ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เข้าเยี่ยมชมและแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.4 ของโครงการห้องเรียนอัจฉริยะของโรงเรียนนาหลวง เขตทุ่งครุ โรงเรียนสังกัด กทม.ซึ่งเป็น 1 ในโรงเรียนนำร่อง 4 แห่ง โดยสอนใน 3 วิชาหลัก พร้อมทั้งเตรียมประเมินผลความเหมาะสม หลังทดลองใช้ไปแล้ว 6 เดือน เพื่อพิจารณาว่า จะขยายไปสู่โรงเรียนอื่นในสังกัด กทม.เพิ่มเติมหรือไม่
วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางตรวจเยี่ยมโครงการห้องเรียนอัจฉริยะที่โรงเรียนนาหลวง เขตทุ่งครุ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 แห่งสังกัด กทม.ที่ได้นำแท็บเล็ตมาใช้ในการเรียนการสอนนักเรียนชั้น ป.4 พร้อมกล่าวว่า โครงการนี้ กทม.ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่มอบแท็บเล็ตห้องเรียนละ 41 เครื่อง สำหรับนักเรียน 40 เครื่อง และครูผู้สอนอีก 1 เครื่อง ทดลองใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ให้นักเรียนทดลองใช้ระบบปฏิบัติการ วินโดว์ส 8 โดย 4 โรงเรียนที่นำร่องจะใช้ระบบปฏิบัติการแตกต่างกันเพื่อนำมาศึกษาวิเคราะห์หาระบบที่เหมาะสมกับนักเรียนสังกัด กทม.ให้มากที่สุด ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแล้วในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ โรงเรียนที่นำร่องอีก 3 แห่ง คือ ประชานิเวศน์ ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 7 โรงเรียนวัดปทุมวนาราม ใช้ระบบปฏิบัติการไอแพด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า แท็บเล็ตที่ได้รับการสนับสนุนจากเอกชน ราคาแตกต่างจากรัฐบาล โดยของกรุงเทพมหานครมีราคากว่าหมื่นบาท แม้ราคาจะสูงแต่หากมองถึงอนาคต นับเป็นการลงทุนในระยะยาว และเกิดความคุ้มค่าให้กับนักเรียน ซึ่งหลังทดลองใช้ไปแล้ว 6 เดือน จะให้มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ทำให้การศึกษาวิจัยประเมินผลการทดลอง เพื่อพิจารณาว่า จะขยายไปยังโรงเรียนอื่นในสังกัดกรุงเทพมหานครอีกหรือไม่ แม้จะถูกรัฐบาลตัดงบประมาณอุดหนุนด้านการศึกษาของกรุงเทพมหานคร แต่กรุงเทพมหานครจะพยายามหางบประมาณจากส่วนอื่นมาสนับสนุน เพื่อให้นักเรียนในสังกัดกว่า 3 แสนคน มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยใช้ เพื่อพัฒนาทักษะในการเรียน ซึ่งในอนาคตหากผลประเมินโครงการออกมาแล้ว ทาง กทม.คิดว่าจะจัดซื้อระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดแม้ว่าจะมีราคาแพง เพราะมีความคุ้มค่าใช้การได้นานกว่า ไม่อยากเสียน้อยเสียยากเสียง่าย อย่างไรก็ตาม จะยังไม่จัดซื้อในระยะอันสั้นต้องรอผลการประเมินผลก่อน ยืนยันว่านักเรียน กทม.จะมีแท็บเล็ตใช้อย่างแน่นอนเพื่อไม่ให้นักเรียน กทม.เป็นประชากร ชั้น 2
พนักงานจากบริษัท ทีโอที กว่า 30 คน ทำการซักซ้อม เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติแท็บเล็ตจำนวน 500 เครื่อง จากทั้งหมด 59,152 เครื่อง ตาม 9 ขั้นตอนที่กำหนดเอาไว้ในทีโออาร์ หรือข้อตกลงในสัญญาสั่งซื้อ
นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุการจัดซื้อแท็บเล็ตคาดว่า จะใช้เวลาในการตรวจสอบทั้งหมด 2 วัน เพื่อให้มั่นใจสำหรับที่จะแจกนักเรียนชั้น ป.1 ตามกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 16 กรกฎาคมนี้ จำนวน 45,000 เครื่อง ส่วนในช่วงบ่ายจะมีเจ้าหน้าที่ของทีโอทีมาเพิ่มเติมอีก แต่หากพบปัญหาความเสียหายที่ตัวเครื่องมากกว่า 7 เครื่อง เช่น การใช้งาน ซีพียู ไม่ตรงสเปก หรือมีอุปกรณ์ชำรุดเกิน 14 ชิ้น จะส่งกลับไปยังบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิค ดีเวลลอปเมนต์ เพื่อนำไปแก้ไข และส่งมาให้ตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้หากแท็บเล็ตมีปัญหาภายหลัง สามารถนำมาเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ เนื่องจากบริษัทเตรียมเครื่องสำรองเอาไว้แล้ว