บลจ.ทหารไทยมองหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง P/E ต่ำเพียง 16 เท่า สบจังหวะออกกองทุน “Japan Active Equity” เน้นลงทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ชี้กำไร บจ.แนวโน้มโตต่อเนื่อง
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนขณะนี้ว่า จากการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงและคาดว่าจะเติบโตที่ระดับต่ำ และเรื่องค่าเงินหยวนที่หากมีการอ่อนค่าลงมาอีกก็จะเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม มองว่ารัฐบาลจีนยังมีเงินทุนสำรองที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงมองว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัวลงไม่รุนแรงแต่จะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนได้
ขณะที่นโยบายของธนาคารกลางในประเทศอื่นนั้นก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกัน โดยยุโรปนั้นเริ่มมีการพูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมไปถึงการที่ธนาคากลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ติดลบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอีก
ด้านสหรัฐฯ นั้น จากตัวเลขความเชื่อมั่นในภาคการจ้างงานที่ดีขึ้นในปีที่ผ่านมาแต่ในปีนี้ตัวเลขไม่ได้ดีขึ้น การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ล่าสุดจึงมีการชะลอออกไป และมีการคาดการณ์กันว่าการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในปีนี้มีโอกาสไม่ถึง 30%
ดังนั้น ในความไม่แน่นอนในตลาดเงินตลาดทุนซึ่งถือเป็นเรื่องปกตินั้น แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นตัวกำหนดในเรื่องการเข้าไปลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากก็อาจแบ่งเงินไปลงทุนในตราสารทุนที่มีความเสี่ยง แต่หากมีความเชื่อมั่นต่ำก็จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาล
นางเชอรีน บาน หัวหน้ากลุ่มตราสารทุนประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก JPMorgan Asset Management เปิดเผยมุมมองเศรษฐกิจและโอกาสการลงทุนในประเทศญี่ปุ่นขณะนี้ว่า จากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ผ่านมานั้นทำได้ดี ทั้งในเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่น เงินเยนที่อ่อนค่าลงเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น การท่องเที่ยวที่เติบโตสูงขึ้น และค่าแรงที่มีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจนี้จะดำเนินต่อไป จะเห็นได้จากการลดอัตราดอกเบี้ยให้ติดลบ และเป้าหมายที่จะทำให้เงินเฟ้อขึ้นไปถึง 2%
โดยในเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในญี่ปุ่น ที่ผ่านมาผู้บริหารใช้เงินได้ไม่มีประสิทธิภาพ แต่จากนโยบายรัฐที่ต้องการให้บริษัทจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นให้ดีจะดำเนินต่อไปและจะเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นของญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2011 ระดับ ROE เพิ่มขึ้นมา 3 เท่ามาอยู่ที่ระดับ 9% แต่ก็ยังต่ำกว่า ROE ของบริษัทในหุ้นจีน อินเดีย รัสเซีย ซึ่งแม้จะมีธรรมาภิบาลที่ต่ำ จึงเห็นได้ว่าบริษัทญี่ปุ่นยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีก นอกจากนี้เงินเยนที่อ่อนค่าลงเป็นผลดีต่อการส่งออกของญี่ปุ่นและการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อไป
“ปัจจัยที่รัฐบาลญี่ปุ่นอยากเห็นคือระดับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นไปถึง 2% แต่ยังไม่ถึงเพราะเงินเยนแข็งค่าขึ้นและราคาน้ำมันที่ต่ำ แต่ราคาน้ำมันที่ต่ำเป็นปัจจัยหนุนให้ภาครัฐมีการเติบโตต่อไป ดังนั้น ในช่วงที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงมา 15% นี้ จึงมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าไปลงทุน ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในช่วงเวลาที่เหมาะและระดับราคา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังมีความผันผวนบ้างจากหุ้นที่ไม่ได้มีการเติบโตไปตามวงจรเศรษฐกิจ ซึ่งหุ้นเหล่านี้ทำให้ตลาดปรับตัวลงได้”
โดยภาพรวมมองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวที่เติบโต บริษัทจดทะเบียนมีผลกำไรดีและจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้ดี ระดับราคาหุ้นตอนนี้ถือว่ามีความเหมาะสมในการเข้าไปลงทุน แม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงที่มาจากเศรษฐกิจโลกที่เป็นขาลง
ทั้งนี้ บลจ.ทหารไทยเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดทหารไทย Japan Active Equity มูลค่า 2,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 23-26 ก.พ.นี้ ลงทุนผ่านกองทุน JPMorgan Fund-Japan Equity Fund ที่บริหารโดย JPMorgan Asset Management จากการมองตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นให้ผลตอบแทนที่ดี จากปัจจุบันราคาหุ้นญี่ปุ่นถูกมี P/E ต่ำเพียง 16 เท่า เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ที่พัฒนาแล้ว และรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีนโยบายให้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้นเป็น 25% จากเดิม 16% และใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ
“กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดกลาง เล็ก ที่มีการเติบโตสูง และได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยให้น้ำหนักหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว ไอที และไม่ลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐ เช่น กลุ่มแบงก์ รวมไปถึงการเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพที่มองว่าสังคมผู้สูงอายุในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และมีบริษัทที่ได้ประโยชน์ เช่นบริษัทเครื่องสำอาง”
สำหรับกองทุนหุ้นญี่ปุ่น นิกเกอิ 225 ของ บลจ.ทหารไทย ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้แนะนำว่า กองทุนที่ออกมาใหม่นี้เป็นกองทุนที่มีธีมการลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตไม่เป็นไปตามวงจรเศรษฐกิจ ซึ่งมองว่าให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า มีความผันผวนที่น้อยกว่า นักลงทุนอาจแบ่งเงินลงทุนจากกองทุนเดิมมาที่กองทุนนี้ได้เพื่อเป็นการลงทุนหลักของพอร์ตการลงทุน