บลจ.วรรณมองปัจจัยเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาทิตย์หน้าจะลดความกังวลตลาด เชื่อมั่นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐหนุนดัชนีหุ้นไทยปีหน้าแตะระดับ 1,567 จุด จับจังหวะลงทุนในหุ้นช่วงดัชนีต่ำกว่า 1,300 จุด ฉวยจังหวะ IPO กองทุนเปิด วรรณ ออพพอร์ทูนิตี้ 5/1 ฟันด์ (ONE-OPPORTUNITY5/1) โดยมีเป้าหมายเลิกกองทุนเมื่อหน่วยลงทุนแตะผ่านระดับ 10.53 บาทต่อหน่วยภายใน 5 เดือน โดยเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคมนี้
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลจะเป็นปัจจัยหลักที่มีนัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปีหน้า จากแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จำนวน 20 โครงการ รวมวงเงินกว่า 1.8 ล้านล้านบาท ที่เม็ดเงินจะทยอยเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจให้ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ในปี 2559 บลจ.วรรณประเมินการเติบโตของ GDP อยู่ที่ประมาณ 2.8-3.8% โดยเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ขยายตัวตามแรงกระตุ้นจากนโยบายทางการคลัง จากการบริโภคภาคเอกชนที่ค่อยๆ ฟื้นตัว อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ มองกรอบอัตราเงินเฟ้อปีหน้าจะอยู่ที่ระดับ 0.8-2.0% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มราคาน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีที่อาจจะสูงกว่าปีนี้ ด้านความกังวลเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินบาทในปีหน้าที่เกิดจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ บริษัทคาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ในทิศทางอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่อาจแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินในภูมิภาค เพราะยังเชื่อมั่นในกลไกของภาครัฐจะสามารถช่วยสร้างเสถียรภาพของค่าเงินบาทได้
สำหรับภาพการลงทุน บริษัทยังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยประเมินเป้าหมายดัชนีปีหน้าที่ระดับ 1,567 จุด เนื่องจากตลาดจะคลายความกังวลเกี่ยวกับการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมาขาดความชัดเจนมาเป็นเวลานาน ทำให้ภาพการลงทุนจะมีความชัดเจนขึ้น โดย บลจ.วรรณคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่สภาพคล่องในระบบยังมีอยู่อีกมากจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณของประเทศญี่ปุ่นและยุโรป จะเป็นปัจจัยบวกต่อการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป
นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนหันกลับมาสนใจในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง หลังจากที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระดับค่า P/E ของตลาดหุ้นไทยในปีหน้าอยู่ที่ระดับต่ำเพียง 12.6 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 16.45% และอัตราการจ่ายเงินปันผลของหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 3.61% ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับตลาดภูมิภาคในกลุ่ม TIP (อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ระดับ 14.76 เท่า 15.02% 2.28% และ 16.72 เท่า 13.17% 2.06% ตามลำดับ
นายวินกล่าวต่อว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย ณ ระดับดัชนีในปัจจุบัน โดยเปิดเสนอขายกองทุน วรรณ ออพพอร์ทูนิตี้ 5/1 ฟันด์ (ONE-OPPORTUNITY5/1) โดยมีเงื่อนไขเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.53 บาทต่อหน่วย และมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติไม่ต่ำกว่า 10.50 บาท และบริษัทสามารถรวบรวมเงินสดหรือตราสารสภาพคล่องได้เพียงพอภายในระยะเวลา 5 เดือน เน้นทยอยลงทุนเมื่อดัชนีปรับตัวแตะที่ระดับ 1,250-1,300 จุด โดยคาดการณ์เป้าหมายของดัชนีที่ระดับ 1,380 จุดเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมาย โดยใช้กลยุทธ์พิจารณาลงทุนหุ้นรายตัว (Stock Selection) ที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว
รวมทั้งมีอัตราการเติบโตของกำไรที่โดดเด่นและมีมูลค่าหุ้นต่ำกว่าระดับราคาที่เหมาะสม เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง ท่องเที่ยว การแพทย์ ขนส่งและลอจิสติกส์ ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนสามารถพิจารณาลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ได้ 0-100% เพื่อให้กองทุนมีความยืดหยุ่นและเลือกปรับกลยุทธ์การลงทุนได้เหมาะสมกับสภาวการณ์การลงทุนในช่วงนั้นๆ