ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถไฟบรรทุกสินค้าเฉี่ยวชนรถบัสโดยสาร หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ที่นำผู้โดยสารจำนวน 60 คนไปทอดกฐินวัดบางปลานัก โดยเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 42 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2563
คปภ.ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กรบูรณาการการทำงานร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดฉะเชิงเทรา ติดตามและตรวจสอบการจัดทำประกันภัยของรถบัสโดยสารที่ประสบอุบัติเหตุ ว่า มีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้ประสบภัยในครั้งนี้
ทั้งนี้ ได้รับรายงานเบื้องต้นจากสำนักงาน คปภ.ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้ลงพื้นที่และประสานงานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ว่า รถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ NCMI9007926071 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2564
และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 3) ไว้กับ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 6336600792 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 กันยายน 2564
จากอุบัติเหตุในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 ราย เบื้องต้นจะได้รับค่าเสียหายรายละ 85,000 บาท จากกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
ในเบื้องต้นผู้บาดเจ็บจะได้รับสิทธิค่าเสียหายเบื้องต้นสำหรับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท/คน และสัญญาแนบท้ายประกันอุบัติเหตุ (PA) ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 50,000 บาท/คน รวมรายละไม่เกิน 80,000 บาท
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย