xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กรุงศรีแนะลุยหุ้นให้น้ำหนักไทย 30%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงศรีตั้งเป้าปีวอกปั้น AUM แตะ 3.73 แสนล้านบาท ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม 14% โชว์ปี 58 ผลงานแจ่มไต่ขึ้นอันดับ 5 ของอุตสาหกรรมเรียบร้อย แนะปีนี้ลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่ม รับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ให้น้ำหนักหุ้นไทยมากสุด 30% ส่วนหุ้นประเทศพัฒนาแล้วให้ 24%

นางสาวศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2559 นั้น บริษัทตั้งเป้าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร 373,000 ล้านบาท และขยายฐานลูกค้าเพิ่ม 14% โดยใช้กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าผ่านเครือข่าย ธ.กรุงศรี มากกว่า 630 สาขาและ BTMU ที่มีความแข็งแกร่งในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น เน้นมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีแนวโน้มดีเหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนเพื่อเพิ่มทางเลือกในพอร์ตการลงทุนของลูกค้า และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว

“ในปีที่ผ่านมาเราขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 จากเดิมในปี 57 ที่เรามีสินทรัพย์อยู่ในอันดับ 6 โดยหลังจากนี้เราจะเน้นการเติบโตที่มีคุณภาพและเสถียรภาพ ซึ่งเราจะต้องมีโปรดักต์ให้ครบทุกประเภทและระดับความเสี่ยง รวมถึงการกระจายการลงทุนไปทุกตลาดทั่วโลก ทั้งในประเทศไทย ยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เพื่อให้สามารถนำสินค้าเหล่านี้มาจัดการให้เหมาะสมกับความต้องการของนักลงทุนได้มากที่สุด ส่วนประเด็นการโยกเงินลงทุนออกจากบริษัทเพื่อติดตามไปลงทุนกับผู้บริหารชุดเดิมที่ลาออกหรือไม่นั้น ส่วนตัวเชื่อว่าบริษัทมีความเป็นมืออาชีพและดำเนินงานได้อย่างราบรื่นต่อไป”นางสาวศิริพรกล่าว

ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทถือว่าประสบความสำเร็จ โดยบริษัทมีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) มูลค่า 3.2 แสนล้านบาท หรือเติบโต 15% จากสิ้นปี 2557 ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต 8% โดยในส่วนของกองทุนรวมภายใต้การบริหารมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.6 แสนล้านบาท หรือเติบโต 20%

ในขณะที่อุตสาหกรรมโต 6.7% และมีส่วนแบ่งการตลาดของกองทุนรวมเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 จากอันดับ 6 ในปีก่อนหน้านี้ รวมทั้งมีจำนวนลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น 20% ด้วยเช่นกัน” (ข้อมูล : AIMC ณ 30 ธ.ค. 58)

นอกจากนี้ ในส่วนของกองทุนรวมต่างประเทศก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) มีการเติบโตกว่า 220% จากสิ้นปี 2557 และมียอดเงินลงทุนไหลเข้าสุทธิสูงที่สุดในอุตสาหกรรม ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของกองทุนรวมต่างประเทศ (ไม่รวมกองทุน Term Fund) ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรมจากอันดับ 4 ในปีก่อนหน้านี้ (ข้อมูล : Morningstar ณ 30 ธ.ค. 58)

แนะลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงจัดหุ้นไทย34%

นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า ข้อมูลจากธนาคารกรุงศรีคาดการณ์ว่าจีดีพีไทย (GDP) เติบโต 3.2% ในปี 2559 เนื่องจากมีปัจจัยที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่หลายประการ ทั้งในส่วนพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่มีความแข็งแกร่ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแผนการลงทุนในโครงการลงทุนของภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการเร่งลงทุนของรัฐวิสาหกิจจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการลงทุนภาคเอกชนให้กลับมาฟื้นตัว ทั้งนี้ การบริโภคของภาคเอกชนจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ภาคการท่องเที่ยวยังคงสดใส โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่ยังคงเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะยาวถึงแม้ว่าในระยะสั้นตลาดจะยังคงมีความผันผวนอยู่บ้าง

โดยคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนฯ ปี 2559 จะเติบโต 10% และตลาดหลักทรัพย์ไทยยังเป็นที่น่าสนใจต่อนักลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค

สำหรับสัดส่วนการลงทุนที่บริษัทแนะนำในระยะเวลา 1 ปีต่อจากนี้นั้น แบ่งเป็นการลงทุนในหุ้น 63% ตราสารหนี้ 37% โดยในส่วนของหุ้นนั้นจะแบ่งเป็นการลงทุนในหุ้นไทย 30% หุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว 24% หุ้นประเทศกำลังพัฒนา 9% โดยบริษัทเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีเนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในช่วงฟื้นตัวโดยหุ้นไทยที่เหมาะลงทุนจะเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงมากกว่าหุ้นปันผล รวมถึงหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก เนื่องจากจะมีความผันผวนจากการลงทุนของต่างชาติน้อยกว่าหุ้นในกลุ่ม SET50


กำลังโหลดความคิดเห็น