กสิกรไทยยังชอบตลาดหุ้นยุโรป-ญี่ปุ่น เล็งปั้นกองลุยหุ้นอาเซียน

บลจ.กสิกรไทยแนะพักเงินตราสารหนี้เฝ้ารอจังหวะลงทุน ยังให้น้ำหนักตลาดยุโรป ญี่ปุ่น เผยยังเน้นออกกองเทอมฟันด์ต่อเนื่อง เน้นตราสารให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก และเตรียมออกกองทุนหุ้นกลุ่มประเทศอาเซียน

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึงเป้าหมายและกลยุทธ์ในปี 2559 วางเป้าหมายเป็น บลจ.แห่งแรกที่มุ่งสร้างความสำเร็จทางการเงินให้แก่ลูกค้ารายย่อย โดยการแนะนำพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง โดยมีพื้นฐานแนวคิดที่ว่า “Simplify your Investment Life” บลจ.กสิกรไทยเรามีความพร้อมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่

1). การมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่หลากหลายตอบโจทย์การลงทุนได้ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตการลงทุน

2). การมีผลิตภัณฑ์กองทุนที่มีคุณภาพ

3). การมีบริการและเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทำให้การลงทุนเป็นเรื่องที่ง่ายดาย สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา

ขณะเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยยังได้มองเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 เรื่องด้วยกัน ประเด็นแรกคือ การที่เศรษฐกิจโลกได้เชื่อมโยงเข้าหากันมากขึ้น (Economic Interconnectedness) บริษัทยังเตรียมออกกองทุน K-AEC ที่จะเน้นลงทุนโดยตรงในหุ้นกลุ่มประเทศอาเซียน โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และยังมีแผนออกกองทุนพันธบัตรอาเซียนในช่วงครึ่งปีหลังด้วย อีกทั้งแนวโน้มประชากรที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานะไป (Demographic Shifts) ทำให้ บลจ.กสิกรไทยต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละกลุ่มประชากร และประเด็นสุดท้ายคือ เทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า (Technology Advancement) ในครึ่งแรกของปีนี้มีแผนที่จะเปิดให้บริการใหม่ คือ โปรแกรมการสร้างพอร์ตลงทุนจำลอง (Portfolio Simulation Program) ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ทดลองสร้างพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง และการพัฒนาคุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆ บนระบบการลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน K-Mobile Banking PLUS

ด้านการลงทุน ในส่วนของตราสารหนี้ในปีนี้ยังคงออกกองทุนตราสารหนี้ประเภทเทอมฟันด์ อายุ 3-6 เดือนอยู่ แต่คงเน้นตราสารหนี้ต่างประเทศมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยการลงทุนในตรสารหนี้หลักๆ ยังคงลงทุนในเงินฝาก หุ้นกู้เอกชน ตราสารหนี้ภาครัฐทั้งในและต่างประเทศ โดยตราสารหนี้ต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก ขณะเดียวกัน การลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนในปีนี้ก็มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นจากสัดส่วน 20% ในปีที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 25% ในปีนี้

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในภาพรวมการลงทุในต่างประเทศ ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงมาตั้งแต่ต้นปียังไม่เห็นจุดต่ำสุด จึงแนะนำให้นักลงทุนพักเงินลงทุนไว้ในตราสารหนี้เพื่อรอดูจังหวะลงทุนและเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งนโยบายของจีนที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจเศรษฐกิจมีการชะลอตัว แต่ภาคการบริโภคในประเทศยังเป็นตัวช่วยไม่ให้เศรษฐกิจจีนตกลงแรง

อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าการลงทุนในต่างประเทศยังน่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดหุ้นยุโรป และญี่ปุ่นที่ยังมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงไปมากส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ส่งออกพลังงาน แต่คาดว่าราคาน้ำมันในปีนี้น่าจะมาอยู่ที่ระดับ 40-45 เหรียญ