นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring) ให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบันว่ามีความสัมพันธ์กับสถานการณ์โควิดอย่างมาก อัตราการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่จนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่จะเป็นสัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่สำคัญ วัคซีนกลายเป็นกุญแจและความหวังสำคัญที่ทุกคนเชื่อว่าจะช่วยให้วิกฤตนี้คลี่คลายลง เราเริ่มจะเห็นการเปิดเมืองและการกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง ตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนคือการจัดงานวันชาติของสหรัฐอเมริกาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หรือการแข่งขันรอบชิงฟุตบอลยูโรในอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่ตอกย้ำว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมและอัตราการติดเชื้อที่แตกต่างกันทำให้การฟื้นตัวไม่เท่ากัน เราได้เห็นการประมาณการของการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP Growth ที่แตกต่างกัน ฟากฝั่งหนึ่งมีการฟื้นตัวที่ชัดเจน แต่อีกฟากฝั่งหนึ่งกลับยังไม่สามารถก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 ได้ ดังนั้น ในมุมมองของผู้ลงทุนที่มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนอยู่เสมอ อาจต้องให้น้ำหนักการลงทุนในฝั่งที่มีการฟื้นตัวที่ชัดเจนโดยเฉพาะจากประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป และรวมถึงจีนที่มีการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมแล้ว
ส่วนประเด็นที่ต่อเนื่องจากการฟื้นตัวที่ผู้ลงทุนมักมองว่าเมื่อเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา จะเป็นการเร่งให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโนบายอย่างแน่นอน ซึ่งเราก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น เราจะเห็นรอบของวัฏจักรเศรษฐกิจที่สั้นลง จากเดิมที่อาจกินเวลา 3-5 ปี แต่ปัจจุบันเราได้เห็นหลายประเทศก้าวข้ามจากระยะถดถอยเข้าสู่ระยะฟื้นตัวในเวลาไม่ถึง 1 ปี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใช้นโยบายและมาตรการทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น ในแง่การลงทุน ผู้ลงทุนก็ควรจะปรับพอร์ตลงทุนให้ทันกับวัฏจักรของเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
สำหรับธีมการลงทุนเพื่อโอกาสของผลตอบแทนในครึ่งปีหลังนี้ เราให้ความสนใจกับโอกาสการลงทุนใน 3 แนวทางหลัก คือ 1) กลุ่มหุ้นนวัตกรรมเติบโตสูง (Growth) ซึ่งเชื่อได้ว่าวัฏจักรเศรษฐกิจที่สั้นลง Sector Rotation กลับไปสู้กลุ่มหุ้นเติบโตสูงอาจเกิดขึ้นได้ในระยะไม่นานถัดจากนี้ ประกอบกับการที่หุ้นกลุ่มคุณค่านั้นโอกาสการเติบโตของรายได้ที่ต่ำกว่าทำให้หุ้นกลุ่มคุณค่าที่เคยดึงดูดผู้ลงทุนจากระดับราคา อาจไม่ได้ราคาถูกเหมือนเดิมอีกต่อไป
2) กลุ่มหุ้นนวัตกรรมเทคโนโลยีขนาดเล็กแต่มีโอกาสเติบโตสูงของจีน ซึ่งแม้ว่าหุ้นจีนค่อนข้างได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงครึ่งปีแรกจากนโยบายของภาครัฐ ตัวอย่างเช่น การสั่งระงับการเปิดเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ของ Ant Group บริษัทในเครือ Alibana แบบกะทันหัน หรือการเพิกถอนแอปพลิเคชันบริการแท็กซี่อย่าง Didi ที่มีการทำ IPO ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อต้นกรกฎาคมที่ผ่านมา สำหรับประเด็นเหล่านี้ เราเชื่อว่าเป็นขั้นตอนการปฏิรูปโครงสร้างที่สำคัญและประเทศที่มีศักยภาพระดับโลกอย่างจีนจะสามารถก้าวผ่าน มีความเข้มแข็งและเกิดเสถียรภาพได้ในระยะยาว การแบนบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ทั้ง Facebook และ YouTube ต่างก็เคยโดนการควบคุมและการฟ้องร้องเช่นกัน ประกอบกับเมื่อดูปัจจัยพื้นฐานของจีนแล้วพบว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งและก้าวพ้นสถานการณ์โควิด-19 เรียบร้อยแล้ว ทั้งในแง่อัตราการฉีดวัคซีนและอัตราการติดเชื้อ ซึ่งยิ่งทำให้เรามั่นใจในหุ้นจีนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจในหุ้นจีน แต่ยังคงมีความกังวลกับหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ปัจจุบัน TMBAM Eastspring ได้เปิดขายกองทุน TMB-ES-STARTECH ซึ่งเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน KraneShares SSE STAR Market 50 Index ETF ซึ่งเป็นกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว โดยกองทุนหลักจะลงทุนใน STAR Market ที่รัฐบาลจีนออกแบบให้บริษัทของจีนที่ยังมีขนาดเล็กแต่มีอนาคตเติบโตสูงสามารถเข้ามาจดทะเบียนและมีน้ำหนักในการคำนวณดัชนีได้ โดยมุ่งหวังให้ตลาดนี้เป็นเหมือน Nasdaq ทำให้ตลาดนี้ค่อนข้างจะได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลน้อยกว่า
3) กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง เริ่มต้นใหม่ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับหุ้นที่ปัจจุบันได้รับผลบวกชัดเจนอย่างหุ้นรับเปิดเมือง (Re-opening) เรามองว่าด้วยอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้กิจกรรมต่างๆ ในประเทศกลับมาใกล้เคียงก่อนเกิดโควิดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มร้านอาหาร กลุ่มโรงแรม กลุ่มโรงภาพยนตร์ ฯลฯ ทำให้เรามองว่าหุ้นในกลุ่มนี้จะมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีกครั้ง ผู้ที่สนใจในหุ้นธีมนี้ ปัจจุบันเราได้เปิดขายกองทุน TMB-ES-CHILL ซึ่งลงทุนในกองทุน Invesco Dynamic Leisure and Entertainment ETF เพียงกองทุนเดียว และมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Dynamic Leisure and Entertainment Intellidex Index
สำหรับสินทรัพย์ที่เราแนะนำในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แน่นอนว่าเรายังให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่ เพราะผลตอบแทนต่อความเสี่ยงมีความคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนตราสารหนี้นั้น เรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าลงทุนใน HY Bond เพราะด้วยเศรษฐกิจทั่วโลกที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้ว ความเสี่ยงจากการที่บริษัทจะผิดชำระหนี้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย นอกจากนั้นยังคาดว่าพันธบัตรรัฐบาลจะได้รับผลกระทบจากความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยจากอัตราเงินเฟ้อในอเมริกาที่ยังอยู่ในระดับสูง
ในภาพรวมพอร์ตลงทุนที่แนะนำ เรายังให้น้ำหนักกับหุ้นโลก (Global Equity) เป็นส่วนใหญ่ของพอร์ตลงทุน (core portfolio) ซึ่งในส่วนนี้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เงินลงทุนระยะยาว โดยอาจผสมหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure fund) และกลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือก (renewable fund) แต่สำหรับในส่วนของพอร์ตที่เน้นโอกาสสร้างผลตอบแทนและทำกำไรในระยะปานกลาง (Satellite Portfolio) เราแนะนำให้ลงทุนใน 3 ธีมหลักข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น หุ้นนวัตกรรมหรือหุ้นเติบโตสูง หุ้นจีน หรือหุ้นรับการเปิดเมือง