กบข.ตั้งเป้ารักษาผลตอบแทนปีหน้าไม่น้อยกว่า 5% ส่วนปีนี้ทำผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ 5.3% หวั่นสงครามการค้ากระทบลงทุน พร้อมแนะสมาชิกออมเพิ่มเพื่อบรรลุเป้าหมายหลังเกษียณ เดินหน้าลุยการลงทุนESG มุ่งสู่ความยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบ
นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เปิดเผยว่า พอร์ตการลงทุนของกบข.ในปัจจุบันอยู่ที่ 950,000 ล้านบาท ส่วนพอร์ตสมาชิกปัจจุบันอยู่ที่ 400,000 กว่าล้านบาท คาดว่าในปีหน้าจะมีเงินเข้ามาเพิ่มในพอร์ตลงทุนประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท โดยกบข.จะพยายามรักษาผลตอบแทนให้อยู่ในระดับสูงบวกลบที่4% ด้านสัดส่วนการลงทุนปัจจุบันแบ่งเป็น ตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ 65% หุ้นไทย7% หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว 7% หุ้นประเทศเกิดใหม่ 3% ที่เหลือเป็นการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือกและสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งนี้ กบข.คงสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวสำหรับช่วงปี2563
สำหรับทิศทางการลงทุนของกบข.ช่วงปีนี้ กบข. มั่นใจว่าผลตอบแทนจากลงทุนไม่น้อยกว่า5% โดยปัจจุบันผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ที่ 5.3% ส่วนแนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วงปี2563 กบข.ยังคงมีแผนรักษาผลตอบแทนจากการลงทุนให้ไม่น้อยกว่า5% เช่นเดียวกับปีนี้ แม้ว่าทิศทางการลงทุนในช่วงปีหน้าจะยังคงมีปัจจัยลบสำคัญอย่างสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนก็ตาม โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส1/2563 ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
"การลงทุนในตลาดต่างประเทศช่วงปีหน้า โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนกลับมาในระดับสูงเหมือนช่วงปีนี้คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศช่วงปีนี้เติบโตสูงถึง25% และยังมีปัจจัยลบอย่างสมครามทางการค้าฯยังกดดันอยู่ และการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจากตราสารทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีเมื้อเทียบกับช่วงดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ"นายวิทัยกล่าว
นายวิทัย กล่าวอีกว่า สำหรับแผนงานในปี 2563 กบข.จะมุ่งสู่การเป็นกองทุนบำนาญยั่งยืนภายใต้ 2 เป้าหมายหลัก คือ สมาชิกมีเงินออมเมื่อเกษียณที่เพียงพอ และ สังคมมีความยั่งยืน ภายใต้เป้าหมายสมาชิกมีเงินออมเมื่อเกษียณที่เพียงพอ โดยกบข.กำหนดเกณฑ์เทียบวัดมาตรฐานไว้ว่า สมาชิก กบข.ควรเกษียณโดยมีเงินออม ณ เกษียณคิดเป็น80% ของเงินเดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว สมาชิกต้อง “ออมเพิ่ม” และ “เลือกแผนลงทุน” ที่เหมาะสม นั่นก็หมายความว่ากบข.ต้องทำให้สมาชิกพอใจและเชื่อมั่นก่อน และวิธีการสำคัญที่จะทำให้สมาชิกเกิดความรู้สึกเช่นนั้นก็คือ ผลตอบแทน กบข.ต้องเป็นบวกต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ในส่วนผลสำเร็จของแผนงานนี้ กบข. ได้กำหนดเป้าหมายไว้ว่าสมาชิกไม่ต่ำกว่า 10% หรือ 100,000 คน ต้องออมเพิ่มและเลือกแผนลงทุนเพิ่มเติมในปี 2563
ส่วนแนวโน้มการผลักดันเรื่อง ESG ช่วงที่ผ่านมากบข.ได้ร่วมมือกับธนาคารโลก ซึ่งเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการยกระดับการลงทุนเพื่อความยั่งยืน มุ่งสู่การเป็น Sustainable Pension อย่างเต็มรูปแบบ ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับกองทุนบำนาญระดับโลก ทั้งนี้ กบข.และธนาคารโลกมีเป้าหมายร่วมกันที่จะให้ กบข. เป็นต้นแบบกรณีศึกษาต้นแบบ(Showcase)ของกองทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการบริหารจัดการเงินลงทุน โดยใช้ปัจจัยด้าน ESG อย่างเต็มรูปแบบนี้
