นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงระยะ 10 ปีที่ผ่านมาดัชนีหุ้นโลก (MSCI AC WORLD) มีความผันผวนน้อยกว่าและให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าดัชนีหุ้นไทยถึง 3.6% ต่อปี การลงทุนในหุ้นต่างประเทศยังช่วยกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนในหุ้นของบริษัทต่างประเทศที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน มีศักยภาพเติบโตสูงและต่อเนื่องด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้ เช่น Cloud Computing, Software, E-commerce, Healthcare Innovation เป็นต้น
บลจ.เอ็มเอฟซีมองว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2564 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 คลี่คลายโดยจะมีการผลิตและใช้วัคซีนในวงกว้าง ประกอบกับแนวโน้มนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและการดำเนินนโยบายคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และในช่วงปลายปีนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายในการออมเพื่อลดหย่อนภาษี ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) นั้น
บลจ.เอ็มเอฟซีแนะนำกองทุนประหยัดภาษี เพื่อการเกษียณอย่างมีความสุข ได้แก่ กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี โกลบอล โฟกัส เพื่อการเลี้ยงชีพ (MGFRMF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารทุนประเภท Feeder Fund มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Threadneedle Global Focus Fund (กองทุนหลัก) ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน มีคุณภาพ เติบโตสูง ในราคาที่เหมาะสม พร้อมทีมบริหารกองทุนและทีมนักวิเคราะห์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านการลงทุน โดยมุ่งหวังสร้างอัตราผลตอบแทนสูงในระยะกลางถึงระยะยาว และคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าดัชนีตราสารทุนโลก (ดัชนี MSCI AC World) และกองทุนหลักมีจุดเด่นที่สำคัญคือ มีกระบวนการลงทุนที่สร้างความแตกต่างในเชิงคุณภาพที่ชัดเจน โดยเน้นการวิเคราะห์และคัดเลือกหุ้นของบริษัทที่มีความได้เปรียบทางด้านการแข่งขันเชิงธุรกิจ ทำให้สามารถทำกำไรเติบโตสูงและยั่งยืน ทั้งยังมีศักยภาพสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว กองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ และได้รับการจัดอันดับความยั่งยืนสูงสุด (Five Globes) จากกระบวนการคัดเลือกหุ้นคุณภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคม (Responsible Investment) โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ Environmental Social Governance (ESG)
MGFRMF เน้นลงทุนในชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก (share class) “IU” ในสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริหารโดย Threadneedle Management Luxembourg S.A. เพียงกองทุนเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAV ซึ่งกองทุนหลักจดทะเบียนจัดตั้งที่ประเทศลักเซมเบิร์ก โดยกองทุน MGFRMF มีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management)
กองทุน MGFRMF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีคุณภาพดี มีการเติบโตสูงอย่างยั่งยืน ต้องการผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และผู้ที่ต้องการออมเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี รวมถึงผู้ลงทุนสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศได้ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 2,000 บาท (สำหรับการซื้อครั้งแรก ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1,000 บาท) ซื้อและขายคืนได้ทุกวันทำการ ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 6