“จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” CEO เอเอสทีวี แฉซ้ำ! บริษัท “ธัญญทิพย์” ยังไม่สำนึก หลังโดนแฉเล่นไม่ซื่อ แอบสอดไส้ข้าวยี่ห้ออื่นให้ลูกค้าข้าวเอเอสทีวีตรามือ และเบี้ยวจ่ายเงินรายได้ให้ ASTV แต่ยังดื้อแพ่ง ส่ง SMS ให้ร้ายกล่าวหา ASTV ไม่รู้จักพอ – เผยเตรียมฟ้องแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว และหากยังไม่หยุดให้ร้าย ASTV ก็จะรวบรวมรายชื่อฟ้องข้อหาฉ้อโกงประชาชนทันที
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (23 ธ.ค.) นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอเอสทีวี ผู้จัดการ ได้แถลงข่าวถึงกรณีข้อโต้แย้ง ระหว่าง เอเอสทีวี ผู้จัดการ และ บริษัทธัญญทิพย์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตข้าว เอเอสทีวี ตรามือ โดยมีรายละเอียดดังนี้
สวัสดีครับผู้รับชมของเอเอสทีวี และผู้สนับสนุน เอเอสทีวีทุกท่าน วันนี้ผมจิตตนาถ ลิ้มทองกุล CEO เอเอสทีวี ขอมาแถลงข่าวความคืบหน้า จากกรณีที่บริษัท ธัญญทิพย์ อินเตอร์เทรด จำกัด ไม่ยอมจ่ายส่วนแบ่งจากการขายข้าวเอเอสทีวี ตรามือ ให้กับเอเอสทีวี ของ 2 เดือนสุดท้ายคือเดือน ตุลาคม และพฤศจิกายน และก็ไม่ยอมจ่ายค่า คอลเซ็นเตอร์ ของเดือนกันยายน ตุลาคม และ พฤศจิกายน นะครับ รวมกันทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 1 ล้าน 7 แสนบาท
จากที่เราได้ออกข่าวไปแล้วนะครับ ก็ได้กระทบกับทางเอเยนต์ในหลายๆ เจ้า ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือว่าไม่ทันได้อ่านจดหมายของเรา ก็ได้สั่งข้าวเอเอสทีวี ตรามือ ของบริษัทธัญญทิพย์ไปขายนะครับ เมื่อข่าวออกไปแล้ว ลูกค้าเอเอสทีวี คนที่รักเอเอสทีวี ก็ไม่มีใครอยากจะซื้อข้าวเอเอสทีวีตรามือ ที่ค้างอยู่ที่ร้านนะครับ ทำให้มีปัญหาในการที่ข้าวระบายไม่ออก ขอเรียนครับ ถึงแม้ว่าบริษัท ธัญญทิพย์ เจ้าของสินค้าจะได้รับเงินของ 2-3 เดือนดังกล่าวไปแล้วนะครับ จากเอเยนต์ โดยที่ยังคงไม่ยอมจ่ายเงินให้กับเอเอสทีวี แต่ผมขอร้องด้วยความที่เราเป็นแฟนของเอเอสทีวี เรามีจิตใจที่เป็นพันธมิตรฯ ด้วยกันนะครับ ช่วยซื้อข้าวเอเอสทีวีตรามือ ล็อตที่หลงเหลืออยู่ในร้านของเอเอสทีวีช๊อป ซึ่งเอเย่นต์ได้หลงกลบริษัทธัญญทิพย์หน่อยเถอะครับ ช่วยระบายข้าวให้เขาหน่อยนะครับ ใครเบี้ยวเรายังไงเดี๋ยวเราจัดการแน่นอน แต่ว่าพันธมิตรฯ ด้วยกัน คนดูเอเอสทีวีด้วยกัน ช่วยเขาหน่อยครับ ร้านเอเอสทีวีอยู่ได้ สินค้าเอเอสทีวีก็สามารถขายต่อไปได้ครับ เรื่องแค่นี้ช่วยกัน ไม่ยากเกินไปนะครับ ขอบคุณครับ
ส่วนความคืบหน้าจากที่ ได้มีการแถลงข่าวกรณีที่บริษัทธัญญทิพย์ไม่ยอม จ่ายเงินให้กับเรา แล้วก็ที่ผมออกมาแฉถึงพฤติกรรมของบริษัทธัญญทิพย์ที่มีการปลอมปนสินค้า ในอีกยี่ห้อนึงเข้ามาให้กับผู้ที่ต้องการซื้อข้าวเอเอสทีวีตรามือ หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จ เจ้าของตัวจริงของบริษัทธัญญทิพย์นะครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นผู้ใหญ่ชื่อคุณทวี นะครับ ก็ติดต่อผ่านทางผู้ใหญ่เข้ามานะครับ พยามติดต่อกับคุณสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ เข้ามา พยายามที่จะชี้แจงและพยายามที่จะไกล่เกลี่ย คุณสุวัตร แจ้งว่า คุณทวี ต้องการหอบเอกสาร จะมาพร้อมด้วยลูกชายก็คือ อาจจะเป็นคุณการุณ ที่เคยติดต่อกับผม มาขอความเป็นธรรมกับทนายสุวัตร นะครับ ซึ่งก็ได้มีการนัดกัน 9 โมงเช้า ของวันถัดมา แต่ในที่สุดทนายสุวัตร ก็รอถึง 9 โมงเช้า ก็มีโทรศัพท์มาจากเจ้าของธัญญทิพย์บอกว่าไม่มาแล้ว ทางทนายสุวัตร ก็คิดว่าเดี๋ยวอาจจะมีการติดต่อมาโดยตรงมาทางผม ก็ปรากฎว่าก็ไม่ได้มีการติดต่อใด ๆ จากบริษัทธัญทิพย์เข้ามานะครับ แต่กลับมีSMS จากบริษัทธัญญทิพย์นะครับ ถึงลูกค้าที่เคยสั่งข้าวของบริษัทธัญญทิพย์ ผ่านเอเอสทีวี คอลเซ็นเตอร์ พาดพิงดังนี้ครับ
เรียนผู้สนับสนุนข้าวตรามือ จากที่มีข่าวเกี่ยวกับเรา เราเองก็เป็นพันธมิตร มาโดยตลอด จะไม่ขอโต้ตอบหรือทะเบาะให้พันธมิตรด้วยกันเสียหน้า ธัญทิยพ์ได้บริจาคให้พันธมิตรมาไม่รู้กี่ล้านบาทแล้ว กับเงินเพียงล้านกว่าบาท ไม่จำเป็นต้องเบี้ยวพันธมิตรด้วยกัน เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะผลประโยชน์ของผู้รับที่ไม่รู้จักพอ ทำให้เรารับเงื่อนไขไม่ได้ แต่เรายังรักพันธมิตร
ผมมีข้อร้องเรียนจากคนที่ ได้รับSMS ดังกล่าว หลายสิบหลายร้อยคนนะครับ ผ่านทางคอมเม้นของข่าวที่เกี่ยวกับข้าวตรามือ ของธัญญทิพย์ที่เราได้แถลงข่าวไป จำนวนมากเลยนะครับ คอมเม้นแบบนี้ ในเมื่อแถลงมาอย่างนี้ก็ดีครับ ผมจะได้มีหลักฐานบางอย่างตอกฝาโลงให้เห็นเลยนะครับว่า ใครกันแน่ที่ไม่รู้จักพอ มาดูกันนะครับ อันนี้คือ (แสดงเอกสารแสดงยอดขายข้าวของบริษัทธัญญทิพย์) อันนี้คือสรุปยอดขายข้าวตรามือตั้งแต่เดือน มีนาคม ถึงเดือน กรกฎาคม 2552 ก็คือตั้งแต่ที่เอเอสทีวีได้ทำธุรกรรมกับบริษัทธัญญทิพย์นั่นเอง
เดือนมีนาคม เอเอสทีวีคอลเซ็นเตอร์ รายงานว่ายอดขายข้าวที่มีการโทรสั่งจำนวน 44,086 ถุง เป็นเงินราว 8,198,720 บาท นะครับ ยอดขายจากที่ทางธัญญทิพย์แจ้งเรามา มีจำนวนทั้งสิ้น 83,214 ถุง เป็นจำนวนเงิน 14,619,638 บาท ดูเอาเองนะครับว่าแค่เดือนแรก ยอดขายที่เรารับจากคอลเซ็นเตอร์ มีเพียง 4 หมื่นกว่าถุง แต่ยอดขายทางบัญชีของธัญญทิพย์ มีสูงถึง 8 หมื่นกว่าถุง นี่ก็เป็นข้อสงสัยขึ้นแล้วนะครับ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในระหว่างตัวเลขที่คอลเซ็นเตอร์ที่เรารับ กับจำนวนที่ธัญญทิพย์ไปขายออกมา ต่างกันถึงราว 6 ล้านบาท เห็นไหมครับ นี่ก็เป็นคำถามแล้วนะครับ เพราะอย่างที่ผมเรียนว่า ธุรกรรมทางการขายนั้น call center รับออเดอร์ให้กับธัญญทิพย์เฉยๆ ธัญญทิพย์จะได้รับข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ของคนที่สั่งแล้วก็เอเย่นจากcall center นั่นก็แสดงว่าธัญญทิพย์มีการไปขายเองโดยไม่ผ่านcall center หรือถ้ามีการสั่งเพิ่มธัญญทิพย์ ก็ไม่ได้แจ้งกลับมาที่call center เห็นไหมครับ
เดือนเมษายน call centerแจ้งมาว่า ยอดออเดอร์คือ 57,717 ถุง เป็นจำนวนเงิน 10,604,930 บาท นะครับ แต่ธัญญทิพย์ทางบัญชีแจ้งเรามาว่าขายได้ถึง 72,784 เป็นจำนวนเงิน 13,123,417 บาท เช่นเดียวกันครับยอดก็ต่างกันอีกแล้ว สำหรับจำนวนข้าวถึง 2 หมื่นกว่าถุง จำนวนเงินรายรับที่เข้ามาก็ต่างกันอีกแล้วถึง 3 ล้านกว่าบาท เห็นไหมครับว่า ธัญญทิพย์อาจจะแจ้งก็ได้ว่า ลูกค้าขอสั่งเพิ่ม แต่สิ่งที่เราตกลงกันก็คือว่าธัญญทิพย์ จำเป็นต้องแจ้งยอดทั้งหมดให้กับเอเอสทีวีรับทราบ แต่นี่คือยอดต่าง ฉะนั้นความเป็นจริงแล้วธัญญทิพย์ ขายได้มากกว่ายอดนี้เท่าไหร่ ทั้งหมดไม่มีใครทราบ แต่ตัวเลขทางบัญชี แสดงให้เห็นชัดเจนแล้ว ว่ามันไม่เท่ากันนะครับ
กรณีที่ธัญญทิพย์ พาดพิงว่า ธัญทิยพ์ได้บริจาคให้พันธมิตรมาไม่รู้กี่ล้านบาทแล้ว กับเงินเพียงล้านกว่าบาท ไม่จำเป็นต้องเบี้ยวพันธมิตรด้วยกัน เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะผลประโยชน์ของผู้รับที่ไม่รู้จักพอ ทำให้เรารับเงื่อนไขไม่ได้ แต่เรายังรักพันธมิตร ผมถามนิดนึงครับว่า ใครกันแน่ที่ไม่รู้จักพอ ยอดขายทางบัญชีที่ทางธัญญทิพย์แจ้งเรามา ซึ่งก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้จริงว่า มีเพียงเท่านี้หรือเปล่านะครับ ผมถือว่าเยอะมาก แต่พอหมดสัญญากันนะครับในเดือนสิงหาคม เดี๋ยวผมมีจดหมายนี้เอาไปให้ดูกันนะครับ ธัญทิยพ์ก็ได้เสนอมานะครับ บอกว่า
เรียนคุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ทางบริษัทจำกัด ธัญญาทิพย์ อินเตอร์เทรด ได้มีการทบทวนและวิเคราะห์ผลดำเนินการของบริษัท ในระยะ 5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าทางบริษัทมียอดขาดทุนสะสมเฉลี่ยเดือนละ 800,000 บาทโดยประมาณ ทางบริษัทจึงมีข้อสรุปว่า ณ ปัจจุบันทางบริษัทยังไม่สามารถช่วยเหลือและเพิ่มค่าลิขสิทธิ์ให้ตามที่ทาง ASTV ได้เสนอมา ทางบริษัทธัญญทิพย์ ใคร่ขอต่อสัญญาเป็นระยะเวลาอีก 6 เดือน และยื่นข้อเสนอเดิมที่ 500,000 บาท ต่อเดือนสำหรับค่าลิขสิทธิ์ จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณา
แถลงข่าวครั้งที่แล้วนะครับ ผมพยายามที่จะชี้ให้เห็นว่ามีข้อเสนอจากเอเอสทีวี ที่มองว่า ควรจะแบ่งประโยชน์กัน 8% สำหรับข้าว 3 ชนิด และ 6% สำหรับข้าวอีก 1 ชนิด ธัญญทิพย์เองก็ไม่พอใจ ถึงจะออกจดหมายฉบับนี้กลับมานะครับ จนเราแจ้งไปว่ามันไม่แฟร์นะครับ ควรจะปรับให้ถูกต้อง เขาจึงยินยอมออกจดหมายอีกฉบับหนึ่งบอกว่า พร้อมจะรับเงื่อนไขที่ 8% แต่เบื้องหลังก็คือจดหมายฉบับนี้ 8% ก็ไม่ยินยอมให้ด้วยจริง ๆ แล้ว ยังยืนเงื่อนไขข้อเสนอเดิมที่ 500,000 บาท ผมไม่ทราบว่า ทั้ง ๆ ที่ตัวเองรายรับตั้งเท่าไหร่ แล้วก็บิดเบือนจากจำนวนcall centerมาตั้งเท่าไหร่ ตรงนี้นะครับ เป็นตัวที่เขาก็ได้ประจานตัวเขาเอง จากการที่เขาได้ส่ง SMS มาจากที่ผมให้ท่านดูไปนะครับ ไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่ไม่รู้จักพอ นี่หรือคนที่ติดต่อทนายสุวัตร มา บอกว่าจะเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่กลับส่ง SMS ให้ร้ายเอเอสทีวี อย่างนี้หรือครับ ท่านก็ลองไปพิจารณาดูนะครับ
คราวนี้ถามว่าเอเอสทีวี จะมีมาตรการอย่างไร เราก็จะขอแบ่งเป็น 2-3 เรื่องด้วยกันนะครับ เรื่องแรกก็คือว่า กรณีที่บริษัทธัญญทิพย์ ไม่ยอมจ่ายเงินเอเอสทีวี เป็นจำนวน 1,700,000 บาท เรามีสัญญาอยู่ เราคงจะต้องให้ฟ้องแพ่งบริษัทธัญญทิพย์ไปนะครับ จริง ๆ เงินแค่นี้กับสิ่งที่เอเอสทีวี ลงทุนด้วยเลือดและน้ำตามา ต่อสู้มาถือว่าจิ๊บจ๊อยครับ ถึงแม้ว่าเอเอสทีวี จะไม่ค่อยมีเงิน แต่ว่าเงินแค่นี้ถือว่าขี้หมา มากนะฮะ ไม่เท่าไหร่ แต่เราไม่ฟ้องคงไม่ได้เพราะเงินเหล่านี้เป็นเงินของประชาชน ในการที่จะซื้อข้าวเอเอสทีวี ตรามือ เพื่อที่จะสนับสนุนเอเอสทีวี เราไม่สามารถให้บริษัทหนึ่ง ฉ้อโกงเงินของประชาชน แล้วก็มีเหตุผลอะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ มากล่าวอ้างได้นะครับ ผมทางธัญญทิพย์เองคงจะได้มีการคุยกับทนายความแล้วหล่ะ ว่าต้องการให้เอเอสทีวี ฟ้อง เพื่อที่เขาจะได้ยื่นว่า เข้ามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ๆ และเขาขาดทุนยังไง
ทำไมเขาถึงให้เราไม่ได้
แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ปัญหาของเราใช่ไหมครับ ทำไมผู้ผลิตสินค้ารายอื่น เขารับเงื่อนไขได้ ไม่เห็นจะมีใครเป็นอะไร ทำไมผู้ผลิตข้าวรายอื่นที่เข้ามาตกลงกับเรา ไม่เห็นจะต้องมีปัญหาอะไรอย่างนี้เลย ข้าวขายถุงแรกก็กำไรแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไรที่มันจะเป็นต้นทุนนะครับ และบริษัทธัญญทิพย์เองก็ชอบอ้างว่าตัวเอง ขาดทุนตลอดเวลานะครับ แต่ผมมีนี่ให้ดูครับ (แสดงภาพโฆษณาข้าวของบริษัทธัญญทิพย์ ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
หลายคนที่อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คงจะเห็นโฆษณานะครับ ข้าวหอมมะลิมาแล้วจ้า รับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ถุงเดียวส่งถึงบ้าน โดยบริษัทธัญทิยพ์ ข้าวหอมมาแล้วจ้าเนี๊ยะ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ก็คงจะเป็นข้าวที่หลายคอมเม้น ส่งข้อความร้องเรียนมาหนาเป็นปึกๆ แบบนี้แหละครับ ที่ได้รับการยัดไส้มาแทนข้าวเอเอสทีวี
คำถามคือ ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณขาดทุนเดือนละ 800,000 บาท ของ 6 เดือนแรก โดยการที่คุณจะไม่ยอมขึ้น 8% ให้ด้วยซ้ำเนี๊ยะ คุณเป็นพ่อค้านะ คุณขาดทุนเดือนละ 800,000 คุณจะขายข้าวทำไมครับ ผมคุยกับคุณการุณ ผู้บริหารธัญญทิพย์เองบอกว่า พี่ ถ้าพี่ขาดทุนเดือนละ 800,000 เนี๊ยะ พี่ไม่ต้องต่อสัญญากับผมก็ได้นะครับ จะมาต่อทำไม คุณขาดทุนเดือนละ 800,000 คุณกัดฟันขึ้นให้เอเอสทีวี 8% นี่ โอ้โหเป็นบุญคุณเหลือเกินนะครับ คุณขาดทุนเดือนละ 800,000 ล่าสุด คุณไปเพิ่มเปอร์เซ็นต์ให้กับเอเย่นต์อีกเป็น 15% แล้วคุณทำได้ยังไงฮะ คุณบอกคุณขาดทุนอยู่ไม่ใช่เหรอ ที่สำคัญคุณขาดทุนอยู่เดือนล 800,000 คุณมีเงินไปลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอย่างนี้ ผมรู้สึกว่าจะราว 2 เดือนแล้วนะครับ
ค่าโฆษณาในไทยรัฐก็ไม่ได้ถูก ตีเป็นเงินเนี๊ยะ เดือนนึงเดือนละล้านกว่าบาทเลยนะครับของค่าโฆษณาข้าวหอมธัญญทิพย์เนี๊ยะ แล้วก็ไปดูสิครับตามทางด่วน ตามบิวบอร์ดใหญ่ ๆ ก็ใช้ budget (งบประมาณ)ในการทำโฆษณาจำนวนเงินผมว่า มีจำนวนเป็นสิบล้าน ผมทำงานโฆษณามาก่อน ผมรู้นะครับว่าค่าโฆษณาเท่าไหร่ คำถามคือบริษัทธัญญทิพย์เพิ่งตั้งมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แตกสาขามาจากบริษัทเก่าซึ่งผมไม่อยากพาดพิงถึง คุณเอาเงินมาจากไหนเป็นสิบ ๆ ล้านมาลงโฆษณาแบบนี้ อันนี้คงจะต้องตอบคำถามของแฟน ๆ เอเอสทีวีนะครับ แล้วก็ชาวพันธมิตรฯ ให้ดีนะครับ ว่าใครกันแน่ที่ไม่รู้จักพอ แล้วคุณเอาเงินมาจากไหนนะครับ
เอาล่ะในกรณีของการที่เราจะฟ้องทางแพ่ง แน่นอนครับต้องมี ต่อมา ถ้าใครสังเกตเห็นนะครับโลโก้ของสินค้าเอเอสทีวี ที่สนับสนุนเอเอสทีวี เนี๊ยะ บอกชัดเจนเลยนะครับว่า สินค้านั้น ๆ ทำขึ้นเพื่อสนับสนุนเอเอสทีวี ทีวีของประชาชน รายได้จากการขายสินค้าสนับสนุนเอเอสทีวี
การที่คุณได้รับเงินจากประชาชนไป 2 เดือน และไม่จ่ายค่า Call Center อีก 3 เดือนเนี๊ยะ ประชาชนยอมจ่ายเงินให้คุณเพราะว่ามีข้อความ และประชาชนก็รับรู้โดยทั่วกันว่ารายได้จากการขายจะสนับสนุนเอเอสทีวี นี่คือเหตุจูงใจที่เขาซื้อ แต่คุณกลับไม่ทำตามเงื่อนไขที่ประชาชนซื้อของ ของคุณ ไม่ทำตามเงื่อนไขตามสัญญา แบบนี้เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค และเข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชนนะครับ ผมจะขอเตือนว่า ถ้าเกิดว่าประชาชนและ เอเอสทีวี รวมตัวกันฟ้องคุณในกรณีนี้ เมื่อฟ้องไปแล้วไม่สามารถที่จะถอนคำฟ้องได้ ด้วยประการทั้งปวงนะครับ เรื่องแพ่งยังมีการถอนฟ้องได้ถ้าคุณเอาเงินมาจ่าย แต่ตรงนี้หลักฐานและประชาชนที่พร้อมที่จะร่วมกันฟ้องโดยที่เราเป็นศูนย์กลางมีเป็นร้อยคน หลักฐานมีกันจะๆ ผมประสานกับทางทนายสุวัตร ครับ ว่าเราจะมีแบบฟอร์มให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อแล้วก็ฟ้องธัญญทิพย์นะครับ ผมให้โอกาสคุณอีกไม่นาน กลับตัวกลับใจซะ อย่าพยายามหาทางที่จะมาเคลียร์ อ้างว่าเป็นผมบริหารงานไม่ดี แล้วก็พยายามที่จะเคลียร์กับคุณสนธิ นะครับ คุณสนธิ ทำงานทางด้านการเมืองแล้วไม่เกี่ยวกับตรงนี้แล้ว คุณสนธิ ให้ความไว้วางใจกับผมในการที่จะบริหารตรงนี้ ในการที่ผมทำตรงนี้คือผมก็คือตัวแทนที่คุณสนธิ ไว้ใจ ผมต้องทำงานให้ดีที่สุดในเรื่องของสื่อ คุณสนธิ อย่าไปยุ่งกับท่าน ท่านทำงานทางด้านการเมืองไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตรงนี้นะครับ
และตรงนี้ก็มีอีกประเด็นหนึ่งตรงที่ เรากำลังดูว่าเราจะฟ้องคุณหรือเปล่าก็คือ ประเด็นเรื่องของการหมิ่นประมาทเพราะว่ามีจดหมายของธัญญทิพย์เอง มักที่จะพาดพิงถึง เอเอสทีวี ตลอดเวลา โดยที่เราไม่เคยไปพาดพิงอะไรถึงคุณก่อน SMS นี้ก็เช่นเดียวกันครับ แต่อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ผมว่าคงไม่ใช่ประเด็นหลัก ผมคิดว่าที่ผมแถลงข่าววันนี้ น่าที่จะเพียงพอและ แฉกลับแล้วนะครับ ว่าอะไรเป็นอะไร ก็แค่นี้แหละครับ ขอเตือนนะครับว่าคุณมีเวลาอีกไม่นาน