บลจ.กรุงศรีเปิดกองใหม่ตอบโจทย์นักลงทุนรับยิลด์สม่ำเสมอจากการลงทุนทั่วโลก ชูฟิวเจอร์บริหารพอร์ตผ่านกองทุนขนาดใหญ่ พร้อมโชว์ผลตอบแทนกองแม่ไม่เคยติดลบตั้งแต่จัดตั้ง ระบุกองปันผลคนแห่ลงเพียบ คาดหุ้นไทยปีนี้มีปัจจัยหนุนทั้งเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวดันดัชนีเข้าป้ายสิ้นปี 1,432 จุด
นางสาวศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด หรือ KSAM เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการเสนอขายกองทุนใหม่ กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลอิควิตี้ลองชอร์ต หรือ KF-GLS ระหว่างวันที่ 8- 15 มิ.ย. 59 นี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงให้แก่นักลงทุน ซึ่งกองทุนนี้ยังอยู่ระหว่างการรออนุมัติจัดตั้งกองทุนจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อนจะทำการเสนอขาย
ทั้งนี้ กองทุน KF-GLS จะเน้นลงทุนในกองทุนหลัก UBS Equity Opportunity Long Short Fund ซึ่งบริหารจัดการโดย UBS Asset Management บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดยกองทุนหลักมีจุดเด่นหลายด้านทั้งในเรื่องของผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีปีใดที่ผลการดำเนินงานรายปีของกองทุนหลักติดลบตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2553 (ประวัติผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก (YTD=%EUR) ปี 53 = 1.1% ปี 54 = 6.6% ปี 55 = 2.4% ปี 56 = 4.3% ปี 57 = 10.5% ปี 58 = 20.7% ที่มา : Factset UBS Asset Management ณ 30 เม.ย. 59)
“กลยุทธ์ Long /Short Equity เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการรับมือกับความผันผวนของตลาดหุ้น ทำให้มีโอกาสกำไรแม้ในช่วงตลาดขาลง ต่างจากกองทุนหุ้นทั่วไปที่ใช้กลยุทธ์ Long เพียงอย่างเดียว กองทุนหลักยังให้ความสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการติดลบของเงินลงทุน โดยควบคุมพอร์ตการลงทุนไม่ให้มีความผันผวนเกิน 10% และติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอว่ามีทิศทางเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก็จะทำการ stop loss เพื่อไม่ให้ราคาหุ้นในพอร์ตปรับตัวลดลงไปมากกว่าเดิม ซึ่งกลยุทธ์นี้จะทำให้ได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในทุกภาวะตลาด” นางสาวศิริพรกล่าว
นางสาวศิริพรกล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในกองทุนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ในเดือนพฤษภาคมพบว่ากองทุนกรุงศรีหุ้นปันผลที่มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามามากที่สุดถึง 1,280 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่ากองทุนดังกล่าวยังสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนให้เข้ามายังพอร์ตลงทุนอย่างต่อเนื่อง สำหรับกองทุนกรุงศรีหุ้นปันผลเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลดีเป็นหลัก ปัจจุบันมูลค่ากองทุนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 17,000 ล้านบาท และมีโอกาสสูงที่มูลค่ากองทุนจะเติบโตกว่ามูลค่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือเติบโตอยู่ที่ระดับ 1,432 จุด โดยผลการทำกำไรของธุรกิจจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปีนี้โตประมาณ 11% ส่วนหลักทรัพย์ที่น่าสนใจ ฝ่ายลงทุนของบริษัทยังคงให้น้ำหนักหลักทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศเป็นหลัก รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่โตดี ประกอบด้วย หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
“ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังอยู่ในทิศทางดี โดยมาจากปัจจัยบวกที่เข้ามาสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตขึ้น ทั้งในเรื่องของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล การเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไหลเข้ามาจำนวนมาก การเดินหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในบางโครงการ ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้เป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวขึ้นแม้ว่าจะไม่หวือหวาก็ตาม” นางสาวศิริพรกล่าว
นางสาวศิริพรกล่าวอีกว่า ในส่วนของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร หรือ AUM ปีนี้บริษัทเชื่อว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 370,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ดังกล่าวเติบโตอยู่ที่ระดับ 330,000 ล้านบาท ขณะที่ AUM ช่วงปีที่ผ่านมาเติบโตอยู่ที่ระดับ 313,567 ล้านบาท โดยต่อจากนี้บริษัทมีแผนออกกองทุนหุ้นต่างประเทศในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้อีก 1-2 กองทุนด้วยกันเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้