xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตลั่น AUM แตะ 2.8 แสนล้าน ชี้ ปี 61 ปีทองหุ้นไทย-เทศ รับ ศก.โต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.ธนชาต ตั้งเป้าปีหน้า AUM แตะ 2.8 แสนล้านบาท เน้นขยายฐานลูกค้าแบงก์ พร้อมรักษาฟอร์มเก่ง ผลการดำเนินงานดี และออกกองทุนใหม่ช่วยหนุน ระบุ ปีหน้าจังหวะดี ปีทองตลาดหุ้นไทย - เทศ รับอานิสงส์เศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกโตเพิ่ม คาด ดัชนีวิ่งแตะ 1,900 จุด แต่แนะจับตาเฟด เงินเฟ้อ กระทบการขึ้นดอกเบี้ยและบรรยากาศลงทุน

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้สินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร (AUM) ของบริษัทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2559 ที่ 1.9 แสนล้านบาท ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือ 20% โดยแบ่งเป็นกองทุนรวม 2 แสนล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล 1.5 หมื่นล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.7 - 2.8 แสนล้านบาท

สำหรับการเติบโตของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นการเติบโตผ่านช่องทางธนาคารธนชาตสูงถึง 90% ส่วนที่เหลืออีก 10% จะเป็นการขายผ่านโบรกเกอร์ หรือ ตัวแทนอิสระที่บริษัทมีอยู่ โดยคาดว่าในปีหน้าอัตราการเติบโตจะเป็นไปตามเป้าและเป็นสัดส่วนเดียวกัน

“ปีหน้าเราคาดว่าจะเติบโตจากลูกค้าแบงก์เหมือนเดิม เพราะเท่าที่เราดูสัดส่วนลูกค้าเรากับฐานเงินฝากแบงก์แม่อยู่แค่ 20% เท่านั้น ทำให้ยังมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก ซึ่งถ้าดูจาก บลจ. ที่มีแบงก์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วจะมีสัดส่วนลูกค้าที่มาลงทุนที่ประมาณ 40% และยิ่งถ้าเป็นแบงก์ขนาดใหญ่แล้วคาดว่าจะมีสัดส่วนถึง 50% เลยทีเดียว ส่วนกองทุนที่จะเติบโตคงเป็นกองทุนรวมเป็นหลักเช่นกัน แต่ก็พยายามขยายฐานลูกค้ากลุ่มอื่นด้วยทั้งกองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” นายบุญชัย กล่าว

นายบุญชัย กล่าวอีกว่า นอกจากช่องทางการจัดจำหน่ายแล้ว สิ่งที่บริษัทจะต้องทำเพื่อขยายฐานลูกค้าให้เข้ามาลงทุนกับบริษัทจะมีอยู่ด้วยกัน 2 เรื่องประกอบกัน คือ 1. ผลการดำเนินงานของกองทุน ซึ่งจะต้องรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลตอบแทนและความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสมให้แก่นักลงทุน 2. การออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์แก่นักลงทุนตามสถานการณ์ ซึ่งทั้ง 2 ด้านนี้จะต้องมีควบคู่กันเพื่อการขยายฐานลูกค้าในอนาคต

“ผลงานจะเป็นตัววัดของเรา แต่ไม่ใช่บางช่วงดีมาก บางช่วงตกลงจนเกินไป มันต้องมีความสม่ำเสมอต่อเนื่อง และมีผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง ซึ่งถ้าดูจากรางวัลบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยอดเยี่ยมที่เราได้จากตลาดหลักทรัพย์ เราก็ไม่ได้เพิ่งได้แต่เราได้มาแล้วถึง 5 ปีเพียงแต่เราจะรักษามาตรฐานอย่างไรให้ได้ 7 - 8 ปี ติดต่อกันก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนการออกกองทุนก็มีผลถ้าเราไม่มีกองทุนใหม่เลยมันก็ไม่ได้เพราะบางช่วงอย่างดอกเบี้ยขาขึ้นเราก็ต้องดูจังหวะบาง แต่ถามว่าเอาของเก่าที่มีมาขายใหม่ได้ไหม มันก็ได้ แต่บางจังหวะก็คงต้องมีสินค้าใหม่ให้นักลงทุนด้วย” นายบุญชัยกล่าว

ส่วนปีหน้าบริษัทคาดว่าจะมีการเปิดขายกองทุนใหม่เพิ่มเติม โดยจะเป็นกองทุนหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเน้นกองทุนหุ้นไทยเป็นหลัก ส่วนกองทุนต่างประเทศน่าจะเป็นกองทุนประเภทตีมฟันด์ อย่างเทคโนโลยี หรือ โรบอท เป็นต้น

นายบุญชัย กล่าวอีกว่า แนวโน้มการลงทุนในปีหน้า คาดว่า จะเป็นปีทองของผู้ที่ลงทุนในหุ้น ไม่ว่าจะหุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศ ซึ่งปัจจัยหลักๆ คือ เศรษฐกิจโลกเติบโตได้ดี ถึงแม้ว่าการเติบโตครั้งนี้จะไม่โดดเด่นหรือร้อนแรงอย่างที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้แต่สิ่งสำคัญ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณที่ดีในแทบทุกภูมิภาคและเป็นการเติบโตที่ต่างส่งเสริมกัน ทำให้ผลตอบแทนจากกองทุนหุ้นทั่วโลกทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจและยิ่งในไทยช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมาพบว่าผลตอบแทนหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นอย่างมาก

สำหรับในปีหน้า บลจ.ธนชาต ยังคงมองว่าหุ้นไทยยังมีศักยภาพเติบโตได้ต่อ บริษัทคาดว่าดัชนีหุ้นไทยปี 2561 มีโอกาสแตะระดับ 1,900 จุดได้ เพราะปีหน้ายังมีการลงทุนโครงการใหญ่ๆ ของภาครัฐบาลเหลืออีกมากและแน่นอนว่าเมื่อทิศทางเศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวได้ย่อมส่งผลให้การส่งออกของไทยเติบโตตามได้

ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้มีเพิ่มการประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้าให้กับไทยฟิลิปปินส์เวียดนามและสิงคโปร์และกระทรวงการคลังประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีหน้าไว้มากกว่า 4% ทำให้ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าในปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

“หุ้นปีหน้าจะโตจากกำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก ซึ่งน่าจะอยู่ประมาณ 8% จากประมาณการ P/E ที่ 16 เท่าครึ่ง และมีแนวรับอยู่ที่ประมาณ 1,680 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อโลกที่มีแรงกดดันต่อนโยบายการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ซึ่งเราจะให้น้ำหนักเรื่องนี้มาก แต่ก็มีเรื่องอื่นที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้เช่นกัน” นายบุญชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น