พังงา - เปิดใจพ่อ “น้องนิต้า” แฟนสาว “เอ็ม ชัยชนะ” ที่ถูกทำร้ายร่างกายถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก เผยเห็นข้อความในแชตไลน์ลูกสาวแปลกๆ จนรู้สึกเป็นห่วง ก่อนโดนซ้อม โชคยังดีลูกสาวไม่ถูกทำร้ายถึงชีวิต ยันไม่รู้เรื่องหุ้น 40 ล้านของลูกสาว เชื่อน้องนิต้า ตกเป็นแพะ
จากกรณีที่มีข่าว นายเอ็ม ชัยชนะ ศิริชาติ ชายหนุ่มไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กทำร้ายร่างกายแฟนสาว หรือน้องนิต้า จนบาดเจ็บสาหัส ภายในคอนโดมิเนียม ก่อนที่โลกออนไลน์จะนำมาแชร์ และช่วยกันค้นหาแหล่งที่เกิดเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าควบคุมตัว นายชัยชนะ มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจนครบาลบึงกุ่ม ส่วนแฟนสาวเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัว
ล่าสุด ทางทีมข่าวได้เดินทางเข้าพบพ่อน้องนิต้า แฟนสาวของนายเอ็ม ในพื้นที่บ้านบางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ พบว่า มีญาติๆ พี่น้อง และพ่อของนิต้า ได้นั่งติดตามข่าวสารพร้อมนั่งพูดคุยถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ทางบ้านรู้สึกเป็นห่วงน้องนิต้า ลูกสาวที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันทางลูกสาว น้องนิต้า ได้คุยกับพ่อผ่านไลน์
พ่อน้องนิต้า กล่าวว่า ตนเองรู้สึกสะเทือนใจในความรักของพ่อที่มีต่อลูกซึ่งเมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ทำร้ายร่างกายก็ยังสะเทือนใจ ซึ่งตนเองได้ส่งลูกสาวน้องนิต้า ไปเรียนที่กรุงเทพฯ นานหลายปีพร้อมส่งเงินเสียค่าเรียนทุกสัปดาห์ ซึ่งก่อนหน้านี้ น้องก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีแฟน และตนเองเพิ่งจะมาทราบข่าวว่าลูกสาวมีแฟนหนุ่มเมื่อไม่นานมานี้
ตนเองได้ส่งข้อความผ่านไลน์พูดคุยกับลูกสาวถึงเรื่องการทำงานของพ่อที่อยู่ในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ว่า ขณะนี้ตนเองได้ทำอาชีพเสริมโดยการต่อพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ขาย และส่งรูปไปให้ลูกสาวดูผ่านไลน์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูปที่ไปปรากฏบนไลน์ของลูกสาวเกิดการอ่อนไหวจนทางลูกสาวได้ตอบไลน์กลับมาว่า รู้สึกสงสารพ่อหรือป่ะ ต่อไปหนูจะดูแลพ่อเอง
แต่ตนเองก็รู้สึกแปลกใจ เพราะว่าคำพูดที่อาจไม่ใช่คำพูดของลูกสาว “บอกว่าจะดูแลน้องนิต้าอย่างดีจะไม่ให้พ่อเป็นห่วงอีกแล้ว” พอหลังจากเขาพูดจบตนเองก็นิ่งไปพักนึง เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะมีแบบนี้ ซึ่งพ่อได้ฉุกคิดขึ้นมาคำหนึ่งที่ลูกสาวพูดว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะคิดว่าข้อความนี้ไม่ใช่ข้อความที่ลูกพิมพ์เอง และตนเองได้โทร.ไปหาลูกสาวคนโตที่อยู่กรุงเทพฯ ว่าให้จัดการดูน้องสาวให้ดีๆ เพราะพ่อรู้สึกแปลกใจอะไรสักอย่างกลัวว่าลูกสาวจะลำบาก
ซึ่งก็ไม่กี่วันหลังจากแชตคุยกับพ่อก็ได้เกิดเหตุการณ์ไลฟ์สดการทำร้ายร่างกาย จนทางพี่สาวได้โทร.มาบอกพ่อว่าไม่รู้น้องสาวจะเกิดอะไรขึ้น ตนเองจึงได้โทร.ไปหาญาติๆ ที่อยู่ทางกรุงเทพฯ ให้ช่วยดู และติดต่อตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุให้เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือลูกสาว
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองได้โทร.ไปคุยกับน้องนิต้า น้องเขาก็พูดคุยอย่างเป็นปกติ ถึงแม้ว่าร่างกายจะบาดเจ็บแต่น้องเขามีสุขภาพจิตที่ดี พูดคุยกับพ่อแบบเข้มแข็งให้คุณพ่อสบายใจ ซึ่งทางพ่อได้ให้กำลังใจลูกสาวที่ได้รับบาดเจ็บ และดีที่ นายเอ็ม ไม่ลงมือทำร้ายลูกเขาถึงกับชีวิต แต่ทางผู้ก่อเหตุก็ต้องยอมรับในการลงโทษทางกฎหมาย
ตนจึงให้ลูกสาวคนโตเข้าไปดูแลน้องให้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องการให้แก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แม้ว่าลูกสาวจะรักนายเอ็ม ทางตนเองก็ไม่ได้ไปบังคับจิตใจลูกสาวที่เขารักเป็นปกติเพราะความผูกพัน
ส่วนเรื่องหุ้น 40 ล้านบาท ตนไม่ทราบ เพราะก่อนหน้านี้ตนเองเคยสอบถามลูกสาวว่าเงินในบัญชีมีอยู่เท่าไร ทางลูกสาวก็ได้โชว์ให้ดูว่ามีอยู่ไม่กี่พันบาท ซึ่งเรื่องหุ้น 40 ล้านบาท ก็อาจเป็นเรื่องของเงินที่มาจากการอบรมอะไรสักอย่างที่เก็บมาได้ ซึ่งคนอายุ 26 ปี ซื้อคอนโดมิเนียนหรูในราคาล้านกว่าบาท ด้วยเงินสดว่าเป็นยังไง ตนเองคิดว่าลูกสาวคงตกเป็นแพะ ต่อจากนี้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องมีการสอบปากคำ และให้แพทย์ทำการรักษาลูกสาวให้หายเป็นปกติก่อนถึงจะเดินทางไปเยี่ยม
จากกรณีที่มีข่าว นายเอ็ม ชัยชนะ ศิริชาติ ชายหนุ่มไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กทำร้ายร่างกายแฟนสาว หรือน้องนิต้า จนบาดเจ็บสาหัส ภายในคอนโดมิเนียม ก่อนที่โลกออนไลน์จะนำมาแชร์ และช่วยกันค้นหาแหล่งที่เกิดเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าควบคุมตัว นายชัยชนะ มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจนครบาลบึงกุ่ม ส่วนแฟนสาวเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัว
ล่าสุด ทางทีมข่าวได้เดินทางเข้าพบพ่อน้องนิต้า แฟนสาวของนายเอ็ม ในพื้นที่บ้านบางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ พบว่า มีญาติๆ พี่น้อง และพ่อของนิต้า ได้นั่งติดตามข่าวสารพร้อมนั่งพูดคุยถึงเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ทางบ้านรู้สึกเป็นห่วงน้องนิต้า ลูกสาวที่ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันทางลูกสาว น้องนิต้า ได้คุยกับพ่อผ่านไลน์
พ่อน้องนิต้า กล่าวว่า ตนเองรู้สึกสะเทือนใจในความรักของพ่อที่มีต่อลูกซึ่งเมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ทำร้ายร่างกายก็ยังสะเทือนใจ ซึ่งตนเองได้ส่งลูกสาวน้องนิต้า ไปเรียนที่กรุงเทพฯ นานหลายปีพร้อมส่งเงินเสียค่าเรียนทุกสัปดาห์ ซึ่งก่อนหน้านี้ น้องก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีแฟน และตนเองเพิ่งจะมาทราบข่าวว่าลูกสาวมีแฟนหนุ่มเมื่อไม่นานมานี้
ตนเองได้ส่งข้อความผ่านไลน์พูดคุยกับลูกสาวถึงเรื่องการทำงานของพ่อที่อยู่ในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ว่า ขณะนี้ตนเองได้ทำอาชีพเสริมโดยการต่อพ่วงข้างรถจักรยานยนต์ขาย และส่งรูปไปให้ลูกสาวดูผ่านไลน์ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูปที่ไปปรากฏบนไลน์ของลูกสาวเกิดการอ่อนไหวจนทางลูกสาวได้ตอบไลน์กลับมาว่า รู้สึกสงสารพ่อหรือป่ะ ต่อไปหนูจะดูแลพ่อเอง
แต่ตนเองก็รู้สึกแปลกใจ เพราะว่าคำพูดที่อาจไม่ใช่คำพูดของลูกสาว “บอกว่าจะดูแลน้องนิต้าอย่างดีจะไม่ให้พ่อเป็นห่วงอีกแล้ว” พอหลังจากเขาพูดจบตนเองก็นิ่งไปพักนึง เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะมีแบบนี้ ซึ่งพ่อได้ฉุกคิดขึ้นมาคำหนึ่งที่ลูกสาวพูดว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะคิดว่าข้อความนี้ไม่ใช่ข้อความที่ลูกพิมพ์เอง และตนเองได้โทร.ไปหาลูกสาวคนโตที่อยู่กรุงเทพฯ ว่าให้จัดการดูน้องสาวให้ดีๆ เพราะพ่อรู้สึกแปลกใจอะไรสักอย่างกลัวว่าลูกสาวจะลำบาก
ซึ่งก็ไม่กี่วันหลังจากแชตคุยกับพ่อก็ได้เกิดเหตุการณ์ไลฟ์สดการทำร้ายร่างกาย จนทางพี่สาวได้โทร.มาบอกพ่อว่าไม่รู้น้องสาวจะเกิดอะไรขึ้น ตนเองจึงได้โทร.ไปหาญาติๆ ที่อยู่ทางกรุงเทพฯ ให้ช่วยดู และติดต่อตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุให้เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือลูกสาว
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองได้โทร.ไปคุยกับน้องนิต้า น้องเขาก็พูดคุยอย่างเป็นปกติ ถึงแม้ว่าร่างกายจะบาดเจ็บแต่น้องเขามีสุขภาพจิตที่ดี พูดคุยกับพ่อแบบเข้มแข็งให้คุณพ่อสบายใจ ซึ่งทางพ่อได้ให้กำลังใจลูกสาวที่ได้รับบาดเจ็บ และดีที่ นายเอ็ม ไม่ลงมือทำร้ายลูกเขาถึงกับชีวิต แต่ทางผู้ก่อเหตุก็ต้องยอมรับในการลงโทษทางกฎหมาย
ตนจึงให้ลูกสาวคนโตเข้าไปดูแลน้องให้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงต้องการให้แก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แม้ว่าลูกสาวจะรักนายเอ็ม ทางตนเองก็ไม่ได้ไปบังคับจิตใจลูกสาวที่เขารักเป็นปกติเพราะความผูกพัน
ส่วนเรื่องหุ้น 40 ล้านบาท ตนไม่ทราบ เพราะก่อนหน้านี้ตนเองเคยสอบถามลูกสาวว่าเงินในบัญชีมีอยู่เท่าไร ทางลูกสาวก็ได้โชว์ให้ดูว่ามีอยู่ไม่กี่พันบาท ซึ่งเรื่องหุ้น 40 ล้านบาท ก็อาจเป็นเรื่องของเงินที่มาจากการอบรมอะไรสักอย่างที่เก็บมาได้ ซึ่งคนอายุ 26 ปี ซื้อคอนโดมิเนียนหรูในราคาล้านกว่าบาท ด้วยเงินสดว่าเป็นยังไง ตนเองคิดว่าลูกสาวคงตกเป็นแพะ ต่อจากนี้เป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องมีการสอบปากคำ และให้แพทย์ทำการรักษาลูกสาวให้หายเป็นปกติก่อนถึงจะเดินทางไปเยี่ยม