“บลจ.บัวหลวง” โต้ข่าวลือซื้อหุ้น “CPALL” เพิ่มเข้าพอร์ต ชี้จำนวนหุ้นที่มีการอ้างในข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลนั้นยังมีส่วนไม่ถูกต้อง เผยตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร ขณะที่ “บลจ.กรุงศรี” ลดพอร์ตหุ้นอินไซเดอร์ โดยลดสัดส่วนการถือครองลงจากเดิมที่ติด 1 ใน 5 หลักทรัพย์ที่กองทุนถือครองมากที่สุด ลงมาเหลือระดับการถือครองในบางส่วน และอาจปรับลดลงอีกหากวันที่ 1 ม.ค.ยังไม่มีความชัดเจน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัวหลวง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กในช่วงบ่ายวันนี้ (19 ม.ค.) ปฏิเสธกระแสข่าวลือที่ระบุว่า กองทุนภายใต้การบริหารของ บมจ.บัวหลวงได้เข้าซื้อหุ้น บมจ.ซีพีออล์ (CPALL) เพิ่ม โดยเทียบจำนวนหุ้นในเดือน พ.ย 58 กับเดือน ธ.ค.58 แล้วพบว่ามีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ นางวรวรรณ ชี้แจงว่า หลังจากมีเรื่องอินไซเดอร์ออกมาเป็นข่าว และผู้บริหารของ CPALL ยืนยันไม่ลาออก กองทุนของ บลจ.บัวหลวง ก็ไม่เคยซื้อหุ้น CPALL เพิ่มเลย และจำนวนหุ้นที่มีการอ้างในข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลนั้นยังมีส่วนไม่ถูกต้อง ดังนั้น บลจ.บัวหลวง จึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร
ขณะที่ราคาหุ้น CPALL เมื่อเวลา 14.52 น. บวกขึ้นมา 1.20% มาอยู่ที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 484.60 ล้านบาท
อนึ่ง สัปดาห์ก่อน นางวรวรรณ ในฐานะประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า เมื่อปลายปี 58 สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้ทำหนังสือไปถึง CPALL ให้แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีการทำผิดกฎหลักธรรมมาภิบาล หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปรียบเทียบปรับผู้บริหารของ CPALL บางรายที่อาศัยข้อมูลภายในเข้าซื้อหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO)
ด้าน นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทได้ลดการถือครองหลักทรัพย์ตัวหนึ่งที่เกี่ยวข้องต่อการใช้อินไซเดอร์ โดยลดสัดส่วนการถือครองลงจากเดิมที่ติด 1 ใน 5 หลักทรัพย์ที่กองทุนถือครองมากที่สุด ลงมาเหลือระดับการถือครองในบางส่วน และหากภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ ยังไม่มีความชัดเจนของเรื่องนี้ กองทุนภายใต้การบริหารของบริษัทก็จะทยอยลดน้ำหนักการลงทุนลงอีก เพราะการเลือกลงทุนมองถึงเรื่องธรรมาภิบาลด้วย