กมลประกันภัยรอด คปภ.ถอนคำสั่งเลิกรับประกันภัยหลังมีมติตามคำขอของบริษัท ระบุมีการปรับปรุงโครงสร้างและเพิ่มทุนเรียบร้อย ส่งผลให้เข้าเกณฑ์ความมั่นคงของบริษัทที่ตั้งไว้
รายงานจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเปิดเผยว่า ตามที่นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ได้มีคำสั่งให้บริษัทกมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558 และให้บริษัทเร่งแก้ไขประเด็นปัญหาต่างๆ เช่น การตั้งสำรองค่าสินไหมทดแทนและหนี้สินต่างๆ ให้ครบถ้วน การจัดหาเงินทุนเพื่อทำให้บริษัทดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด และปรับปรุงให้มีระบบงานของบริษัทและบุคลากรที่เหมาะสมเพียงพอที่จะให้บริการแก่ประชาชนและผู้เอาประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพนั้น แต่เนื่องจากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้อย่างครบถ้วน สำนักงาน คปภ.โดยความเห็นชอบของบอร์ด คปภ. จึงเสนอเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทกมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) นั้น
ต่อมาบริษัทได้ส่งหนังสือนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อขอให้พิจารณาระงับการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัทและให้บริษัทดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยได้ตามปกติ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ส่งเรื่องมายังปลัดกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงการคลังได้สั่งการให้ คปภ.พิจารณา และสำนักงาน คปภ.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รวมทั้งได้เสนอความเห็นต่อที่ประชุมบอร์ด คปภ.ในการประชุมครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2559 ซึ่งที่ประชุม คปภ.พิจารณาแล้วมีมติให้สำนักงาน คปภ.ดำเนินการเตรียมข้อมูลเพิ่มเติมและวิเคราะห์ในเชิงลึกเกี่ยวกับแผนธุรกิจและความเพียงพอของเงินทุนของบริษัทเพื่อประกอบการพิจารณาของบอร์ด คปภ.ตามข้อสังเกตของที่ประชุม และเสนอต่อบอร์ด คปภ.อีกครั้งหนึ่งก่อนสรุปความเห็นเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไป
ต่อมาในการประชุมบอร์ด คปภ. ครั้งที่ 6/2559 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 สำนักงาน คปภ.ได้นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมและการวิเคราะห์ในเชิงลึกเกี่ยวกับแผนธุรกิจของบริษัท ทั้งด้านการกำกับดูแลกิจการ ด้านความสามารถในการขยายธุรกิจ ด้านความสามารถในการทำกำไร ด้านฐานะการเงินและความมั่นคงทางการเงิน ด้านความพร้อมของระบบการควบคุมภายในและบุคลากร ประเด็นความเสี่ยงต่างๆ แนวทางการตรวจสอบและติดตามของสำนักงาน คปภ. ตลอดจนความเห็นในประเด็นข้อกฎหมาย ฯลฯ ต่อที่ประชุมบอร์ด คปภ. ซึ่งได้มีการพิจารณาและอภิปรายกันอย่างกว้างขวางในทุกมิติแล้วมีมติเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงาน คปภ.ว่า บริษัทกมลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้แก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงานตามคำสั่งนายทะเบียน ที่ 21/2558 ลงวันที่ 1 กันยายน 2558 ซึ่งออกตามความในมาตรา 52 ครบถ้วนแล้ว ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่ การบันทึกหนี้สินได้ครบถ้วน อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเกินกว่าที่อัตรากฎหมายกำหนด และมีระบบงานระบบควบคุมภายในที่เพียงพอ มีบุคลากรที่พร้อมจะเปิดดำเนินธุรกิจ และมีคุณภาพในการให้บริการแก่ประชาชนและผู้เอาประกันภัย จึงเห็นควรให้ยุติการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท และอนุญาตให้บริษัทเปิดดำเนินการธุรกิจประกันวินาศภัยได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป และให้นำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อโปรดทราบต่อไป
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงใหม่เกิดขึ้น กล่าวคือ ภายหลังที่ทาง คปภ.มีหนังสือเสนอท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้เพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท ปรากฏว่าบริษัทมีการเพิ่มทุนเข้ามาในบริษัท โดยมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากรวม 150 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินและมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนร้อยละ 157.10 อีกทั้งบริษัทยังได้มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทชุดใหม่ ปรับแผนธุรกิจใหม่ รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขระบบงานของบริษัท พร้อมจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานส่งให้สำนักงาน คปภ.แล้ว
โดยการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำนักงาน คปภ.ได้ทำอย่างรอบคอบตรงไปตรงมา โดยมีกระบวนการทำงานอย่างเข้มข้น รัดกุม และที่สำคัญมีข้อกฎหมายและข้อมูลต่างๆ รองรับอย่างชัดเจน อีกทั้งยังผ่านการกลั่นกรองของคณะกรรมการกลั่นกรองและเสนอแนะการใช้มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาบริษัทประกันภัยที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน หรือที่เรียกกันว่า “คณะกรรมการ ICU” ถึง 3 ครั้ง รวมทั้งบอร์ด คปภ.เองก็ได้พิจารณากันอย่างละเอียดและซักถามข้อสงสัยต่างๆ พร้อมให้สำนักงาน คปภ.วิเคราะห์ในเชิงลึก โดยพิจารณาทั้งประเด็นข้อกฎหมายและประเด็นอื่นๆ ประกอบกันทั้งก่อนที่จะมีมติก็ได้ให้ข้อสังเกตไปปรับปรุงในหลายประเด็น ซึ่งก็ได้มีการดำเนินการครบถ้วนแล้ว
“แม้ว่าจะยุติการเพิกถอนใบอนุญาตฯ ของบริษัทและเห็นชอบให้บริษัทเปิดดำเนินธุรกิจได้แล้ว แต่สำนักงาน คปภ.จะยังคงติดตามการดำเนินงานของบริษัทอย่างใกล้ชิดต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีฐานะการเงินและการดำเนินงานที่มั่นคงน่าเชื่อถือ” ดร.สุทธิพลกล่าวในท้ายที่สุด