คุณพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จบริหารกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M2 (ONE-GLOBALTOP8M2) โดยสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายก่อนกำหนด ใช้ระยะเวลาการบริหารประมาณ 3 เดือน ซึ่งบริษัทได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่ผู้ลงทุนในอัตรา 10.83 บาทต่อหน่วย หรือ 8% ตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2564
“ในปีที่ผ่านมา บลจ.วรรณได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ ด้วยการเปิดเสนอขายกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าประสบความสำเร็จดี โดยเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมากองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ONE-GLOBALTOP8M3 ONE-GLOBALTOP8M4 และ ONE-GLOBALTOP8M5 สามารถสร้างผลตอบแทนแตะผ่านทริกเกอร์ครั้งแรกในระดับราคา NAV ประมาณ 10.40 บาทต่อหน่วย หรือ 4% ตามเป้าหมาย โดยบริษัทได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติของกองทุนดังกล่าวไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนสนใจลงทุนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในตลาดต่างประเทศ สัปดาห์หน้าบริษัทจะทำการเปิดเสนอขายกองทุน ONE-GLOBALTOP8M8 ระหว่างวันที่ 12-18 มกราคม 2564 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาเท่านั้น” นายพจน์กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M8 มีนโยบายการลงทุนแบบยืดหยุ่น โดยเน้นกระจายการลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศเป็นสัดส่วนหลัก และส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรภาครัฐบาล ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถคัดเลือกและปรับเปลี่ยนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมายที่ 8% ในระยะเวลา 8 เดือน โดยที่ผ่านมาผู้จัดการลงทุนได้เน้นลงทุนใน Baillie Gifford Long Term Global Growth กองทุน Baillie Gifford Worldwide Discovery และกองทุน UBS Lux Equity SICAV - All China เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีตามเป้าหมาย โดยกองทุนทั้ง 3 ที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพและมีความสามารถในการแข่งขันสูง ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนสามารถเพิ่มการลงทุนในกองทุนที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่อให้เหมาะต่อสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายดังเช่นที่ผ่านมา โดยน้ำหนักการลงทุนของแต่ละกองทุนจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
คุณพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางหลายๆ แห่งในปีนี้ยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อช่วยเศรษฐกิจของประเทศตนจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งเป็นผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยมองว่าตลาดทุนทั่วโลกยังคงได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 แม้ทั่วโลกจะมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในสิ้นปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความคืบหน้าของวัคซีนต้าน Covid-19 จึงช่วยให้นักลงทุนเริ่มมองเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 จบลง อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมกองทุนที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้หลังจากจบการแพร่ระบาด Covid-19 โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Mid-Small Cap ที่มีศักยภาพเติบโตสูง
อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนต้องการลงทุนในระยะสั้น (ภายในกรอบเวลา 8 เดือน) เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้ได้ 8% ในบริษัทที่มีศักยภาพและมีความสามารถในการแข่งขันสูงพร้อมกับมีผู้จัดการกองทุนที่มีความสามารถคอยดูแลด้านการลงทุนอย่างใกล้ชิด ONE-GLOBALTOP8M8 ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดต่างประเทศ