xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.วรรณประกาศค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน ONE-HYPER จากเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.วรรณแจงกองทุน ONE-HYPER ยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีจากตราสารหนี้คุณภาพตัวอื่น พร้อมประกาศลดค่าธรรมเนียมการจัดการให้แก่ผู้ถือหน่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ เป็นตั๋วแลกเงินทั้งหมด โดยไม่ใช่การลงทุนในหุ้นกู้แต่อย่างใด สำหรับกองทุนเปิด วรรณ ไฮเปอร์ ไฟแนนเชียล อินสตรูเมนท์ ฟันด์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ONE-HYPER) ซึ่งมีการลงทุนในตั๋วแลกเงิน บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ มูลค่า 100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.4% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิกองทุนนั้น กองทุนมีแนวทางที่จะดำเนินการแยกทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมดออกจากพอร์ตการลงทุน (Set Aside) เพื่อเข้าสู่กระบวนการติดตามชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ภายหลัง Set Aside กองทุน ONE-HYPER ยังคงมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตจากตราสารหนี้ที่ลงทุนอยู่ในปัจจุบันประมาณ 2.5-2.6% ต่อปี

“ในการติดตามทวงถามชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องของตั๋วแลกเงิน ลำดับขั้นตอนการติดตามหนี้จะแตกต่างจากหุ้นกู้ โดยไม่ต้องรอการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ตามขั้นตอนกระบวนการของหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหุ้นกู้ โดย บลจ.วรรณอยู่ในระหว่างการติดตามทวงถามการชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้อง ซึ่งตามกระบวนการ เมื่อได้รับการชำระหนี้ บริษัทจัดการจะเฉลี่ยคืนเงินได้สุทธิที่ได้รับให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อ ณ วัน Set Aside ภายใน 45 วันนับจากวันที่ได้รับการชำระคืนหนี้” นายพจน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่าการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์แต่ละกองทุนที่นำเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนนั้น บริษัทมีกระบวนการคัดเลือกตราสารที่เข้มงวด โดยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) ได้มีการยืนยันเรตติ้งหรืออันดับความน่าเชื่อถือตราสารของ EARTH ที่ระดับ BBB- (Stable) ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองการวิเคราะห์ของผู้จัดจำหน่ายและข้อมูลการวิเคราะห์ของ บลจ.วรรณมาโดยตลอด โดย บลจ.วรรณขอให้ความเชื่อมั่นว่า ตราสารที่เป็นหลักทรัพย์ที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็นหลักทรัพย์ที่ลงทุนได้เป็นตราสารที่ความสามารถในการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยในระดับสูง

นายพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว นอกเหนือจากการติดตามทวงถามชำระหนี้อย่างใกล้ชิด บริษัทได้รักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยประกาศลดค่าธรรมเนียมการจัดการตั้งแต่วันเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้คือวันที่ 8 มิ.ย. จนถึง 31 ก.ค.นี้ และได้หยุดรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันไม่ได้เปรียบเสียเปรียบของผู้ถือหน่วยลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น