นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือกองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงจะเปิดขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GTORMF) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นฟิวเจอร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-FUTURERMF) ระหว่างวันที่ 21-27 เมษายน 2564 นี้ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณพร้อมประหยัดภาษี มีทางเลือกการลงทุนในกลุ่มกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่หลากหลาย ครบรสชาติยิ่งขึ้น
จากข้อมูลของสมาคมบริษัทจัดการกองทุน (AIMC) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งหมด (AUM) ของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ในอุตสาหกรรมอยู่ที่ 348,826 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้กองทุนบัวหลวงได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนให้บริหารกองทุน RMF ซึ่งเป็นเงินลงทุนระยะยาวเพื่อรองรับวัยเกษียณอยู่ที่ 91,999 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 1 ใน 4 ของทั้งอุตสาหกรรม และกองทุนบัวหลวงมุ่งมั่นจะรักษาความไว้วางใจนี้ต่อไป พร้อมเพิ่มกองทุน RMF เพื่อเป็นทางเลือกในการจัดสรรเงินลงทุนได้สอดคล้องกับสไตล์การลงทุนของตัวเองมากขึ้น
ทั้งนี้ ถ้าต้องการลงทุนในต่างประเทศแบบกระจายความเสี่ยงมากหน่อย ก็เลือก B-GTORMF ที่ลงทุนในหุ้นหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกที่ใช้นวัตกรรมเพื่อการเติบโต หรือถ้าต้องการคัดสรรลงทุนหุ้นต่างประเทศแบบเน้นๆ เฉพาะกลุ่ม ก็เลือก B-FUTURERMF ได้
สำหรับ B-GTORMF เป็นกองทุนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Wellington Global Innovation Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน S-ACC (USD) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) นโยบายการลงทุนจะกระจายลงทุนในหุ้นหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเพื่อการเติบโต โดยเน้นหาหุ้นที่เป็นผู้นำของแต่ละอุตสาหกรรม
ส่วน B-FUTURERMF เป็นกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับเทรนด์อนาคต โดยมี Theme หลัก คือ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีผู้จัดการกองทุนของกองทุนบัวหลวงเลือกลงทุนในกองทุน (Fund Selection) และลงทุนตรงในหุ้น (Stock Selection) ต่างประเทศของบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการบริโภคในอนาคต ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ที่พัฒนามาเพื่อรองรับแนวโน้มการบริโภค การดำเนินธุรกิจ และเศรษฐกิจในอนาคต