บล. กรุงศรี ประเมินหุ้นไทยปี 61 ที่ระดับ 1,800 จุด ยันพื้นฐานประเทศแข็งแกร่ง ลงทุนภาครัฐ-เลือกตั้งปลายปีหน้าหนุน
นายอุดมการณ์ อุดมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บล. กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทยปี 61 (SET Index) จะอยู่ที่ระดับ 1,800 จุด บนระดับ P/E 15 เท่า ซึ่งเป็นระดับดัชนีที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลในรอบ 25 ปี หลังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีจากภาคการส่งออกที่ขับเคลื่อนเป็นหลัก รวมถึงการลงทุนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ ที่จะทำให้มีเม็ดเงินออกมามากขึ้น หลังจากเริ่มเดินหน้าลงทุนอย่างจริงจังในปีหน้า และการบริโภคภาคเอกชนที่คาดว่าจะฟื้นกลับมา หลังจากที่ราคาสินค้าเกษตรเริ่มปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งความชัดเจนของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปลายปีหน้า ก็จะหนุนให้มีกระแสเงินทุนไหลเข้ามาก่อนช่วงการเลือกตั้ง 2-3 เดือน
ส่วนปัจจัยภายนอก ยังคงมองว่า การที่เศรษฐกิจโลกในประเทศใหญ่ เช่น สหรัฐฯ จีน และยุโรป เริ่มกลับมาขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ที่จะได้รับอานิสงส์สู่ภาคการส่งออกไทยให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การแต่งตั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ คือ นายเจอโรม พาเวล (Jerome Powel) ไม่น่ากดดันตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะแนวโน้มการดำเนินนโยบายของประธานเฟดคนใหม่ยังสอดคล้องกับประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ และทยอยปรับขึ้นอีกในปีหน้า รวมถึงการเดินหน้าทยอยปรับลดงบดุลของสหรัฐฯ แต่ปัจจัยดังกล่าวตลาดได้รับรู้ไปมากแล้ว ทำให้จะไม่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญในปี 61
นอกจากนี้ ยังคาดว่านักลงทุนต่างชาติจะปรับน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็น Overweight จากปัจจุบันที่มีมุมมอง Underweight และ Neutrual หลังจากที่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยกลับมาแข็งแกร่ง และราคาซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นไทยถือว่าถูกกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค และการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีแนวโน้มที่สูงขึ้น ซึ่ง บล. กรุงศรี คาดว่า อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS Growth) ในปี 61 จะเติบโต 8% หรือคิดเป็น 113 บาทต่อหุ้น สูงขึ้นจากปี 60 ที่เติบโต 3% หรือคิดเป็น 102-103 บาทต่อหุ้น ซึ่งทำให้คาดว่าในปี 61 จะเห็นการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น
“ดัชนี SET ปี 61 น่าจะแตะระดับ 1,800 จุด ได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า เพราะปกติในช่วง 2-3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง จะมีกระแสเงินไหลเข้ามา ซึ่งช่วยหนุนดัชนี และปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเทรดใน P/E ที่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเองตลาดหุ้นภูมิภาคที่ 17 เท่า แต่ตลาดหุ้นไทยแค่ 15 เท่า เพราะที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย Laggard กว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคมาเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร ส่วนปีนี้ยังมองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังยืนเหนือ 1,700 จุดได้ และช่วงปลายปีนี้ จะได้รับแรงหนุนจากกองทุน LTF และ RMF เข้ามาหนุน แม้ว่าอาจจะถูกแรงกดดันของการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ แต่คาดว่าจะไม่กดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายปีมาก” นายอุดมการณ์ กล่าว
นายอุดมการณ์ กล่าวว่า ส่วนหุ้นที่มองว่าเป็น Top Pick ในปี 61 ได้แก่ ANAN, AMATA, BCH, CBG, CPALL, CPN, IVL, MINT, SPA และ TISCO ซึ่งหุ้นดังกล่าวที่เคยแนะนำทุกตัว ยกเว้น ANAN คาดว่าจะมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เติบโตในระดับตัวเลขสองหลัก
ขณะเดียวกัน ยังให้น้ำหนัก Overweight กลุ่มโรงพยาบาล, อสังหาริมทรัพย์, ปิโตรเคมี, ท่องเที่ยว และกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่จะได้คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการบริโภคที่ฟื้นตัว หลังจากราคาสินค้าเกษตรกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/60
ส่วนกลุ่มที่ยังให้น้ำหนัก Neutral ได่แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์, อาหารและเครื่องมือ, อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสื่อสาร แต่มองว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ จะมีการปรับมุมมองที่ดีขึ้นไนช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า หากผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลับมาโดดเด่นในช่วงไตรมาส 2/61 และกลุ่มที่ยังให้น้ำหนัก Underweight คือ กลุ่มธุรกิจสายการบิน ที่เผชิญกับการแข่งขันที่สูง และต้นทุนที่มีความผันผวน