บลจ.กรุงศรีชูศักยภาพการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพเติบโตสูงและได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนเหนือกว่าตลาดโดยรวม เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-28 มิถุนายน 2560
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “บริษัทเล็งเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของการจ้างงานและตัวเลขรายได้ยังคงแข็งแกร่ง สภาวะตลาดเอื้อต่อการเติบโตของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในสหรัฐฯ อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาหุ้นสามารถปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า GDP ของสหรัฐฯ ในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.2%-2.3% ซึ่งการเติบโตของ GDP ในระดับดังกล่าวถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกทั้งหุ้นขนาดเล็กสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ GDP เติบโต 2-3%”
“การลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐฯ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐฯ จำนวนมากมีศักยภาพการเติบโตสูง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านความครอบคลุมและการเข้าถึงข้อมูลของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่มีอยู่อย่างจำกัดทำให้ถูกนักลงทุนมองข้าม ทั้งที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวมีความน่าสนใจและสามารถสร้างผลตอบแทนได้เหนือกว่าตลาดโดยรวมในระยะยาว และมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ ระดับราคาของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐฯ ในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวและได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากสัดส่วนรายได้ของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กส่วนใหญ่มาจากรายได้ในประเทศกว่า 80%
นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่านโยบายลดภาษีนิติบุคคลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีความเป็นไปได้สูง และหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์และมีโอกาสเติบโตที่ดีขึ้นจากการปรับลดภาษีนิติบุคคลดังกล่าวมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ จึงเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว”
“บลจ.กรุงศรีเล็งเห็นโอกาสและสามารถเข้าถึงข้อมูลการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐฯ จึงเสนอทางเลือกใหม่ให้ผู้ลงทุนด้วยกองทุนเปิดกรุงศรียูเอสสมอล-มิดแคปอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HSMUS) โดยลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ Schroder ISF US Small & Mid-Cap Equity Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งได้รับ Morningstar Rating 4 ดาว กองทุนหลักมีจุดแข็งในหลายด้าน ทั้งในส่วนของผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 37 ปี และทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมทั้งมีกระบวนการลงทุนที่แตกต่างโดยกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ 3 ประเภท ทั้งในส่วนของหุ้นเติบโตสูง หุ้นที่มีรายได้หรือกำไรสม่ำเสมอ และหุ้นที่กำลังฟื้นตัว กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวมและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในแต่ละภาวะเศรษฐกิจ”
“กองทุน KF-HSMUS เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมจากการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และมองหาโอกาสเพิ่มผลตอบแทนด้วยการลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง กองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Schroder ISF US Small & Mid-Cap Equity Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6 กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน” น.ส.ศิริพรกล่าว