“ซีอีโอ SPCG” ปลุกพลังสตรีสร้างชาติ เผยเคล็ดลับความสำเร็จ ยึดอดทน-ขยัน-มุ่งมั่น-กระตุ้นผู้นำสตรีท้องถิ่นสร้างงานผ่านเด็ก-ผู้ด้อยโอกาส เพื่อสร้างฐานพื้นสังคมแข็งแกร่ง ปลื้มปลุกปั้นธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์จากติดลบเป็นธุรกิจดาวเด่น ช่วยสร้างงานชนบทกว่า 2 แสนคน
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.วันดี กุลชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวเสวนาในหัวข้อ “พัฒนาศักยภาพสตรี” ตอนหนึ่งในงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี “พลังสตรี พลังขับเคลื่อนประเทศไทย” ว่า อยากแสดงความรู้สึกจากใจของความเป็นผู้หญิง และขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของความเป็นผู้หญิง ที่ได้ใช้ความคิดเพียงสั้นๆว่า “สตรีเท่านั้นย่อมเข้าใจปัญหาของสตรีด้วยกัน” เป็นที่มาของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่ในวันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งที่มีการกดปุ่มเงินเข้าไปหาพวกเราที่เป็นสตรีทั้งประเทศ
“วันนี้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ได้นำเดินพวกเราเป็นก้าวแรก ซึ่งต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกเราที่เป็นสตรีที่จะต้องก้าวร่วมไปสู่ความสำเร็จของงาน “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างรายได้ เพิ่มโอกาส เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชีวิตให้ของตัวเราเอง ครอบครัวของเรา ชุมชนของเรา และการฝึกอาชีพให้กับชุมชน ครอบครัว และผู้ด้อยโอกาส เพราะวันนี้เรากำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีกไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า สิ่งที่สำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การฝึกภาษา สิ่งที่เราฝึกอาชีพส่งผ่านเด็ก ผู้ด้อยโอกาส สตรี เราต้องเป็นผู้นำ เนื่องจากวันนี้หันไปทางไหนก็จะเริ่มเห็นผู้หญิงเริ่มเป็นผู้นำ”
น.ส.วันดี ยังได้กล่าวถึงเรื่องของธุรกิจ ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่ถนนแห่งความสำเร็จจะเกิดได้ด้วยคือ เราต้องลงมือทำ ต้องไม่มีคำว่ายาก ต้องไม่มีคำว่าสายเกินไป ต้องมีความมุ่งมานะ อดทน ซึ่งจะทำให้เราเดินไปสู่เส้นทางเดียวเลย คือ “ถนนเส้นแห่งความสำเร็จ” ยกตัวอย่างธุรกิจของตนเองทำคือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าไม่เคยมีใครทำในภูมิภาคนี้ ต้องบอกว่ายากมาก และยากที่สุด คือ การหาแหล่งเงินทุน อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ถือว่าเป็นพลังงานสะอาด เป็นพลังงานอนาคตที่จะส่งผ่านไปยังลูกหลาน ซึ่งพลังงานที่ใช้อยู่ทุกวันนี้มี 3 พลังงาน คือ พลังงานธรรมชาติ แก๊ส ถ่านหิน และน้ำมัน นับว่าแพงและมีจำกัด เช่นแก๊สในอ่าวไทยใช้ 10-15 ปีก็หมดแล้ว ปัจจุบันพลังงานไฟฟ้า 70% มาจากแก๊สธรรมชาติจากอ่าวไทย และซื้อไฟฟ้าจากพม่า หากพม่าเปลี่ยนใจไม่ขายพลังงานให้ ไทยก็จะไม่มีพลังงานใช้ ส่วนที่สองพลังงานทดแทนที่เหลือจากวัสดุการเกษตรที่ยังมีต้นทุนยากต่อการ บริหารจัดการ และพลังงานที่สาม มีชั่วกาลคือพลังงานหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่มาจากแสงอาทิตย์ น้ำ และลม ถ้าสามารถนำพลังงานเหล่านี้มาได้ นับว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะไม่มีต้นทุนเรื่องเชื้อเพลิง จึงเป็นแรงบันดาลใจของตนอย่างมากในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาทำเชิงพาณิชย์
“ยิ่งที่มีคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจที่อยากให้ทำ ในที่สุด 3 ปีที่ผ่านพ้นมา นอกจากจะทำได้แล้ว ยังได้สร้างให้เกิดธุรกิจในชุมชนและภูมิภาค เกิดแรงงาน 2 แสนแรงงานในชนบท ยังได้สร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ที่เริ่มแรกธุรกิจติดลบ ครั้งแรกชวนใครก็ไม่มา แต่วันนี้ “จนนำไปสู่การสร้างงานสร้างการลงทุนต่อเนื่อง กว่า 3 แสนล้านบาท นะคะ ถือเป็นความสำเร็จในฐานะที่เป็นผู้หญิง เพราะมีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้”
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.วันดี กุลชรยาคง ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวเสวนาในหัวข้อ “พัฒนาศักยภาพสตรี” ตอนหนึ่งในงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี “พลังสตรี พลังขับเคลื่อนประเทศไทย” ว่า อยากแสดงความรู้สึกจากใจของความเป็นผู้หญิง และขอบคุณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของความเป็นผู้หญิง ที่ได้ใช้ความคิดเพียงสั้นๆว่า “สตรีเท่านั้นย่อมเข้าใจปัญหาของสตรีด้วยกัน” เป็นที่มาของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่ในวันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งที่มีการกดปุ่มเงินเข้าไปหาพวกเราที่เป็นสตรีทั้งประเทศ
“วันนี้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ได้นำเดินพวกเราเป็นก้าวแรก ซึ่งต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกเราที่เป็นสตรีที่จะต้องก้าวร่วมไปสู่ความสำเร็จของงาน “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสร้างรายได้ เพิ่มโอกาส เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชีวิตให้ของตัวเราเอง ครอบครัวของเรา ชุมชนของเรา และการฝึกอาชีพให้กับชุมชน ครอบครัว และผู้ด้อยโอกาส เพราะวันนี้เรากำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีกไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า สิ่งที่สำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การฝึกภาษา สิ่งที่เราฝึกอาชีพส่งผ่านเด็ก ผู้ด้อยโอกาส สตรี เราต้องเป็นผู้นำ เนื่องจากวันนี้หันไปทางไหนก็จะเริ่มเห็นผู้หญิงเริ่มเป็นผู้นำ”
น.ส.วันดี ยังได้กล่าวถึงเรื่องของธุรกิจ ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่ถนนแห่งความสำเร็จจะเกิดได้ด้วยคือ เราต้องลงมือทำ ต้องไม่มีคำว่ายาก ต้องไม่มีคำว่าสายเกินไป ต้องมีความมุ่งมานะ อดทน ซึ่งจะทำให้เราเดินไปสู่เส้นทางเดียวเลย คือ “ถนนเส้นแห่งความสำเร็จ” ยกตัวอย่างธุรกิจของตนเองทำคือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าไม่เคยมีใครทำในภูมิภาคนี้ ต้องบอกว่ายากมาก และยากที่สุด คือ การหาแหล่งเงินทุน อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ถือว่าเป็นพลังงานสะอาด เป็นพลังงานอนาคตที่จะส่งผ่านไปยังลูกหลาน ซึ่งพลังงานที่ใช้อยู่ทุกวันนี้มี 3 พลังงาน คือ พลังงานธรรมชาติ แก๊ส ถ่านหิน และน้ำมัน นับว่าแพงและมีจำกัด เช่นแก๊สในอ่าวไทยใช้ 10-15 ปีก็หมดแล้ว ปัจจุบันพลังงานไฟฟ้า 70% มาจากแก๊สธรรมชาติจากอ่าวไทย และซื้อไฟฟ้าจากพม่า หากพม่าเปลี่ยนใจไม่ขายพลังงานให้ ไทยก็จะไม่มีพลังงานใช้ ส่วนที่สองพลังงานทดแทนที่เหลือจากวัสดุการเกษตรที่ยังมีต้นทุนยากต่อการ บริหารจัดการ และพลังงานที่สาม มีชั่วกาลคือพลังงานหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่มาจากแสงอาทิตย์ น้ำ และลม ถ้าสามารถนำพลังงานเหล่านี้มาได้ นับว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะไม่มีต้นทุนเรื่องเชื้อเพลิง จึงเป็นแรงบันดาลใจของตนอย่างมากในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาทำเชิงพาณิชย์
“ยิ่งที่มีคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจที่อยากให้ทำ ในที่สุด 3 ปีที่ผ่านพ้นมา นอกจากจะทำได้แล้ว ยังได้สร้างให้เกิดธุรกิจในชุมชนและภูมิภาค เกิดแรงงาน 2 แสนแรงงานในชนบท ยังได้สร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ที่เริ่มแรกธุรกิจติดลบ ครั้งแรกชวนใครก็ไม่มา แต่วันนี้ “จนนำไปสู่การสร้างงานสร้างการลงทุนต่อเนื่อง กว่า 3 แสนล้านบาท นะคะ ถือเป็นความสำเร็จในฐานะที่เป็นผู้หญิง เพราะมีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้”