นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า “ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงที่ผู้ลงทุนให้ความสนใจในการลงทุนสำหรับการวางแผนเกษียณควบคู่กับสิทธิประโยชน์ทางภาษีผ่านกองทุน SSF-RMF เป็นจำนวนมาก กองทุนทั้งสองประเภทนี้เป็นการลงทุนระยะยาว จึงควรให้ความสำคัญต่อการกระจายการลงทุน และการเลือกกองทุนที่เหมาะกับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ ปีนี้ RMF ที่ลงทุนในต่างประเทศยังได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะ KFGTECHRMF และ KFGBRANRMF ที่มีผลงานโดดเด่นมากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา”
“จากต้นปีมีเงินทยอยเข้ามาลงทุนใน RMF ต่อเนื่อง ตัวเลข Net Flow ใน RMF ของ บลจ.กรุงศรี ประมาณ 2,600 ล้านบาทจากทั้งอุตสาหกรรมที่มี Net Flow ราว 8,300 ล้านบาท โดย KFGTECHRMF และ KFGBRANRMF เป็น RMF ต่างประเทศที่มีเงินลงทุนเพิ่มมากที่สุดสองอันดับแรก” (ข้อมูล Morningstar 31 ต.ค. 63)
“สำหรับผู้รับความเสี่ยงได้มาก และอาจมีสัดส่วนของเงินลงทุนในหุ้นไทยอยู่พอสมควรแล้ว ควรจะกระจายการลงทุนไปในหุ้นต่างประเทศบ้าง เพื่อเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนจากสินทรัพย์หลายประเภทและหลายภูมิภาคมากขึ้น เป็นการกระจายความเสี่ยง ลดความผันผวนของพอร์ตและเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีด้วย”
“ช่วงที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก จากนวัตกรรมที่เกิดขึ้นรวดเร็วตลอดเวลา และมีผู้ใช้งานทั้งลูกค้าทั่วไปและองค์กรต่างๆ ที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ถ้าต้องการลงทุนไปกับการเติบโตของเทคโนโลยี กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGTECHRMF) เป็นคำตอบที่ดี”
“กองทุน KFGTECHRMF ลงทุนในกองทุนหลัก คือ T. Rowe Price Funds SICAV - Global Technology Equity Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนเน้นลงทุนในบริษัทที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทั่วโลก มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีทรัพย์สินทางปัญญาที่แข็งแกร่ง มีกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ อีกทั้งผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ยาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตและมีผลกำไรที่ดีในอนาคต ตัวอย่างบริษัทที่ลงทุนล้วนแต่เป็นบริษัทที่เรารู้จักและเป็นลูกค้าเสียส่วนใหญ่ เช่น Microsoft, Facebook, Netflix, Alibaba, Amazon เป็นต้น”
หมายเหตุ
* ดัชนีชี้วัด (Benchmark) คือดัชนี MSCI AC World Information Technology Index สัดส่วน 100% บริษัทจัดการจะใช้ตัวชี้วัดตามกองทุนหลักในสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อเทียบเท่าค่าสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน
** ผลตอบแทนที่มีอายุเกินหนึ่งปีจะแสดงเป็นผลตอบแทนต่อปี เอกสารการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมฉบับนี้ ได้จัดทำตามมาตรฐานการวัดผลดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
“ส่วนกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผลเพื่อการออม (KFGBRANSSF) และกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGBRANRMF) ลงทุนในกองทุนหลักเดียวกันคือ Morgan Stanley Investment Funds - Global Brands Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในบริษัทเจ้าของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก มีฐานลูกค้าเหนียวแน่นซึ่งเป็นแหล่งรายได้กระจายอยู่ทั่วโลก จึงช่วยกระจายความเสี่ยงในด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งได้เป็นอย่างดี และมีศักยภาพในการเติบโตเพราะมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยน้ำหนักการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคที่คนส่วนใหญ่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น Microsoft, Visa, L'Oreal, Unilever, Nestle เป็นต้น ไม่ว่าวัฏจักรเศรษฐกิจจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงก็ยังคงมีลูกค้าซื้อใช้อย่างต่อเนื่อง จึงช่วยสร้างผลตอบแทนที่ค่อนข้างสม่ำเสมอและยั่งยืนในระยะยาวได้”
“ส่วนผู้ที่เล็งเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นไทยช่วงที่ตลาดปรับฐานลงมา แนะนำการลงทุนในกองทุนเปิด กรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ท 50-เพื่อการออม (KFENS50SSF) มีนโนบายลงทุนในหุ้นดัชนี SET 50 โดย 90% ของพอร์ตการลงทุนเน้นการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี SET 50 มากที่สุด และอีกประมาณ 10% ของพอร์ตการลงทุนเน้นการลงทุนเชิงรุกเพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มกว่าดัชนี SET 50 ล่าสุดกองทุน KFENS50SSF ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.50 บาท/หน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 30 ก.ย. 63 โดยกองทุน KFENS50SSF สามารถสร้างผลตอบแทนรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 27.05% สูงกว่าดัชนีชี้วัดที่ 22.15%” (ที่มา : บลจ.กรุงศรี 30 พ.ย. 63 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
นางสุภาพรกล่าวทิ้งท้ายว่า “นอกจากนี้ บลจ.กรุงศรียังมี SSF และ RMF อีกหลากหลายนโยบายให้เลือกลงทุน ไม่ว่าจะเป็น กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ กองทุนผสม กองทุนหุ้นทั้งที่เป็น Active Fund และ Passive Fund ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 0-2657-5757 หรือเว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยา และตัวแทนสนับสนุนการขายต่างๆ” นางสุภาพรกล่าว
ข้อมูลกองทุน SSF กรุงศรี *
https://www.krungsriasset.com/TH/News/Promotion/Krungsri_SSF.aspx
ข้อมูลกองทุน RMF กรุงศรี **
https://www.krungsriasset.com/TH/News/Promotion/LP_RMF_for_Retirement.aspx
SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม / RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน / ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
KFENS50SSF มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET 50 เฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง
KFGBRANSSF มีนโยบายลงทุนใน Morgan Stanley Investment Funds - Global Brands Fund, Class ZX (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง / มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
KFGBRANRMF มีนโยบายลงทุนใน Morgan Stanley Investment Funds - Global Brands Fund (Class Z) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง / มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
KFGTECHRMF มีนโยบายลงทุนใน T. Rowe Price Funds SICAV - Global Technology Equity Fund (Class Q) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 7: เสี่ยงสูง / มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนการลงทุน