สสส.จับขรก.สภาฝึกคิดเชิงบวกเสริมประสิทธิภาพการทำงาน แนะมองโลกแง่ดีช่วยชีวิตเป็นสุข ขณะที่การฝึกพัฒนาจิตใจเพื่อให้มั่นใจทุกปัญหามีทางออก
วันนี้(5 เม.ย.) . สำนักพัฒนาบุคลากร สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ โครงการสร้างเสริมสุขภาพในองค์กรทางนิติบัญญัติ สสส. จัดสัมมนา "โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ : สุขภาพจิตดีชีวีมีสุข" ให้กับข้าราชการและลูกจ้างของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ โดยมี ดร.นพ.ยุทธนา ภาระนันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการให้คำปรึกษาและบริหารองค์กร เป็นวิทยากรฯบรรยายในหัวข้อ “การคิดเชิงบวกเพื่อความสุขในการดำเนินชีวิต” โดยมีการฉายสไลด์แสดงองค์ความรู้ ทั้งการเสริมสร้างความรู้ การพัฒนาจิตใจด้วยธรรมะ การฝึกสมาธิ การพัฒนาอารมณ์ และการบริหารความเครียดด้วยเทคนิคต่างๆ
ดร.นพ.ยุทธนา บรรยายแนะวิธีการคิดเชิงบวกเพื่อความสุขในการดำเนินชีวิต ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การคาดหวัง การมองโลกในแง่ดี การปรับมุมมองและทัศนคติในการดำเนินชีวิต พร้อมให้ความรู้ด้านการพัฒนาด้านศักยภาพและการรับมือกับปัญหาในการดำรงชีวิต การสร้างมนุษยสัมพันธ์และการสานสัมพันธภาพกับบุคคลากรในองค์กร นอกจากนี้ยังให้ความรู้ด้านการปฏิบัติงานและการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน แนะนำทักษะการมองเชิงบวกเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรค และส่งเสริมให้เรียนรู้การแก้ไขสถานการณ์ โดยให้เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขเสมอ รวมทั้งการสาธิตทักษะการหัวเราะบริหารสมอง เพื่อส่งเสริมด้านการกระตุ้นสมอง เพิ่มจำนวนเซลสมอง และสร้างอารมณ์เชิงบวก รวมทั้งการบริหารพลังจิต พลังกาย และพลังใจ ก็เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดพัฒนาตนเองในด้านพลังคิดบวกและการสื่อสาร
นอกจากนี้ ดร.นพ.ยุทธนา ยังได้ให้ผู้เข้าร่วมอบรมทำแบบทดสอบความแข็งแกร่ง ทั้งร่ายกายและจิตใจที่ตนเองทำแล้วมีความสุข และรู้จักสร้างกำลังใจให้กับตนเอง โดยแนะนำวิธีในการจัดแบ่งเวลาให้เหมาะสม ไม่จมอยู่กับความทุกข์ โดยเริ่มต้นจากการจัดลำดับความสำคัญในด้านการปฏิบัติงานในองค์กรและสมาชิกในครอบครัวในการให้ความช่วยเหลือกันซึ่งกันและกัน พร้อมแนะนำการทำกิจกรรมร่วมกันจะทำให้รู้สึกอบอุ่นใจไม่โดดเดี่ยว และยังเป็นการกระชับสายสัมพันธ์ในองค์กรและสมาชิกในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะองค์กรและครอบครัวที่มีความมั่นคง ปัญหาอื่นใดที่เข้ามาเราย่อมขจัดปัดเป่าออกไปได้ ซึ่งการที่องค์กรของเราและสมาชิกในครอบครัวเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันก็จะผ่อนคลายความเครียดลงได้ ทั้งด้วยกำลังใจจากเพื่อนร่วมงานและสมาชิกในครอบครัวซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในยุคสังคมปัจจุบัน ทั้งนี้การทำกิจกรรมวันนี้นอกจากเป็นการกระตุ้นให้บุคลากรหันมาเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาจิตของตัวเองแล้ว ยังส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย