ฮอนด้าเปิดสายการผลิตรถยนต์อีกครั้ง เดินหน้าผลิตเต็มกำลังพร้อมประกาศพันธสัญญาเพื่อสังคมไทย ตั้งกองทุน “ฮอนด้าเคียงข้างไทย” คาดมีเงินเข้ากองทุนปีแรก 300 ล้านบาท และมูลค่ากองทุนสะสมสูงสุดที่ 1,000 ล้านบาท
วันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการในวันนี้ ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา ภายหลังจากประสบอุทกภัยจนต้องหยุด การผลิตไปตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2554 ตั้งเป้าผลิตเต็มกำลังที่ 240,000 คันต่อปี เพื่อเร่งส่งมอบรถยนต์ให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า พร้อมประกาศสมทบรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ฮอนด้าเข้ากองทุน “ฮอนด้าเคียงข้างไทย” เพื่อสำรองไว้ช่วยเหลือคนไทยในยามเกิดภัยพิบัติในอนาคตได้อย่างทันท่วงที
พิธีเปิดสายการผลิตรถยนต์อย่างเป็นทางการได้จัดขึ้นวันนี้ที่โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา โดยมี นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยบุคคลสำคัญเข้าร่วมงาน ประกอบด้วย มร.เซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รวมไปถึง มร.ทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด พร้อมทั้งพันธมิตรธุรกิจ และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า
มร.ทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสามตลาดที่สำคัญของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ร่วมด้วย อินเดีย และอินโดนีเซีย ทั้งยังตอกย้ำว่า ประเทศไทยยังคงจะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญยิ่งของฮอนด้าในภูมิภาคนี้เพื่อทำการผลิตรถยนต์คุณภาพเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในตลาดเหล่านี้ พร้อมทั้งรองรับศักยภาพการเติบโตของตลาดในอนาคต
“ฮอนด้าได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากหลายๆ ฝ่ายในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาทิ จากรัฐบาลไทยในส่วนของนโยบายการยกเว้นภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้จำหน่ายได้ในเวลาดังกล่าว ฐานธุรกิจของฮอนด้าในประเทศไทยยังคงมีบทบาทสำคัญเช่นเดิมทั้งในการเป็นฐานการผลิตและฐานการวิจัยและพัฒนา โดยบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จะยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในตลาดในภูมิภาคนี้ต่อไป” มร.อิโต้ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับการฟื้นฟูโรงงานและแผนการผลิตนั้น นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากน้ำลดในปลายเดือนพฤศจิกายน ฮอนด้าใช้เวลาเพียง 3 เดือนกว่าในการฟื้นฟูโรงงานจนสามารถกลับมาเดินเครื่องได้อีกครั้ง ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ “เราได้ระดมทีมวิศวกรและพนักงานทำงานกันอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้เราสามารถกลับมาผลิตได้โดยเร็ว ในไลน์การผลิตเราได้มีการเปลี่ยนและติดตั้งอุปกรณ์เครื่องจักร และหุ่นยนต์ใหม่ทั้งหมดภายในโรงงาน เพื่อหนุนให้เราสามารถกลับมาผลิตได้เท่ากับกำลังผลิตสูงสุด 240,000 คันต่อปี โดยจะทำการผลิตในทั้ง 2 โรงงาน เวลาทำงานโรงละ 2 กะ (หนึ่งกะเท่ากับ 8 ชั่วโมง) รวมยอดการผลิตที่ 1,000 คันต่อวัน” นายพิทักษ์ กล่าว
มร.ฮิโรชิ โคบายาชิ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาไม่ใช่วิกฤตแรกที่ฮอนด้าได้เผชิญร่วมกับคนไทย เราได้ก้าวผ่านวิกฤติหลายต่อหลายครั้งพร้อมๆ กับคนไทยตลอดมา พิธีเปิดสายการผลิตในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการฟื้นฟู แต่เป็นสัญญาณที่ตอกย้ำถึง ความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของธุรกิจฮอนด้าในประเทศไทย ฮอนด้าได้เรียนรู้ถึงประสบการณ์ที่มีค่ายิ่ง และพร้อมกลับมาอีกครั้งอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม และพร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีให้กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ฮอนด้าอย่าง
ไม่เปลี่ยนแปลง
ในโอกาสเดียวกันนี้ ฮอนด้าได้ประกาศจัดตั้ง “กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย“ ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินยามที่ประเทศไทยอาจเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยมอบเงินสมทบ 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน 100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน และ 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์หนึ่งเครื่อง ซึ่งคาดว่าในปีแรกนี้จะมีเงินสมทบเข้ากองทุนประมาณ 300 ล้านบาท และภายหลังจากการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง จะมียอดสะสมสูงสุดที่ 1,000 ล้านบาท
นายโคบายาชิ กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าเราไม่อยากนึกถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นอีกในวันข้างหน้า การเตรียมการไว้ล่วงหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ฮอนด้าสามารถเดินเคียงข้างคนไทยได้ทั้งในยามปกติสุขและเมื่ออยู่ในภาวะวิกฤติ การสมทบรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เข้าไว้ในกองทุนอย่างเป็นระบบจะทำให้เราสามารถสำรองเงินไว้ใช้ในกิจกรรมบรรเทาทุกข์ ตลอดจนการเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประสบภัย ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที”
วันนี้ ฮอนด้าพร้อมแล้วที่จะตอบแทนความเชื่อมั่นที่คนไทยมีให้กับฮอนด้าตลอด 48 ปีที่เราดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการมุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำหน้า ควบคู่กับการผลิตยานยนต์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฮอนด้ายังคงเป็นบริษัทที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ และเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุดต่อไป
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด มีโรงงานผลิตตั้งอยู่บนเนื้อที่ 530 ไร่ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับหก ของโรงงานฮอนด้าทั่วโลก รองจากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดาและสหราชอาณาจักร และเป็นหนึ่งในโรงงานที่ก้าวหน้าที่สุดและทันสมัยที่สุดในโลกของฮอนด้าทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และการออกแบบสายการผลิตที่เหมาะสมกับการทำงานของพนักงาน ปัจจุบัน มีการจ้างงานพนักงานรวมกว่า6,400 คน และมีกำลังผลิต 240,000 คันต่อปี ผลิตรถยนต์ฮอนด้าทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ บริโอ้ แจ๊ซ ซิตี้ ซีวิค แอคคอร์ด และ ซีอาร์-วี สำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ กว่า 56 ประเทศทั่วโลก