นายวศิน วณิชย์วรนันต์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก รวมถึงตลาดตราสารหนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าหน่วยลงทุน จนเกิดการตื่นตระหนกไถ่ถอนอย่างรุนแรงในช่วงปลายสัปดาห์ (20 มีนาคม 2563) ที่ผ่านมานั้น เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง หากเกิดขึ้นเฉพาะกับสองกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ.แห่งหนึ่งเพื่อหยุดยั้งความตื่นตระหนกของผู้ถือหน่วยลงทุน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) สมาคมธนาคารไทย และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมฯ) ได้ออกแถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา สถานการณ์ของอุตสาหกรรมโดยรวม ณ ปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น รวมถึงตลาดตราสารหนี้มีเสถียรภาพมากขึ้น
เนื่องจากสถานการณ์ของกองทุนตราสารหนี้ดังที่กล่าวไปได้ถูกไถ่ถอนจนถึงระดับที่ไม่สามารถสร้างสมดุลได้ระหว่างความเสี่ยงกับสภาพคล่องเพื่อรองรับการไถ่ถอนอย่างมาก ทาง บลจ.แห่งนั้นจึงจำเป็นต้องประกาศขอยกเลิกโครงการกองทุนของสองกองทุนดังกล่าวเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน
ทางสมาคมฯ ขอเรียนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุเฉพาะที่เกิดกับกองทุนนั้น และผลกระทบของการประกาศขอยกเลิกโครงการกองทุนจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้
มาตรการที่กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงาน ก.ล.ต.ได้ออกแถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้ช่วยสร้างเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้ดีขึ้น สะท้อนถึงมูลค่าต่อหน่วยลงทุน และมีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนน้อยลง
ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงาน ก.ล.ต.ได้มีมาตรการเพิ่มเติมในวันที่ 24 มีนาคม 2563 ผ่อนผันให้กองทุนตราสารหนี้ สามารถสร้างสภาพคล่องเพิ่มเติมจากเดิมที่ 10% เป็น 30% (Repurchase Agreement-REPO) ในอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรน
การประกาศขอยกเลิกโครงการกองทุนของสองกองทุนดังกล่าวอันเกิดการไถ่ถอนอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดแรงกดดันต่อตลาดตราสารหนี้ได้ และ ณ ปัจจุบันสัดส่วนของขนาดกองทุนรวมของทั้งสองกองมีขนาดลดลงไปมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโดยรวม ผลกระทบจะน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สมาคมฯ ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องว่าจะมีปัจจัยอื่นมากระทบอีกหรือไม่ โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารแห่งประเทศไทยครอบคลุมและเพียงพอ ขณะที่ผู้จัดการกองทุนในหลาย บลจ.ยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องได้ดีขึ้น ซึ่งจะใช้เครื่องมือตามมาตรการเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น