บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ชูลงทุนหุ้น “ซิลเวอร์เอจ” เติบโตดีภายใต้ภาวะผันผวน
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank-ECB) ออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมโดยการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 0.05% เป็น 0.00% และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจาก -0.30% เป็น -0.40% และการเพิ่มวงเงินเข้าซื้อสินทรัพย์ (QE) เป็น 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยมีผลตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ ถือเป็นข่าวเชิงบวกที่เป็นผลดีต่อการลงทุน
อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายการเงินของ ECB อาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในเดือนนี้ ทั้งการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมวันที่ 15-16 มีนาคม ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจจะมีการพิจารณาการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 15 มีนาคมนี้เช่นกัน
ในส่วนของปัจจัยเชิงลบที่จะต้องเฝ้าติดตามคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และภาวะราคาน้ำมันที่ทำลายสถิติต่ำสุดในรอบหลายปี ทำให้ตลาดการเงินนับตั้งแต่ต้นปีมีภาวะความผันผวนมาก และทำให้เกิดภาวะการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย (Flight to safety) หรือเกิดภาวะ Global Sell off ถึง 2 ครั้งในรอบ 6 เดือน ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม-กันยายน 2015 และล่าสุดในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2016 ดังนั้น ทางกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลเชื่อว่าการจัดพอร์ตการลงทุน Asset Allocation ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการบริหารเงินลงทุนในภาวะที่ตลาดการเงินและการลงทุนมีความผันผวน ทั้งนี้ หนึ่งในกองทุนที่ทางทีมการลงทุนแนะนำคือ กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ (CIMB-PRINCIPAL GSA)
ทั้งนี้ ความแตกต่างระหว่างธีม Global Silver Age กับกลุ่ม Healthcare คือการลงทุนในกลุ่ม Healthcare คือการลงทุนใน “Sector Fund” ซึ่งเลือกลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับการแพทย์เพียงกลุ่มเดียว โดยกลุ่ม Healthcare จะประกอบด้วย Pharmaceuticals (บริษัทยา) Medical Equipment (เครื่องมือแพทย์) Healthcare Services (โรงพยาบาล) และ Biotech Companies (ค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์) ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2015 ที่ผ่านมากลุ่ม Healthcare เกิดแรงเทขายทั้งจาก Global selloff
และคำแถลงการณ์ของฮิลลารี คลินตัน ที่กล่าวว่า หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้าไปบริหารจัดการกับบริษัทในกลุ่ม Biotech ที่ปรับขึ้นราคายาสูงมากเกินไปและเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ส่งผลให้กลุ่ม Healthcare ที่เน้นลงทุนกลุ่ม Biotech ปรับตัวลงแรง เห็นได้จาก MSCI Global Healthcare Index ปรับตัวลงกว่า -11.71% (30 ตุลาคม 2015-11 กุมภาพันธ์ 2016) หากพิจารณาผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี-11 มีนาคม 2016 MSCI Global Healthcare Index ปรับลดลง -6.49% เปรียบเทียบกับกองทุน Amundi HK - Global Ageing Planet Opportunities Fund ที่ปรับตัวลงเพียง -4.64% (ที่มา Bloomberg)
สำหรับกรอบการลงทุนของกองทุน Global Silver Age ที่กว้างกว่ากองทุน Healthcare ทั่วไป โดยในกองทุน Global Silver Age มีการลงทุนใน Healthcare เพียงครึ่งเดียวแต่เน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเอง Anti-aging, กลุ่ม Medical Equipment และ Healthcare Services ที่มีกระแสเงินสดดี สภาพคล่องสูง P/E ประมาณ 15-20 เท่า และไม่มีการลงทุนในกลุ่ม Biotech จึงมีความผันผวนต่ำกว่ากองทุน Healthcare ในขณะที่มีการกระจายการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น กลุ่มธุรกิจด้านความปลอดภัย กลุ่มธุรกิจรถยนต์ กลุ่มการเงินและประกัน กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งกลยุทธ์ของผู้จัดการกองทุนจะเน้นการคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละกลุ่มธุรกิจให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาวะตลาดในแต่ละขณะ เพื่อมุ่งหวังให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว จึงทำให้ผลตอบแทนกองทุน Global Silver Age มีความผันผวนที่ต่ำกว่า
ทั้งนี้ ทาง บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทุนในกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ซิลเวอร์ เอจ ในช่วงระหว่างวันที่ 7-31 มีนาคม 2016 ทุกๆ ยอดลงทุน 1 ล้านบาทจะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน CIMB-PRINCIPAL DPLUS มูลค่า 500 บาท
