บลจ.กรุงศรีคาดเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเหลือเพียง 2 ครั้งต่อปี ขณะที่ ECB และ BOJ ยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อ ส่งผลให้เงินลงทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่รวมถึงหุ้นไทย พร้อมวางเป้าดัชนีหุ้นไทยที่ 1,432 จุด แนะนักลงทุนแบ่งเงินลุยรีทส์ทั่วโลก
นางสาวศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นตอบรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 2 ครั้งในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ไว้ 4 ครั้ง รวมทั้งธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นยังคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำ จึงทำให้เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศมายังตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมทั้งตลาดหุ้นไทย จึงช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาพอสมควร
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ไว้ที่ 1,432 จุด บนคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต 11% จึงคาดการณ์ผลตอบแทนจากตลาดอยู่ที่ 11% และหากรวมเงินปันผลจะอยู่ที่ 14% ขณะที่จีดีพีของไทยปีนี้คาดเติบโต 3.2% จากมาตรการโครงการลงทุนของภาครัฐและการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจคือกลุ่มที่ได้ผลดีจากปัจจัยดังกล่าว
นางสาวศิริพร กล่าวต่อว่า ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การมองหาสินทรัพย์ที่ดีและเหมาะสมกับความเสี่ยงถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่ง บลจ.กรุงศรีมองว่าการลงทุนในรีสท์ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในประเทศไทยเพียงอย่างเดียวถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีและเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนอีกด้วย ล่าสุด บลจ.กรุงศรีเตรียมเปิดเสนอขายกองทุนกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ปันผล (KF-GPROPD) ระหว่างวันที่ 21-29 มีนาคม 2559
นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า ราคาของรีสท์ในประเทศไทยได้ปรับตัวสูงขึ้น แต่ค่าเฉลี่ยของรีสท์ในหลายภูมิภาคทั่วโลกยังคงต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานอยู่มากและยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป การปฏิรูปเศรษฐกิจจีน ซึ่งหมายถึงโอกาสที่ดีในโอกาสการลงทุนสำหรับลงทุนระยะยาว นอกจากนี้รีสท์ยังเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่นักลงทุนจากรูปแบบกระแสเงินสดจากค่าเช่าที่อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ สามารถสร้างได้ อีกทั้งยังมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากระดับราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยกองทุน KF-GPROPD จะลงทุนในกองทุนหลัก Standard life Investments Global SICAV-Global REIT Focus Fund ซึ่งกองทุนหลักมีความยืดหยุ่นในการลงทุนและมีประสบการณ์การลงทุนมากกว่า 50 ปี ทำให้ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองการลงทุนในเชิงลึกในการหาแนวทางการลงทุนที่ดีที่สุดในแต่ละสภาวะตลาดอีกด้วย สำหรับนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักนั้นกระจายการลงทุนรีสท์ทั่วโลกดังนี้ สหรัฐฯ 52% ญี่ปุ่น 15% ฝรั่งเศส 8% อังกฤษ 6% ออสเตรเลีย 5% สวีเดน 4% สเปน 3% ฮ่องกง 3% และจีน 3% เป็นต้น