xs
xsm
sm
md
lg

SCBAM ล่าติดกองทุน 5 ดาว เชื่อสาขาแบงก์หดดิจิตอลช่วยได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.ไทยพาณิชย์รุกดิจิตอลรับแบงก์ลดสาขา มั่นใจไม่ส่งผลกระทบ พร้อมปรับตัวไล่ล่าติดดาวกองทุนทุกสินทรัพย์ หวังเป็นมาตฐานดึงลูกค้าลงทุนยาว ตั้งเป้า AUM ปีจอแตะ 1.5 ล้านล้าน พร้อมออกกองลุยนอกแบบแอ็กทีฟ ส่วนหุ้นปีนี้คาดอยู่ในกรอบ 1,900 จุด ระบุปีนี้ตราสารหนี้เริ่มน่าสนใจลงทุนหลังดอกเบี้ยจ่อปรับขึ้น

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจกองทุนมีการเปลี่ยนแปลง แนวโน้มการปรับลดสาขาธนาคารในอนาคตทำให้บริษัทต้องมีการปรับตัวด้านดิจิตอลเทคโนโลยีมากขึ้น นอกจากนี้ การธนาคารเริ่มปรับแนวทางธุรกิจมาเป็นแบบ Open Architectu ทำให้บริษัทต้องพัฒาสินค้าให้สามารถแข่งขันได้เพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปรับลดสาขาของธนาคารจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากได้มีการพัฒนาช่องทางดิจิตอลเอาไว้รองรับแล้ว และแบงก์เองก็มีการเพิ่มบุคลากร และเครื่องมือเอาไว้เพื่อให้ความสะดวกแก่นักลงทุนเพิ่มเติมด้วย

ส่วนการพัฒนาสินค้านั้น บริษัทตั้งเป้าเพิ่มกองทุนที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากนักลงทุนให้ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ที่บริษัทเปิดขาย โดยจะต้องเป็นกองทุนที่มีผลงานสม่ำเสมอ

“เราต้องอัปเกรดกองทุนที่เรายังไม่มี 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ให้มี 5 ดาวครบทุกสินทรัพย์ภายในปี 2019 และต้องรักษาผลงานให้สม่ำเสมอ ให้ลูกค้ายอมรับ โดยเฉพาะกองตราสารหนี้ซึ่งไม่เคยได้ เราต้องสร้างและรักษามาตรฐานตรงนี้เพื่อให้ลูกค้าลงทุนกับเราไปนานๆ”

นายสมิทธ์กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อน คาดว่าสิ้นปี 2561 แตะที่ระดับ 1.5 ล้านล้านบาท โดยกองทุนทุกประเภทภายใต้การบริหารของบริษัทยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

ส่วนผลการดำเนินงานบริษัทช่วงปี 2560 บริษัทมี AUM ที่ 1,374,936 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 19.8% เติบโตจากปี 2559 คิดเป็นอัตรา 5.2% กองทุนของบริษัทมีการเติบโตมากที่สุดในกลุ่มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ที่ 364,376 ล้านบาท เติบโต 12.1% จากสิ้นปี 2559 ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 43.3% และยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) อยู่ที่ 113,319 ล้านบาท และธุรกิจกองทุนรวม (Mutual Fund) อยู่ที่ 879,241 ล้านบาท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) มูลค่ารวม 89,920 ล้านบาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) 55,463 ล้านบาท

ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทยังคงมุ่งมั่นเป็น บลจ.ที่ 1 ในใจลูกค้า หรือ The Most Admired Asset Management โดยการออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและทันสมัยตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งกองทุนประเภทกลุ่ม Income ที่สร้างรายได้ระหว่างทาง รวมถึงรูปแบบการลงทุนต่างประเทศที่ครบวงจร โดยจะเป็นการนำเสนอกองทุนหุ้นต่างประเทศที่บริหารจัดการแบบ Active เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น เป็นต้น

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนต่อเนื่อง มองดัชนีหุ้นไทยอีก 12 เดือนข้างหน้าจากนี้อยู่ที่ระดับ 1,750-1,900 จุด กำไรธุรกิจ บจ.อยู่ที่ 10% พี/อีที่ 16-17 เท่า หลักทรัพย์ที่น่าลงทุนยังคงเป็นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร

อย่างไรก็ตาม การลงทุนตราสารหนี้ถือว่ากลับมาน่าสนใจอีกครั้งหลังดอกเบี้ยสหรัฐฯ เตรียมปรับเพิ่ม แต่ต้องเลือกตราสารที่มีอายุประมาณ 2 ปี และคาดหวังผลตอบแทนจากการถือตราสารหนี้จนครบอายุไถ่ถอน


กำลังโหลดความคิดเห็น