xs
xsm
sm
md
lg

แอสเซทพลัสชี้ปีนี้ตลาดผันผวน ชูกลยุทธ์ลงทุนถือเงินรอจังหวะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.แอสเซท พลัส มองการลงทุนในปีนี้ผันผวนสูงจากหลายปัจจัย ชูกลยุทธ์ถือเงินสดรอจังหวะลงทุน เผย AUM ปี 2558 เติบโตเพื่อขึ้น 26% ตั้งเป้าปี 2559 แตะ 45,000 ล้านบาท เติบโต 20%

นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า การลงทุนตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกในปีนี้ยังเผชิญความผันผวนสูง โดยสหรัฐฯ เศรษฐกิจอาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ยได้อีกตามการเติบโตของเศรษฐกิจ

ส่วนยุโรปอาจจะมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก แต่มองไม่น่าจะมีเพราะที่ผ่านมาใช้ไม่ถูกจุดประสงค์และยังทำให้ราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นสูง แต่หากไม่มีมาตรการดังกล่าวออกมาน่าจะเห็นการใช้นโยบายการคลังเข้ามากระตุ้น ส่วนญี่ปุ่นแนวโน้มเงินเยนน่าจะอ่อนค่าต่อไป ซึ่งทำให้แนวโน้มที่ตลาดหุ้นจะมีการปรับขึ้นต่อไป และประเทศไทยในปีนี้มองว่าภาคการส่งออกน่าจะดีขึ้นบ้าง การเติบโตของเศรษฐกิจหลักในประเทศไทยยังมาจากการใช้จ่ายของภาครัฐและการท่องเที่ยว

“สำหรับหุ้นไทยในปี 2559 มองว่ายังมีความผันผวน ทาง บลจ.แอสเซท พลัสใช้กลยุทธ์ถือเงินสดเพื่อรอซื้อในจังหวะที่หุ้นปรับตัวลงมาและขายออกเมื่อตลาดขึ้นไปมาก มองว่าดัชนีหุ้นไทยในปี 2559 น่าจะอยู่ที่ระดับ 1,380-1,450 จุด ซึ่งราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่าไม่ถูกแต่ยังไม่น่าสนใจมากโดยเฉพาะต่างประเทศ”

อย่างไรก็ตาม บลจ.แอสเซท พลัส ยังคงมองการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยมุ่งเน้นหุ้นในกลุ่มที่ไม่อ้างอิงกับการปรับตัวขึ้น-ลงของตลาดและสภาวะเศรษฐกิจ แต่มีปัจจัยพื้นฐานดีมีงบดุลที่แข็งแรงและจะได้ประโยชน์จากการดำเนินนโยบายการเงิน ความเปลี่ยนแปลงด้านปัจจัยทางประชากรศาสตร์และพฤติกรรมการบริโภค เช่น หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มสุขภาพ (Healthcare) กลุ่มท่องเที่ยว และธนาคารพาณิชย์และประกัน

ด้านการกระจายสินทรัพย์ลงทุน (Asset Allocation) สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเลือกลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 50% หุ้นไทย 20% ตราสารหนี้ 20% และสินทรัพย์ทางเลือก เช่น น้ำมัน ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 10% อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องอาศัยการจับจังหวะลงทุน (Timing) เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจท่ามกลางตลาดที่มีความผันผวนสูงในปีนี้

ทั้งนี้ ในปี 2558 ที่ผ่านมาบริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการลงทุน (AUM) 37,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26% โดยในปี 2559 ตั้งเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) ปี 2559 ที่ประมาณ 45,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จาก AUM ณ สิ้นปี 2558 บริษัทยังคงมุ่งตอบโจทย์ของผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่การนำเสนอทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย การให้คำปรึกษาด้านการลงทุนที่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของผู้ลงทุนและสอดคล้องกับสภาวะตลาด

ขณะเดียวกันยังจะขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมผ่านพันธมิตรผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ วางเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) ปี 2559 ที่ประมาณ 45,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จาก AUM ณ สิ้นปี 2558

“ในปี 2558 ที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่จำนวนรายเพิ่มขึ้น 32% จาก 5,300 รายเป็น 7,000 รายในปัจจุบัน มีช่องทางการขายผ่านมาทางตัวแทน บล. 60% และผ่านทาง บลจ.แอสเซท พลัส 40% นอกจากนี้กำลังอยู่ในระหว่างทำระบบออนไลน์ซึ่งน่าจะเสร็จในช่วงไตรมาส 1 นี้”

สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บลจ.แอสเซท พลัส จะมุ่งไปที่การบริหารกองทุนที่มีความหลากหลายด้วยความเชี่ยวชาญด้านการจับจังหวะลงทุน (Timing) และการเลือกหุ้นลงทุนแบบรายตัว (Stock Selection Strategy) พร้อมทั้งอาศัยความได้เปรียบในฐานะบริษัทจัดการกองทุนขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวและยืดหยุ่นสูง สร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนพึงพอใจสูงสุดและสามารถเอาชนะผลตอบแทนของเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งยังจะขยายฐานลูกค้าบนฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทแม่ คือ บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และร่วมมือกับพันธมิตรด้านช่องทางการขายต่างๆ



กำลังโหลดความคิดเห็น