CIMB เผย หลังจากที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชียลดลงเล็กน้อย ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ด้านเศรษฐกิจปี 2017 GDPของสหรัฐฯ จะเติบโตขึ้น ทำให้เชื่อว่าทิศทางของเศรษฐกิจจะดีขึ้น
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50-0.75% ตามคาด พร้อมปรับการคาดการณ์ หรือ Dot Plot การปรับขึ้นดอกเบี้ยปี 2017 จากเดิม 2 ครั้ง เป็น 3 ครั้ง ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อย (น่าจะ sell on fact) ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลง จึงคาดว่าตลาดหุ้นเอเชียน่าจะปรับตัวลงตาม ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับขึ้น 10 bps เป็น 2.56% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
ที่น่าสนใจคือ Fed ปรับการประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปี 2017 เช่น GDP Growth จากเดิม 2.0% เพิ่มเป็น 2.1% อัตราการว่างงาน จากเดิม 4.6% เป็น 4.5% และอัตราเงินเฟ้อ คาดว่า 1.9% ทั้งหมดแสดงให้เห็นทิศทางว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามการทำงานของนายทรัมป์ ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการคลังและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะได้ผลมากเพียงใด
การตัดสินใจของ Fed ครั้งนี้เป็นไปตามคาด และเชื่อว่าตลาดได้สะท้อนความคาดหมายการขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งของเฟดในปี 2017 ไปแล้ว ประกอบกับนักลงทุนมีมุมมอง “บวก” ต่อความสำเร็จของนายทรัมป์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงเข้าสู่จุดเปราะบางมากขึ้น เพราะหากทรัมป์ไม่ deliver ก็จะสร้างความผิดหวังได้
กลุ่มหลักทรัพย์ที่ถูกเทขายออกมามากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และเชื่อว่ารับข่าวไปเกือบหมดแล้ว คือ ตราสารหนี้ และทองคำ โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีที่ปรับเพิ่มขึ้นมาจาก 2.1% เป็น 2.7% และราคาทองคำที่ปรับลดลงจาก $1,360 เหลือ $1,140 อยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน แนะนำเพิ่มน้ำหนักกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น-กลาง (เช่น CIMB-Principal iFIXED) และกองทุนทองคำ (iGOLD)
นอกจากนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์และ REIT ที่ราคาปรับย่อลงในช่วงเดือนที่ผ่านมาก็มีความน่าสนใจมากขึ้น แนะนำเพิ่มน้ำหนัก iPROP และ iPROPRMF กองทุนผสมตราสารหนี้ และรีทอย่าง SIF ก็น่าจะเริ่มฟื้นตัวแล้วเช่นกัน
สำหรับตลาดหุ้นไทยที่คาดว่าจะปรับตัวลงปลายสัปดาห์นี้ตามภูมิภาคและจากราคาน้ำมัน น่าจะเป็นจังหวะการเข้าลงทุนใน LTF และ EQRMF เพื่อสร้างพอร์ตมั่งคั่งและช่วยประหยัดภาษี