xs
xsm
sm
md
lg

MTL ทุ่ม 3.8 พันล้านลงทุนอสังหาฯ มั่นใจเหมาะลงทุนยาว-เพิ่มโอกาสทำยิลด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทยประกันชีวิตทุ่ม 3.8 พันล้านลงทุนพัฒนาอสังหาฯ เปิดตัวโครงการ “66 Tower” (ซิกตี้ซิกส์ ทาวเวอร์) The Living Workplace Solution อาคารสำนักงานให้เช่า ชูทำเลดี ตอบโจทย์ความต้องการคนรุ่นใหม่ มั่นใจเหมาะลงทุนระยะยาวสอดคล้องกับบริษัทประกันชีวิต แถมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน เหตุดีมานด์เช่าพื้นที่สำนักงานยังโตกว่าซัปพลาย

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเมืองไทประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการขยายการลงทุนทางตรงในอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเป็นการลงทุนทางตรงมูลค่าประมาณ 3,800 ล้านบาทกับอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ ภายใต้ชื่อโครงการ “66 Tower” (ซิกตี้ซิกส์ ทาวเวอร์) The Living Workplace Solution ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 และจะมีบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนในการปล่อยพื้นที่เช่าสำนักงานแต่เพียงผู้เดียว

สำหรับการลงทุนในครั้งนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในการหาผลตอบแทน นอกเหนือจากพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ หุ้น หรือกองทุนรีท โดยสัดส่วนการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นไปตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นผู้กำหนด ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์การลงทุนอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท และยังสามารถลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้อีก และการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้การลงทุนตรงในอสังหาริมทรัพย์รวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท

“การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ต้องเป็นการลงทุนระยะยาว และโครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ 2 ที่เราลงทุน แต่เป็นโครงการแรกที่มีการพัฒนาจากการเข้าซื้อที่ดินและจัดทำเป็นโครงสร้างไม่เหมือนอันแรกที่เป็นการเข้าซื้อตึกเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์ในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ส่วนเรื่องผลตอบแทนก็อยู่ในระดับที่ดีแต่คงจะไม่ถึงตัวเลข 2 หลัก โดยหลังจากนี้มีความสนใจจะลงทุนในอสังหาฯ เพิ่มเช่นกันแต่คงต้องดูรายละเอียดต่างๆ ก่อน” นายสาระกล่าว

โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ง่ายต่อการเชื่อมต่อเศรษฐกิจชั้นใน และโซนธุรกิจอุตสาหกรรม รวมถึงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC: Eastern Economic Corridor) นอกจากนี้ อาคารตั้งอยู่ใกล้ BTS สถานีอุดมสุขเพียง 150 เมตร สะดวกต่อการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง อีกทั้งยังใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้ง 3 สาย (ทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางด่วนฉลองรัช และทางด่วนบูรพาวิถี) รวมถึงสามารถเดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็ว

ด้านนายนิธิพัฒน์ ทองพันธุ์ กรรมการบริหารและหัวหน้าแผนกพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CBRE กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราพื้นที่ว่างเพียง 7% ในส่วนของค่าเช่ายังคงขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน แต่ขยับขึ้นในอัตราที่ลดลง อย่างไรก็ตาม โครงการใหม่ๆ จะทยอยเพิ่มเข้าสู่ตลาดในปี 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น

"ความต้องการอาคารสำนักงานยังเติบโตอยู่ ขณะที่จำนวนอาคารสำนักงานให้เช่าจะเพิ่มเข้ามาในตลาดประมาณอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งโครงการเราจะเสร็จก่อนในอีก 2 ปี และเชื่อว่าการจัดการโครงการนี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้ทั้งในเรื่องของที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงพื้นที่ใช้สอย" นายนิธิพัฒน์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น