ผู้จัดการรายวัน 360 - ซมโปะประกันภัยตั้งเป้าเบี้ยรับรวมติดท็อปเท็นในอุตสาหกรรมภายใน 4 ปี ส่วนปีหน้าคาดโตอีก 15% จากเบี้ยรับรวมปี 59 ที่กว่า 3 พันล้านบาท ระบุปี 2020 เพิ่มช่องทางขายผ่านแบงก์หลังมีข้อตกลงกับซีไอเอ็มบีเรียบร้อย ล่าสุดเปิดขายแบบประกันเดินทางใหม่ SOMPO GO JAPAN หวังขยายฐานลูกค้ารายย่อย ตั้งเป้าเบี้ย 80 ล้านบาทต่อปี
นายอิศรศักดิ์ เทศรัตนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของเบี้ยรับรวมในอีก 4 ปีข้างหน้าหรือภายในปี 2020 ให้ขึ้นไปติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของอุตสาหกรรมประกันภัย โดยในปีนี้บริษัทมีเบี้ยรับรวมกว่า 3 พันล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 9% ส่วนในปีหน้าบริษัทคาดว่าเบี้ยรับรวมจะเติบโตจากเดิม 3 พันล้านบาทประมาณ 15% และหลังจากปี 2020 บริษัทจะมีช่องทางแบงก์เพิ่มอีกหนึ่งช่องทางเพื่อทำการขยายฐานลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทซมโปะได้มีบันทึกข้อตกลงเรื่องนี้กับทางธนาคารซีไอเอ็มบีไว้แล้ว แต่จะเริ่มทำตามข้อตกลงดังกล่าวในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียก่อนจะมาเริ่มที่ประเทศไทย
นอกจากนี้ หลังจากที่บริษัททำการเจาะตลาดฐานลูกค้ารายย่อยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สัดส่วนลูกค้ารายย่อยของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 30% และอีก 70%เป็นลูกค้าองค์กร โดยต่อจากนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้ารายย่อยขึ้นไปถึง 50% ภายในปี 2020 และในปีหน้าบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์อีกไตรมาสละ 1 แบบเพื่อเจาะตลาดลูกค้ารายย่อยโดยเฉพาะ
“ลูกค้ารายย่อยเราเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนใหญ่ยังเป็นรถยนต์เป็นหลักประมาณ 40% ซึ่งนอนมอเตอร์จะอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งเราเจาะตลาดรายย่อยแต่ก็จะพยายามให้สัดส่วนของการประกันภัยรถยนต์ไม่ให้มากเกิน 50% โดยในปีหน้าภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยน่าจะมีปัจจัยบวกจากการลงทุนภาครัฐและโครงการขนาดใหญ่ และเราก็คาดว่าเบี้ยของเราน่าจะเติบโตกว่าอุตสาหกรรมได้ประมาณ 3 เท่า” นายอิศรศักดิ์กล่าว
นายอิศรศักดิ์กล่าวอีกว่า ล่าสุดเพื่อเป็นการเจาะตลาดลูกค้ารายย่อย บริษัทได้ทำการเปิดตัวแผนประกันเดินทางใหม่ SOMPO GO JAPAN พร้อมการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับวงการประกันภัยด้วยการเปิดตัวกรมธรรม์บนมือถือเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมมาให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า
ทั้งนี้ การออกแบบประกันเดินทางพิเศษดังกล่าว เนื่องจากบริษัทพบว่าปัจจุบันการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นของคนไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยในญี่ปุ่นเพิ่มจาก 1.5 แสนคนมาอยู่ที่ 8 แสนคนในปี 2015 ซึ่งกรมธรรม์ที่เสนอขายใหม่จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้น ได้แก่ 1. บริการให้คำแนะนำทางการแพทย์ทางโทรศัพท์และช่วยเหลือนัดหมายกับโรงพยาบาลในเครือในประเทศญี่ปุ่น 2. บริการให้ความช่วยเหลือประสานงานการสื่อสารทางการแพทย์กับหมอหรือเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่น โดยนักท่องเที่ยวไม่ต้องพบกับอุปสรรคทางภาษา และ 3. ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
“เราน่าจะได้เปรียบตรงที่เรามีบริษัทแม่เป็นญี่ปุ่น ซึ่งจะมีเครือข่ายของสถานรักษาพยาบาลถึงกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีเบี้ยจากแบบประกันนี้ประมาณ 80 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจากตัวเลขนักท่องเที่ยว 8 แสนคนเราคาดว่าจะมีประมาณ 2 แสนคนเข้ามาซื้อแบบประกันตัวนี้ของเรา” นายอิศรศักดิ์กล่าว