รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 10/20 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ BP10/20 (AI) ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2563 นี้ โดยเสนอขายในราคา 10 บาทต่อหน่วย และผู้ลงทุนจะต้องจองซื้อครั้งแรกขั้นต่ำ 500,000 บาท
กองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีกำหนดอายุโครงการ (เทอมฟันด์) ประมาณ 6 เดือน จะระดมเงินจากผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้มีเงินลงทุนสูง ซึ่งเป็นผู้ลงทุนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินที่กองทุนลงทุน และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ เพื่อแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสมในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ BP10/20 (AI) จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นการลงทุนในต่างประเทศเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินต้นและดอกเบี้ยที่คาดว่าจะได้รับทั้งหมด (Fully Hedge)
ตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนนี้เข้าไปลงทุนได้ ประกอบด้วย ตราสารหนี้ภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงตราสารหนี้ภาคเอกชน และตราสารหนี้อื่นๆ ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยต้องรับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ณ วันที่ลงทุนอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ หรือ Investment Grade ทั้งยังสามารถลงทุนในเงินฝากต่างประเทศได้ นอกจากนี้อาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ทั้งใน และต่างประเทศ
ทั้งนี้ BP10/20 (AI) ไม่มีค่าธรรมเนียมการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งในการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกองทุนนี้เป็นการรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติ 1 ครั้ง ภายในวันทำการก่อนวันครบกำหนดอายุโครงการ โดยบริษัทจัดการจะประกาศวันที่รับซื้อคืนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนทราบภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันถัดจากวันที่จดทะเบียนกองทุน ขณะที่การจ่ายเงินคืนเมื่อครบอายุกองทุน จะจ่าย 1 ครั้ง ภายในวันที่เลิกกองทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในทะเบียน ณ วันเลิกกองทุน ตามวิธีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้แจ้งไว้ในใบคำขอเปิดบัญชี (โอนเข้าบัญชี / เช็ค) โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถแจ้งความประสงค์ไว้ได้ว่าเมื่อกองเทอมฟันด์ครบอายุให้สับเปลี่ยนเข้ากองทุนเปิด บัวหลวงธนทวี (B-TNTV) หรือกองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)
นอกจากนี้ หลังจากกองทุนบัวหลวงประกาศเปิดขาย IPO กองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 6-21 หรือ TRIGGER 6-21 ระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค. 2563 ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าล้นหลาม ล่าสุดต้องปิดการเสนอขายก่อนกำหนดตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 2563) เพราะผู้ลงทุนจองซื้อเข้ามาจนทำให้ขนาดกองทุนที่ออกเสนอขายเต็มจำนวน 1,500 ล้านบาท
สำหรับกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมผสมที่ไม่ได้ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ กองทุน TRIGGER 6-21 จะเสนอขายครั้งแรกเพียงครั้งเดียว จากนั้นนักลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนจนกระทั่งเลิกกองทุน กองทุนนี้มีอายุประมาณ 6 เดือนนับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สิน ซึ่งบริษัทจะเลิกกองทุนเมื่อครบอายุโครงการ โดยเงินที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับคืนจะเป็นไปตามการบริหารกองทุนในระยะเวลา 6 เดือน หรือในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันที่ครบเงื่อนไขทั้งหมด คือมีมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.65 บาท เป็นเวลา 2 วันทำการติดต่อกัน มูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติต้องไม่ต่ำกว่า 10.50 บาท และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเงินฝากธนาคารทั้งหมด