รายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ” วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พาคุณผู้ชมไปพบกับเรื่องราวของ “ตากล่ำและยายละออ” ที่แม้จะอยู่ในวัยชราและมีโรครุมเร้า แต่ยังต้องดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการเผาถ่าน เพราะต้องดูแลลูกชายที่เคยเป็นพระเอกลิเกแต่มีอาการป่วยทางจิต และหลานชายที่พิการทางสมอง อยากให้ลูกหายป่วย ถึงขั้นยอมขายบ้านเพื่อนำเงินมารักษา
ที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.อ่างทอง ตากล่ำ วัย 82 ปี และยายละออ มีสุข วัย 77 ปี ต้องเป็นเสาหลักในการทำงานหารายได้เพื่อเลี้ยงลูกชายวัย 58 ปี ที่มีอาการป่วยทางจิต และหลานชายวัย 29 ปีที่อยู่ในภาวะพิการทางสมอง
งานที่ตากล่ำและยายละออทำเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ก็คือ เผาถ่าน ซึ่งรายได้ไม่พอที่จะดูแล 4 ชีวิต หลายครั้งตากล่ำและยายละออจึงต้องไปหยิบยืมเพื่อนบ้านมาประทังชีวิตไปก่อน
หลายคนอาจสงสัยว่า บ้านของตากล่ำและยายละออก็ดูใหญ่โต ทำไมจึงต้องมาเผาถ่านขาย ที่เป็นเช่นนี้ เพราะลูกชายของตายาย ตอนยังไม่ป่วย มีอาชีพเล่นลิเก ซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ จึงซื้อสร้างบ้านให้พ่อแม่ได้ถึง 2 หลัง
“(ลูกชาย) เป็นหัวหน้าคณะลิเก เล่นเองด้วย พระเอก ตอนนั้นรายได้ดี สร้างบ้าน ซื้อที่ก็ได้เขา เลี้ยงครอบครัว บ้านหลังใหญ่ ทีนี้เขามาโดนของแขก ติดยาม้า เพื่อนพาไป เพื่อนคิดไม่ดี ตอนนั้น พาไปติดยา ดูดมากก็ไปเลยประสาท เครียด ทั้งของทั้งยา ไม่รู้จะรักษากันแบบไหนเลย หมดเยอะ (ถาม-เป็นมานานหรือยังอาการทางสมอง?) นาน 7-8 ปีแล้ว หยุดเล่นลิเกเลย ออกแล้วเล่นเข้าโรงไม่ได้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่นั้นเลยเลิกเล่น และพาไปรักษา” ยายละออเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกชายหมดอนาคต และกลายเป็นคนป่วยทางจิตตามมา
“พาไปรักษาไม่รู้กี่ที่ ที่ไหนว่าดี ไปหมด ไปฝากพระให้หยุดยา และให้รักษาอบสมุนไพร เอามาจิตเวชอีก ยายพาไปรักษามาทั่ว เดี๋ยวนี้ค่อยดีไปนิดหนึ่ง ตั้งแต่กินยาจิตเวชมา แต่เขาไม่ทำคนนะ (ถาม-หมอบอกไหมเขาจะปกติไหม?) ไม่ปกติ เบลอ เป็นแบบนี้ไปยันตาย แต่เขาดีไปอย่าง วันๆ เขาไม่ยุ่งกับใคร อยู่ในห้องมั่ง หลังบ้านมั่ง เขาหากินของเขาเอง (ถาม-เขาช่วยงานไหม?) บางครั้งช่วย ช่วยกลบดิน เอาฟืนใส่เตา บางครั้งมาช่วยไม่เต็มตัว ยายก็หาพอไม่พออยู่อย่างนี้”
ด้วยความรักที่พ่อแม่อย่างตากล่ำและยายละออมีต่อลูก จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกหายป่วย แม้ถึงขั้นต้องขายที่ขายทาง ขายบ้านเพื่อรักษาลูกก็ยอม
“เสียเยอะ ที่กับบ้าน ที่งานครึ่ง บ้านหลังหนึ่งที่มีมาก่อน ที่เขาก่อร่างสร้างตัวให้แม่ ก็ขายแล้วรักษาลูก รักษาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือ เราก็มาแบ่งอยู่ข้างหลังนี่ได้หน่อย”
หลังขายบ้านไปหลังหนึ่งเพื่อรักษาลูก ปรากฏว่า บ้านที่พักอาศัยอยู่ทุกวันนี้ อยู่ในที่ตาบอด ไม่มีทางเข้าออก ส่งผลให้ตากล่ำและยายละออต้องกู้หนี้ยืมสินมาซื้อที่ดิน เพื่อให้บ้านมีทางเข้าออก ส่งผลให้ตอนนี้ยังเป็นหนี้อยู่ร่วมแสนบาท
นอกจากลูกชายที่ป่วยทางจิตแล้ว ตากล่ำและยายละออยังต้องดูแลหลานชายที่มีภาวะพิการทางสมองตั้งแต่กำเนิดด้วย ซึ่งบางครั้ง ถ้าหลานชายไม่เครียด ก็สามารถช่วยงานตายายได้บ้าง
“เวลาเขาดีๆ ก็มากอดคอ เอายาหม่องทาให้ย่านะ รู้ แต่พูดไม่ได้อย่างเดียว สงสารเขา เวลาเขาเครียดขึ้นมา บ้านช่องไม่เหลือ พัดลมทุ่มหมด ถ้าไม่เครียดไม่เป็นไร ดีใจหาย ช่วยปู่กับย่าเข็นฟืน ถ้าเขาเข็นไม่ไหว จะกวักมือ” ยายละออพูดถึงหลานด้วยความสงสาร
29 ปีที่ตากล่ำและยายละออต้องดูแลหลานที่พิการทางสมอง และเกือบ 10 ปีที่ต้องเป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงครอบครัวแทนลูกชายที่ป่วยทางจิต นอกจากการเผาถ่านจะไม่ช่วยให้มีรายได้เพียงพอสำหรับ 4 ชีวิตแล้ว ความเครียดและควันไฟจากการเผาถ่านยังบั่นทอนสุขภาพของตากล่ำและยายละออด้วย
“เป็นโรคปอด ถุงลมโป่งพอง (ถาม-จากเผาถ่านหรือ?) เผาถ่านมั่ง ตอนนั้นยายดูดบุหรี่เยอะ เครียดขึ้นมาคว้าบุหรี่ดูดๆ เล่าอย่างไม่อายเลย ไม่รู้จะปรึกษาใครเลย เดือนๆ ไม่พอกินพอใช้ อาการเหนื่อย หอบ เดินไม่ค่อยได้ (ถาม-ได้ไปรักษาไหม?) ไป รพ.หมอนัด ใช้สิทธิบัตรทอง ตามนัด ให้ยามา 2 เดือนตรวจที ยายอยากไปตรวจทรวงอกดู ตังค์ไม่มี"
ส่วนสุขภาพของตากล่ำก็มีปัญหาเรื่องปอดและตาที่มองไม่ค่อยเห็น เพราะเป็นต้อกระจก เคยไปหาหมอหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการผ่าตัด
ด้วยสภาพครอบครัวที่ฐานะยากจน และในบ้านมีแต่คนป่วย ทางเทศบาลตำบลศาลาแดง จ.อ่างทอง จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องอาหารการกิน
“ทางเราเห็นสภาพแล้วน่าสงสาร เราเลยเอาอาหารมาช่วย ทางนายกเทศมนตรีฯ เห็นว่าควรทำอะไรให้คนในชุมชนบ้าง บอกสมาชิก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาช่วยกัน เอาอาหารมาส่ง บ้านหลังนี้ประมาณ 6 ปี ส่งทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นข้าว มีขนม ใส่ปิ่นโตมา อาหารนี่เราทำเอง มีรองประธานสภาเทศบาลฯ เป็นคนทำ รองนายกเทศมนตรีฯ อีกท่านหนึ่ง วันละ 2 มื้อ เช้า-เย็น” ดิเรก วงษ์โทน รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศาลาแดง จ.อ่างทอง เล่าที่มาของการนำอาหารมาช่วยเหลือครอบครัวตากล่ำและยายละออ
“ตอนนี้เท่าที่ดู ตากล่ำแกมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แกเผาถ่านมานาน มีปัญหาเรื่องปอดกับตาที่มองไม่ค่อยเห็น มีปัญหาเรื่องอาชีพที่ทำอยู่ ตอนนี้นายกฯ สั่งให้หยุดเผาถ่าน ให้ดูแลสุขภาพก่อน" บังอร บุรีรักษ์ รองประธานสภาเทศบาลตำบลศาลาแดง จ.อ่างทอง
“ตอนนี้สิ่งเร่งด่วน สุขภาพของลุง ถ้าตามองเห็นปกติ หรือร่างกายแข็งแรงกว่านี้ ก็พอช่วยเหลือตัวเองได้ ดูหลานได้ ผมห่วงว่าถ้าลุงกล่ำทรุดไปหรือเสียไป จะเลวร้ายยิ่งขึ้น” ธวัช พันธ์เสือทอง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลศาลาแดง จ.อ่างทอง
"ถาม-มองอนาคตครอบครัวอย่างไร ตาและยายอายุมากขึ้นๆ?) หมดหนี้ก็พอ ทุกวันนี้ไม่คิดอะไร หมดหนี้ ต่อไปเขา(ลูกชาย-หลานชาย) จะได้มีที่อยู่ (ถาม-เคยคิดทิ้งลูกหลานไหม?) ไม่ ไม่เคยคิด เลี้ยงไปจนเราตายแหละ สมเพชเขา เลี้ยงเขามาแล้ว เราตายแล้ว ใครจะเอาไปทางไหนก็แล้วแต่เวรแต่กรรม” ยายละออกับอนาคตที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าอยากให้ตัวเองหมดหนี้ เพื่อที่หากวันใดไม่มีตายายแล้ว ลูกและหลานที่พิการทางสมองจะยังคงมีบ้านอยู่
หากคุณผู้ชมท่านใด ต้องการช่วยเหลือหรือลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวตากล่ำและยายละออไม่ให้ลำบากมากไปกว่านี้ สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาอ่างทอง ชื่อบัญชี กล่ำ มีสุข ธวัช พันธ์เสือทอง ภัทรนารถ ชัชวาลย์ เลขบัญชี 118-060008-8
ติดตามรับชมรายการ “ฅนจริง ใจไม่ท้อ” ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-10.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 (IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211)