันที่พิทักษ์สถาบันมาตลอด รวมถึงเรื่องนี้ จนถึงขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็เงียบกริบ ทหารพวกนี้ก็เงียบกริบ หรือว่าจะเอาเรื่องแนวทางการปกป้องอธิปไตย ผู้จัดการก็ทำการบ้านเรื่องนี้ หาข้อเท็จจริงช่วยประเทศไทยมากกว่าสื่อเล่มไหน แสดงว่าทหารเหล่านี้มากล่าวหาเราอย่างลอยๆ ไม่เคยศึกษาอ่านเนื้อหามาก่อนเลย คนที่อนาคตจะเป็นใหญ่เป็นโตในกองทัพ อย่างน้อยระดับพลตรีที่นำวันนี้มาก็คือทายาทของบิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์) พูดออกมาทั้งๆ ที่ไม่ได้อ่านเนื้อหาอะไรเลย คนระดับนี้ถ้าไม่รู้จักศึกษาหาความรู้ อนาคตกองทัพไทยจะไร้ประสิทธิภาพมากขึ้น” นายจิตตนาถ กล่าว

ซีอีโอเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ กล่าวต่อว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ ทหารที่กำลังจะเป็นใหญ่ คุมกำลังตามรอย พล.อ.ประยุทธ์ ในรุ่นต่อๆ มา ไหนๆ วันนี้ก็เอาเวลาราชการ รถราชการ น้ำมันราชการออกมาจากกรมกอง แสดงความกร่างกับสื่อแล้ว เรียกง่ายๆ ว่าออกมาจากกะลา ออกมาจากกรมแล้ว ตนอยากจะให้ทหารเหล่านี้ไปหัดเปิดคอมเมนต์ตามเว็บต่างๆ ดูบ้างว่านอกจาก ผบ.ทบ.จะเป็นคนทำลายพลังของกองทัพแล้ว ทุกคนที่ออกมา ประชาชนแสดงความคิดเห็นถึงความสะเหร่อของพวกท่านอย่างไร เว็บผู้จัดการเข้ามาชม 4-5 หมื่น แสดงความคิดเห็นพุ่งกระฉูดเป็นพันคอมเมนต์ เป็นปรากฏการณ์ที่แทบจะไม่เคยมีมาเลย คืออยากจะให้ออกจากกะลากันมาซะบ้าง

อีกประการหนึ่ง ฝากไปถึงทหารชั้นผู้ใหญ่ว่า ประชาชนและสื่อมวลชนไม่ใช่ไอ้เณรในกรม ที่จะให้คนที่มียศอย่างพวกคุณ อยากจะด่าใครเมื่อไหร่ก็ด่าได้ พอพวกคุณโดนเขาว่ากลับตัวเองก็ปรี๊ดแตกรับไม่ได้ ไม่ใช่ตัวเองมีเกียรติยศ มียศมากกว่าแล้วจะมาคำรามใส่แสดงพลังอย่างไรก็ได้ ตนเชื่อว่าประชาชนยังมีความหวังในกองทัพเสมอ และยังเชื่อว่าทหารในกองทัพยังเป็นที่พึ่งพาได้อยู่ เราขอส่งกำลังใจให้ทหารตามแนวชายแดนที่ปฏิบัติการ ขอให้ทหารทั้ง 50 คนนี้รวมทั้ง ผบ.ทบ.อย่าเอาตัวเองออกมาประจานให้ปลาเน่าไปกี่ตัวก็เหม็นไปทั้งข้องเลย เอาเวลาไปตบเท้าแสดงพลังกับอริราชศัตรู หรือนักการเมืองที่โกงกินประเทศ สมยอมขายอธิปไตยชาติ สื่อหรือขบวนการที่จ้องทำลายสถาบันจะดีกว่า

“อยากจะบอกว่า เราเป็นสื่อที่เรายืนอยู่ข้างความถูกต้อง เราไม่เคยกลัว เราไม่ได้มีอคติอะไรกับทหาร อย่ามาคิดว่าเราเข้าใจผิดว่าทหารคุกคามสื่อเรา เราไม่มีอคติอะไรทั้งนั้นกับทหาร เรารักทหาร เรารักกองทัพไทย แต่ว่าทหารอย่างพวกคุณ อย่าง ผบ.ทบ.ของคุณ และในกลุ่ม 50 คนเป็นทหารที่ผมรู้สึกว่าเรารับไม่ได้ พฤติกรรมแบบนี้เรารับไม่ได้ แล้วมันก็จะเสื่อมเสียไปหมด และนี่ก็เป็นครั้งที่สอง นับจากยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เคยส่งตัวแทนของ พล.ต.พฤณท์ สุวรรณทัต มายื่นหนังสืออย่างเป็นทางการ แต่คราวนี้มาอย่างไม่เป็นทางการ นี่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผบ.ทบ. แต่ก็ไม่แปลกเพราะเป็นยุคของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นเอง” นายจิตตนาถ กล่าวทิ้งท้าย



กำลังโหลดความคิดเห็น