ผู้จัดการรายวัน 360 - บลจ.กรุงศรีเชื่อมั่นหุ้นไทยยังน่าสนใจและไปต่อได้ พร้อมเปิดขายกองทุนเปิดกรุงศรีไทยออลสตาร์ปันผล (KFTSTAR-D) ชูศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในหุ้นไทยหลากหลายไม่จำกัดประเภทหุ้น และบริหารพอร์ตแบบยืดหยุ่นให้เหมาะกับทุกภาวะตลาด เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนรวมที่สูงกว่าตลาด เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 6-16 มีนาคม 2560
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด(บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “บริษัทยังคงมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตต่อเนื่องและมีความแข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเม็ดเงินขนาดใหญ่จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการใช้จ่ายของภาครัฐ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และภาคการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว โดยมีสินค้าเกษตรเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก”
“นอกจากนี้ เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย โดยเม็ดเงินลงทุนสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในปี 2559 ปรับตัวเป็นบวกต่อเนื่องมาจนถึงต้นเดือนมกราคม 2560 และหากเปรียบเทียบราคาหุ้นภายในกลุ่ม TIP Market คือ ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จะพบว่าราคาหุ้นไทยยังคงมีระดับราคาหุ้นต่อกำไร (PE) ที่ต่ำกว่า โดยราคาหุ้นต่อกำไรในตลาดหุ้นไทยในปีนี้อยู่ที่ระดับ 15.3 เท่า ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์อยู่ที่ระดับ 16.4 เท่า และ 17.3 เท่าตามลำดับ และคาดการณ์ว่าอัตราเงินปันผลของไทยยังคงสูงสุดในกลุ่ม TIP Market อีกทั้งกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนไทยยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจ และเมื่อประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจไทยและแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสเติบโตและสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้”
หากพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2555-2559 จะพบว่าหุ้นแต่ละประเภทสามารถสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกันในแต่ละปี เช่น ในปี 2555 หุ้นขนาดเล็กสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงสุดที่ 58.65% ต่อปี ขณะที่ปี 2556 หุ้นขนาดกลางสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงสุดที่ -1.98% ต่อปี และปี 2557 หุ้นขนาดเล็กสร้างผลตอบแทนได้สูงสุดที่ 26.24% ต่อปี เป็นต้น (ข้อมูล : Morningstar ณ 30 ธ.ค. 59) ดังนั้น การกระจายการลงทุนในหุ้นหลากหลายประเภทจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีจากทุกสภาวะตลาด
“กองทุน KFTSTAR-D เหมาะกับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสรับผลตอบแทนรวมสูงกว่ากองทุนที่เน้นหุ้นปันผลอย่างกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV) เพราะสไตล์การลงทุนในหุ้นปันผลจะเน้นผลตอบแทนจากการรับปันผลที่สม่ำเสมอจากหุ้นที่ลงทุน มากกว่าการแสวงหาการเติบโตของมูลค่าหุ้น ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 6-13 มีนาคม 2560 บริษัทจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนขาเข้าจากกองทุน KFSDIV กองทุนKFVALUE กองทุน KFSEQ และกองทุน KFSEQ-D มายังกองทุน KFTSTAR-D เพื่อส่งเสริมให้ผู้ลงทุนได้มีการกระจายการลงทุนที่กว้างและหลากหลายมากขึ้น”