ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2563 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25.3 หรือเท่ากับ 6,136.1 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 328.5 ล้านบาท และรายได้สุทธิจากการลงทุน 459.7 ล้านบาท กำไรก่อนภาษีเงินได้ 788.2 ล้านบาท และเมื่อหักภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 668.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเท่ากับ 6.28 บาท
ส่วนผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาสสองมีแนวโน้มเป็นไปตามเป้าหมาย แต่การเติบโตอาจแผ่วลงจากการได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 สำหรับแนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เล็งเห็นว่ายังมีปัจจัยบวกหลายประการที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจ แม้ปัจจุบันธุรกิจประสบกับความท้าทายทั้งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างชัดเจน การส่งออกหดตัว ยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ชะลอตัวอย่างมาก และผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตมนุษย์และการดำเนินธุรกิจทั่วโลก
อย่าไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกที่จะสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจประกันวินาศภัย ได้แก่ การที่ผู้บริโภคตระหนักมากขึ้นถึงความเสี่ยงภัยด้านสุขภาพและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
แนวโน้มของอัตราค่าสินไหมทดแทนของประกันสุขภาพที่จะลดลงจากการใช้ชีวิตแบบ New Normal เช่น การสวมหน้ากากอนามัย, การล้างมือเป็นประจำ, Social Distancing รวมทั้งการเข้มงวดด้านมาตรฐานความสะอาดและอนามัยในสถานที่ต่างๆ
มาตรการผ่อนคลายของสถาบันต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้บริษัทประกันภัยมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น
โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของภาครัฐที่มีแผนจะเปิดประมูลและเซ็นสัญญาก่อสร้างในปีนี้ส่วนใหญ่ยังคงดำเนินการต่อไปตามแผนที่ตั้งไว้
อัตราเบี้ยประกันภัยต่อในตลาดโลกที่ยังคงเพิ่มขึ้นจากความเสียหายของมหันตภัยในปีที่ผ่านมา ทำให้อัตราเบี้ยประกันภัย IAR ในปีนี้ไม่สามารถตัดราคาเพื่อการแข่งขันได้เหมือนที่ผ่านมา
การท่องเที่ยว ตัวขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยการท่องเที่ยวภายในประเทศจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 และจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้ภายในเดือนตุลาคม
สำหรับกรุงเทพประกันภัยยังคงคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันภัยที่ตั้งไว้ 22,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ในปีนี้